วันพฤหัสบดีที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2565

Review: Lucky Brand - Lucky You for Men

Lucky Brand - Lucky You for Men

จุดเริ่มต้นของการก่อตั้งแบรนด์สายยีนส์สุดฮิป เริ่มมาจากการการจับมือกันของเจ้าของแบรนด์ 2 คน อย่าง Gene Montesano และ Barry Perlman ในการสร้างสรรค์ยีนส์ในแต่ละรูปแบบออกมา โดยมีจิตวิญญาณแห่งความเป็นร็อคแอนด์โรลเข้าไปอยู่ในการนำเสนอแฟชั่นยีนส์ของแบรนด์เป็นสำคัญ ซึ่งแน่นอนได้รับความนิยมอย่างมากเพราะมีเอกลักษณ์และความสนุกสนานแฝงอยู่เสมอในการสวมใส่ ซึ่งแน่นอนว่าแบรนด์ไม่ได้มีดีแค่เรื่องยีนส์ Denim แต่ก็มีเสื้อผ้าแบบอื่นๆ เช่น Sportwear เสื้อยืด หรือพวก Activewear ก็มี ซึ่งก็ถือว่าไม่ธรรมดาเช่นกัน

แต่เหมือนเดิมโอโจ้ด้วย คือ จะมาเน้นที่เรื่องน้ำหอม ซึ่งเพราะ Lucky Brand เป็นแบรนด์แฟชั่น แน่นอนว่าก็ต้องมีน้ำหอมเป็นหนึ่งในองค์ประกอบในการสื่อสารให้ครบถ้วนกระบวนความรวมอยู่ด้วย ซึ่งก็มีทั้งน้ำหอมผู้หญิงและน้ำหอมผู้ชายที่มาในการเป็นสไตล์ Cologne ที่เข้ากับการใส่สไตล์แบบยีนส์ Denim ในรูปแบบองค์รวมได้ดีมาก และในครั้งนี้การเล่ากลิ่นก็ขอมารุ่นผู้ชายหนึ่งเดียวของแบรนด์กันหน่อยว่าจะสื่อสารออกมาอย่างไร และทำไมในทุกๆ วันนี้ กลิ่นนี้ยังคงความนิยมมาได้อย่างยาวนานเสมอ ซึ่งกลิ่นนั้นก็คือ Lucky You for Men

เนื่องจากเป็น Eau de Cologne ช่วงเปิดเลยค่อนข้างจะมีความเป็นแอลกอฮอล์ชัดเจนซักครู่เล็กๆ แล้วก็จะเริ่มได้กลิ่นติดเขียวใสแกมหวานหน่อยๆ ของ Clover ที่จะให้โทนกึ่งหญ้าติดหวานสบายผ่อนคลายจมูก กับกลิ่นโทนสมุนไพรติดเขียวหญ้าที่ไม่คม แกมกลิ่นปร่ากึ่งสบู่หน่อยๆ โดยมีกลิ่นออกทางเปรี้ยวของมะขามที่เป็นตัวเสริมให้กลิ่นมีมิติความเป็นโทน Spicy เข้ามาร่วมด้วย ซึ่งโดยรวมช่วงต้นคือ โทนเขียวสดชื่นที่มีความเป็นโทนสมุนไพรแกม Spicy อ่อนๆ ของมะขามที่ติดเปรี้ยวแฝง และแน่นอนว่าน่าจะมีกลิ่นออกทาง Citrus เข้ามาร่วมด้วย ทำให้เนื้อกลิ่นมาสายการเป็น Cologne ผู้ชายสดชื่นเข้าถึงได้ง่ายแบบที่เป็นสไตล์ Fresh Green Cologne  ฉีดแล้ว เออ เนื้อกลิ่นมีความพิมพ์นิยมในสไตล์น้ำหอมชายสดชื่นที่ยังไงก็รอดและมหาชนชอบสูงมาก รวมถึงเข้าทางการเป็นของดีเทคนิคไม่ต้องได้อย่างชัดเจน

ในการเข้าสู่ช่วงกลาง จะสัมผัสได้ก่อนเพื่อนเลยคือ Musk ที่จะเป็นตัวแฝงให้ความสะอาดเป็นพื้นหลังแบบนวลๆ อันนี้จะรู้สึกได้เลย แล้วถึงจะมาจับต้องได้ว่ากลิ่นในช่วงต้นทั้งหมดก็จะยังตามมาในช่วงนี้ โดยให้ความเขียวติดหวานโปร่งสบายๆ และมีความสดชื่นอยู่เช่นเดิม เพิ่มเติมคือกลิ่นเขียวติดสดชื่นแกมผลไม้เล็กๆ แต่เนื้อกลิ่นจะมีความหนามากขึ้นหน่อย เพราะจะมีกลิ่นติดหวานเย้าของเม็ดกระวานที่มาแบบกำลังดี คาบเกี่ยวระหว่างความเขียวนิดๆ และมีความหวานเย้าเผ็ดแบบกลางๆ ที่มีเสน่ห์แบบไม่ได้หวือหวาแต่เอาอยู่เป็นสายสนับสนุนรวมอยู่ด้วย รวมถึบมีกลิ่นปร่าไม้หวานหอมนุ่มแต่ไม่ได้มาแบบเต็มๆ มาเสริมแบบกำลังดี เลยทำให้เนื้อกลิ่นมรมิติที่ให้ความเป็นน้ำหอมชายที่ไม่ได้พึ่งพาแค่ความเขียว แต่มีความนุ่มนวลปร่าระเรื่อแฝงที่เข้าถึงได้ง่ายและมีเสน่ห์แบบเรียบง่ายได้ดีอีกด้วย

ในการเปลี่ยนแปลงก่อนเข้าสู่ช่วงท้าย สิ่งที่จะชัดเจนขึ้นมาเลย คือ โทนไม้หอมที่จะมาแบบกึ่งนวลติดครีมมี่บางๆ ที่สอดรับกับความเป็น Musk นุ่มๆ และมีกลิ่นไม้หอมสะอาดๆ ของไผ่เข้ามาผสมผสานประปราย จึงทำให้เนื้อกลิ่นเริ่มเปลี่ยนเป็นโทนสะอาดแบบสบายๆ มากขึ้น และเมื่อเข้าช่วงท้ายเต็มตัว Musk จะยืนหนึ่งในการให้ความนุ่มสะอาดแบบผ่อนคลาย มีลูกผสมความเป็น Green Musk ที่ให้โทนนุ่มนวลติดเขียวอมหวานแฝงความเป็นไม้หอมครีมมี่อ่อนๆ แบบที่เข้าถึงได้ง่ายมาก และมีความปลอดภัยในการใช้งานสูงแบบที่ใส่แล้วก็ผ่าน อย. ด้านกลิ่นได้สบายมาก

เหมาะสำหรับ - ผู้ชายทุกเพศวัยตั้งแต่ ม.ต้น ขึ้นไปก็สามารถใส่ได้แล้ว เนื้อกลิ่นมีความสดชื่นติดเขียวและมีความเป็นผู้ชายสบายๆ อารมณ์แบบ Safe Scent ที่จัดได้ทุกสถานการณ์ยามกลางวันแบบกวาดหมดและครอบจักรวาลสูงมาก แต่ถ้าใส่ยามค่ำคืน เน้นออกแนวชิลล์ๆ หรือสบายๆ จะดีที่สุด เพราะว่ากลิ่นไม่ได้ไปสายปล่อยของหรือปล่อยพลังนัก ซึ่งถ้าใส่ไปท่องราตรีก็โดนกลิ่นอื่นกลบน่ะ เน้นใส่เพื่อความเรียบง่ายสบายๆ แบบทั่วไป ให้ึความเป็นผู้ชายสดชื่นสู่ความหอมนวลๆ สะอาดๆ เป็นสำคัญน่าจะลงตัวกว่า

ความทน - แม้ว่าจะเป็น Eau de Cologne แต่ความทนถือว่าทำได้ดีไม่น้อย เพราะค่าเฉลี่ยอยู่ที่ราวๆ 6 ชม. เป็นสำคัญ อาจจะไปต่อได้อีกก็ว่ากันที่สภาพผิวผู้ใช้ด้วยส่วนหนึ่ง เพราะบางครั้งใส่อยู่ในห้องแอร์ไม่ได้ไปไหน ก็ยาวไปถึง 9 - 10 ชม. ได้เลย แต่ถ้าอากาศร้อนมากๆ เหงื่อโทรมไหลย้อยตลอดวันก็อาจจะจอดไว เพราะวันที่ไปสู้อากาศร้อนเหงื่อโทรมกายเจอไปที่ราวๆ 4 ชม. ก็เริ่มจางตามเหงื่อ

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในช่วงต้น แต่จะลดเพดานลงมาไวที่การเป็นออร่ารอบๆ ตัวตั้งแต่ช่วงกลางเป็นต้นไป แบบที่เดินสวนกันก็พอยังได้กลิ่นอยู่ และเมื่อแตะที่ 4 - 5 ชม. ไปแล้วก็จะเริ่มเป็น Skin Scent ที่ยังได้ความรู้สึกหอมสะอาดๆ ติดหวานแกมเขียวอ่อนๆ ตีขึ้นมาเวลาขยับเนื้อตัว

สรุป - Safe Scent ชัดเจนมากๆ แบบที่ใส่แล้วยังไงก็รอดแบบ #ของดีเทคนิคไม่ต้อง เน้นที่ความสดชื่นเรียบง่าย ไม่ได้หวือหวาล้ำมาจากไหนก็เอาอยู่ และมีเสน่ห์แบบไม่ต้องดูพยายาม ที่สำคัญกลิ่นนี้เข้ากับการใส่แบบเสื้อยืดกางเกงยีนส์ หรือใส่แบบสบายๆ ในวันที่ไม่ต้องกายความหนักหน่วงทางกลิ่นได้เป็นอย่างดีอีกด้วยเช่นกัน เลยถือว่าไม่แปลกใจที่เป็นตัวหลักในการเป็นน้ำหอมชายหนึ่งเดียวของแบรนด์มาอย่างยาวนาน

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล สามารถเป็นได้ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่เขียน เพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นได้ทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://www.luckybrand.com/mens-3.4oz-cologne-spray/840030.html?dwvar_840030_color=000

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น