วันอาทิตย์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2565

Review: Juliette Has A Gun - Moon Dance

Juliette Has A Gun - Moon Dance

นอกจากที่พื้นฐานจะเป็นน้ำหอม Niche Perfume มาตั้งแต่ต้น และออกน้ำหอมเก๋ๆ ต่างๆ มาก็มากมายจนได้รับความนิยมกันอย่างต่อเนื่อก็จริง แต่สิ่งหนึ่งคือ ถ้ายังอยู่กัยความเป็น Collection เดิม มันก็อาจจะมีอะไรที่แปลกใหม่ในระดับหนึ่ง แต่ไม่น่าจะเทียบเท่าการสร้าง Collection ใหม่ออกมาที่จับตลาดที่แตกต่างมากขึ้นได้

เช่นนั้น Juliette Has A Gun จึงได้ต่อยอดกลิ่นหอมของแบรนด์ตัวเองสู่การเป็น Luxury Collection ที่ใช่ทริคในการสร้างคุณค่าของน้ำหอมขึ้นมาอีกระดับ (แนวเดียวกับแบรนด์ High-End ต่างๆ ที่จะมี Exclusive Collection อะไรประมาณนั้น) โดยทยอยปล่อยน้ำหอมออกมาปีละ 1 กลิ่นตั้งแต่ปี 2013 ถึงล่าสุดคือ ปี 2019 เช่นนั้น ได้เวลาข้ามมาสู่ความ Luxury ก็ต้องมาเล่ากันหน่อยว่ากลิ่นแรกของสายนี้ที่มีโอกาสได้ลองจะออกมาเป็นอย่างไรบ้าง

Moon Dance เปิดตัวมากับความเป็นโทนแป้งโปร่งหวานของไวโอเล็ตที่เรียกว่าเป็นตัวหลักจริงจังกันยาวๆ โดยที่จะมีความปร่าระเรื่อแกมสดชื่นที่เป็นลูกผสมระหว่างความเขียวปนเปรี้ยวขมสร้างบรรยากาศที่ออกเย็นๆ วิบวับนิดๆ ของมะกรูดฝรั่ง (Bergamot) ที่ทำให้ได้ความรู้สึกสดชื่นเย็นๆ แต่ไม่ได้ออกทางสว่าง และก็มีกลิ่นออกทางเขียวที่ค่อนจะไปกึ่งแตงกวาหน่อยๆ เสริมให้ไม่ได้เป็นแป้งหนักเกินไปของใบไวโอเล็ตร่วมด้วย ซึ่งก็ตอบโจทย์กลิ่นอายเย็นๆ และมีความชื้นน้ำค้างหน่อยๆ ยามค่ำคืน ท่ามกลางความหวานหอมแป้งโปร่งที่ระเรื่อคลอเคลียในช่วงเวลาสั้นๆ ของการเป็นต้นทางของกลิ่นแบบนี้

ในการเข้าสู่ช่วงกลาง จะเริ่มสัมผัสได้เลยว่ามีความครีมมี่เย้ายวนอวลหลงใหลเสริมขึ้นมาแบบชัดเจน และให้ความเป็นโทน Classic สายดอกไม้ขาวที่มีเสน่ห์ของซ่อนกลิ่นแบบเต็มๆ แต่กลิ่นไม่ได้มาแค่นี้แต่มีความเป็นน้ำผึ้งที่มีความกลางๆ ไม่ได้ออกทาง Dirty หรือใสเกินไป ให้ความความลึกและระเรื่อแบบที่จะน่ารักก็ได้ จะเย้าลึกก็ดี หรือจะหวานซึ้งก็มาเต็ม เรียกว่าโทนน้ำผึ้งคือตัวแย่งซีนที่ทำให้กลิ่นมีความหอมนวลหวานแบบมีมิติที่น่าประทับใจมาก ตามด้วยความนวลกุหลาบที่มาสอดรับกับไวโอเล็ตกับความเป็นโทนแป้ง ยิ่งทำให้เนื้อกลิ่นมีเลเยอร์ที่น่าสนใจเข้าไปอีก เพราะเสริมความโรแมนติคได้อย่างพอดิบพอดีและส่งเสริมกันอย่างลงตัวในทุกๆ ช่วงกลิ่นที่ให้เลเยอร์ความเป็นโทนแป้งดอกไม้ขาวที่มีความหวานรื่นรมย์ ผ่อนคลาย มีเสน่ห์ แกมอบอุ่นหน่อยๆ แฝง และมีความงดงามในตัวสูงมาก ที่สำคัญแตะความเป็นโทนแนว Classic เข้ามาร่วมด้วยอย่างพอดิบพอดีสร้างความร่วมสมัยในกลิ่นเข้าไปอีก

เมื่อเนื้อกลิ่นเริ่มลดทอนโทนแป้งลงตามลำดับแต่ยังคงมีอยู่แบบเป็นผู้สนับสนุนรองที่มีความสำคัญ ความเป็นกลิ่นโทน Musk ก็เริ่มเข้ามามีบทบาทเด่นจนกลายเป็นตัวเดินกลิ่นหลักในช่วงท้าย ซึ่งเนื้อกลิ่นจะมีลูกผสมของความหอมนุ่มนวลแต่มีความลึกที่เย้ายวนเนียนๆ แกมน่าค้นหาติดดาร์กแฝง ซึ่งจับต้องได้เลยว่ามี Oak Moss เป็นหนึ่งในตัวสร้างออร่ากลิ่นลักษณะนี้ กับกลิ่นโทนกึ่งแอมเบอร์ที่เป็นตัวช่วยให้เนื้อกลิ่น Musk และโทนแป้งดอกไม้ขาวแกมหวานน้ำผึ้งที่เบาลงมามีความอบอุ่นน่าซุกให้จับต้องได้ แต่ที่ไม่เล่าไม่ได้ก็คือ พิมเสน ซึ่งอันนี้เป็นหนึ่งในตัวแปรสำคัญไม่น้อยให้การสร้างความปร่าหวานระเรื่ออ่อนๆ วิบวับในปลายกลิ่นให้รู้สึกรื่นรมย์และเพลิดเพลินในการรับรู้ ซึ่งช่วงท้ายคือว่าเป็นการเดินเข้าสู่โทนนุ่มนวลรื่นรมย์ในสไตล์แบบโทน Modern แบบชัดเจนมากขึ้น โดยที่ยังมีความเป็นลูกเอื้อน Classic หน่อยๆ สร้างความร่วมสมัยอยู่ตลอด ปิดท้ายการเป็น Moon Dance ได้นวลนุ่มน่าซุกแบบโรแมนติคได้อย่างสมูธกันเลยทีเดียว

เหมาะสำหรับ - ผู้หญิงทุกเพศวัยทำงานเป็นต้นไป ซึ่งเนื้อกลิ่นมีความ Feminine ชัดเจนในการสื่อสารโทนดอกซ่อนกลิ่น แป้งหอม และน้ำผึ้ง ซึ่งอย่างน้อยถ้าผู้ใช้ผ่านกลิ่นแนวดอกไม้ขาว Classic มาบ้างจะอินกับตัวนี้ได้แบบฟินไปได้เลย ซึ่งกลิ่นเข้ากับหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวัน โดยสามารถใส่ได้หมดทั้งทางการ (แบบเน้นความเหมาะสม) และทั่วๆ ไปที่เน้นความหวานแนววางตัวดีมีความโรแมนติคแนวๆ นั้น รวมถึงยามค่ำคืนที่เหมาะมากกับการใส่แบบเน้นการแสดงความรู้สึกหวานหอมและความรัก หรือใส่ออกงาน โดยเฉพาะงานแต่ง อันนี้เข้าทางสุดๆ แต่ไม่เหมาะกับการใส่ไปท่องราตรีเท่าไหร่ เพราะกลิ่นไม่ได้เป็นเทรนด์เย้ายวนชวนโต้งๆ แบบสายขนมทั้งหลาย รวมถึงตัดออกไปได้เลยก็คือการใส่เพื่อกิจกรรมกลางแจ้งกับออกกำลังกาย

ความทน - อันนี้ต้อยกให้เขาเลยเพราะสิ่งที่เจอคือ 18 ชม. กลิ่นยังคงอยู่ เรียกว่ามีความเป็นเลิศในด้านนี้ได้เลย และยังไงก็สบายใจได้ว่า 8 ชม. เป็นพื้นฐานแน่นอนในความยาวนานของกลิ่น

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีมากในตอนต้น แล้วจะลดลงมากระจายดีไปราวๆ 3 ชม. หลังจากที่ฉีด ถึงค่อนลงมาเป็นปานกลางที่ล้อมเป็นบาเรียรอบกาย ตีขึ้นให้รู้สึกหอมตลอด จนเมื่อเข้าชั่วโมงที่ 8 ก็จะเริ่มเป็นออร่ารอบๆ ตัวกัน จนถึงราวๆ 12 ชม. ถึง Skin Scent ตีขึ้นยามขยับเนื้อตัว

สรุป - Moon Dance มีแรงบันดาลใจมาจากแสงจันทร์นวลผ่องที่มีความงดงามระยิบระยับสบายตาแกมอบอุ่นในความรู้สึก ซึ่งอันนี้ใช่เจอมาหลายแบรนด์ที่ได้แรงบันดาลใจมาในลักษณะนี้ และนี่ก็เป็นหนึ่งในนั้นที่เอาความเป็นกลิ่นอายแสงจันทร์มานำเสนอกับการเป็นโทนแป้งหอมแกมหวานซึ้งแกมน้ำผึ้งที่มีความคาบเกี่ยวระหว่างแนว Classic ไปสู่โทนทันสมัยที่มีความนุ่มนวลแบบที่หอมชวนประทับใจมาก แม้ว่าจะเป็นน้ำหอมผู้หญิง แต่ความงดงามที่มีของกลิ่นไม่ว่าเพศไหนก็จับต้องและมีความสุขได้

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล สามารถเป็นได้ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่เขียน เพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นได้ทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://us.juliettehasagun.com/products/moon-dance

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น