Bond No.9 - New Haarlem
ในมุมมองของการท่องเที่ยว ถ้าได้ไปเที่ยว New York มักจะมีบางย่านที่คนส่วนใหญ่หรือแทบทุกคนที่ทั้งเป็น New Yorker เองและนักท่องเที่ยวอื่นๆ มักจะบอกว่า “มรึงอย่าไป มันไม่ปลอดภัย” นั่นก็คือบรองซ์และฮาร์เร็ม เพราะ 2 ย่านนี้ประวัติช่างโชกโชนมาตั้งแต่อดีตยันปัจจุบัน ยิ่งในอดีตนี่ความเถื่อนสุดติ่งแบบไม่ต้องพูดถึงเลยเพราะยิงกันเป็นเรื่องปกติ แต่ในปัจจุบันแม้ว่ากิตติศัพท์ก็ยังคงไม่ใช่เล่นๆ แต่ใช่ว่าจะเป็นสถานที่ที่เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์กลิ่นไม่ได้ซักหน่อย เพราะว่า Bond No.9 สามารถเอาย่านต่างๆ ของ New York มาต่อยอดได้อยู่แล้ว และครั้งนี้จะมาเจาะกันที่ย่านฮาร์เล็มที่ขึ้นชื่อกัน
ซึ่งเอาจริงๆ ย่านนี้ก็มีคลับ Jazz ดีๆ เยอะเลย แถมโดดเด่นในเรื่องอาหารแนว African American และมีโรงละครชื่อดังอย่าง Apollo Theater ที่จัดแสดงดนตรีและคอนเสิร์ตมานักต่อนัก เช่นนั้น การสื่อสารกลิ่นผ่านน้ำหอมจะต้องเอาความดีงามของสิ่งเหล่านี้มานำเสนอ เช่นนั้น มาว่ากันเลยดีกว่าว่าย่านฮาร์เล็มในแบบฉบับ Bond No.9 จะเป็นอย่างไรบ้างกับรุ่นนี้เลย New Haarlem
เปิดตัวกันด้วยกลิ่นกาแฟที่ฟุ้งออกแบบกำลังดี โดยมีกลิ่นอายโทนลาเวนเดอร์ที่เข้าไปโซนสมุนไพรค่อนไปทางติดเขียวแห้งหน่อยๆ ซึ่งสอดรับกันดีกับกลิ่นกาแฟมากเลยทีเดียว และไม่ใช่แค่นั้นโทนกลิ่นออกทางเขียวติดสดชื่นบางๆ ปนเขียวแห้งๆ เจือขมติดเปรี้ยวอ่อนๆ ในเนื้อกลิ่นที่น่าจะเป็นโทนสร้างบรรยากาศจากมะกรูดฝรั่ง (Bergamot) ซึ่งทำให้ช่วงต้นเป็นโทนกาแฟที่กลั้วลาเวนเดอร์สมุนไพรติดเขียวได้อย่างลงตัวและน่าทึ่งมาก เพราะให้อะโรม่าที่ผสมกันได้อย่างสมดุลย์จับต้องได้ทุกโทนแบบส่งเสริมกันได้เป็นอย่างดี แล้วกลิ่นจะเริ่มเปลี่ยนแปลงทีละนิดๆ และก็เข้าสู่ช่วงกลางแบบที่ต้องบอกเลยว่า นี่แหละคือไฮไลท์ที่ยอดเยี่ยมมากในการเป็นโทนกลิ่นกาแฟกันเลยทีเดียว เพราะอะไรน่ะเหรอ?
เพราะช่วงกลางคือกลิ่นกาแฟที่หอมกลมกล่อมและมีเสน่ห์มาก กลิ่นกาแฟจะมาแบบกรุ่นๆ อบอวลแบบที่มีความครีมมี่อ่อนๆ ของวานิลลาคลออยู่ แล้วมีกลิ่นไม้ซีดาร์ที่ติดโปร่งสะอาดมาตัดทอน ซ้อนไปกับกลิ่นโทนลาเวนเดอร์ที่ตามมาช่วงนี้เสริมให้กลิ่นมีมิตินวลเจือสมุนไพรอ่อนๆ ทำให้ให้กลิ่นไม่ได้ออกทางขนมจัดจ้าน แต่ให้ความเป็นกาแฟที่ครีมมี่เบาๆ อบอุ่นหอมติดขมลุ่มลึกปนนวลครีมซ้อนกลิ่นไม้สะอาดขรึมแบบอารมณ์กลิ่นกาแฟกรุ่นอบอุ่นในที่โปร่งหน่อยๆ ซึ่งเรียกว่าเป็นช่วงที่ต้องยอมให้เลยและสามารถตกเอาคนที่ชอบกลิ่นโทนกาแฟให้ฟินไปข้างนึงได้ด้วย ซึ่งเนื้อกลิ่นจะมีพลังที่แผ่ออกมาชัดเจนมาก และเป็นบาเรียรอบตัวเลยก็ว่าได้ และเมื่อเริ่มรู้สึกถึงโทนอบอุ่นเจือวานิลลาที่เริ่มชัดขึ้นมาพร้อมกับความอวลอุ่นในเนื้อกลิ่นเริ่มพัฒนามากขึ้นอีกสเต็ป ก็รู้ได้เลยว่าเปลี่ยนเข้ามาสู่ช่วงท้ายแล้ว เนื้อกลิ่นจะได้อารมณ์กลิ่นอวลๆ ครีมมี่ติดกึ่งนมกึ่งถั่วฮาเซลนัทหน่อยๆ ที่สร้างอารมณ์กาแฟครีมมี่เบาๆ เคล้าไซรัปฮาเซลนัทแบบที่ไม่หวานมาก ออกแนวหวานน้อย แต่ให้อะโรม่าลุ่มลึกบนพื้นฐานกลิ่นที่อบอุ่นเป็นหลัก ที่สำคัญจะจับต้องได้ถึงกลิ่นพิมเสนที่ให้โทนกึ่งสะอาดกึ่งสมุนไพรปร่ารื่นจมูกอ่อนๆ ปลายกลิ่นอีกด้วย ซึ่งแน่นอนว่ามีความเย้ายวนและมีเสน่ห์ดึงดูดชัดเจนเข้ามาเสริมให้กลิ่นมีความครบครันมากขึ้นในการสร้างออร่ากลิ่นกาแฟที่ได้ทั้งความหอมอวลรื่นรมย์และได้ความมีเสน่ห์เรียกเรตติ้งแบบนิ่งๆ แต่จงใจได้อย่างชัดเจนมากจริงๆ ยอมในความสมดุลย์และความงามทางกลิ่นที่ลงตัวทุกเม็ดมาก บอกเลย
เหมาะสำหรับ - Unisex ชัดเจนเพราะกลิ่นกาแฟมีความกลางๆ มากพอที่แตะได้หมด ตั้งแต่วัยเรียนมหาลัยขึ้นไปก็ใช้งานตัวนี้ได้สบายมาก เพียงแต่ต้องเบามือหน่อย เพราะกลิ่นแม้จะมีความเป็นกาแฟงามๆ แต่มันมีพลังแผ่รอบกายมาก ซึ่งถ้าจำนวนสเปรย์เหมาะสม จะสร้างออร่าทางกลิ่นที่เรียกคำชมได้สบายๆ และหอมมีเสน่ห์แบบกาแฟครีมมี่อ่อนๆ แก้วโปรดได้ดีมากจริงๆ ซึ่งเข้าสกับหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวัน ทั้งทางการและทั่วๆ ไป แต่ให้ตัดการใส่เพื่อกิจกรรมกลางแจ้งหรือออกกำลังกายไปได้เลย ตีขึ้นจุกเอาได้ แถมคนรอบข้างอาจจะแบบ “แกมาผิดงานหรือเปล่าเนี่ย” เข้าให้ ส่วนยามค่ำคืนไม่ว่าจะใส่ออกงานหรือท่องราตรีบอกเลยตัวนี้เรียกเรตติ้งได้ดีมาก ไม่ได้ไก่กา ไม่ได้ดูพยายาม แต่มีดีและสร้างเสน่ห์ทางกลิ่นที่ยกระดับคนใช้ให้ทั้งสมาร์ท ทั้งเซ็กซี่ และมีระดับชัดเจน
ความทน - 8 ชม. เรียกว่าเด็กๆ เลยดีกว่า เพราะ 15 ชม. กลิ่นยังอยู่ แถมอาบน้ำก็แล้ว นอนไปจนตื่นเช้าก็แล้วกลิ่นก็ยังติดผิวอ่อนๆ อยู่อีก เช่นนั้นไม่ต้องห่วงเรื่องนี้เลย
การกระจาย - ยอดเยี่ยมจริงๆ เพราะตั้งแต่ช่วงเปิดยันปลายช่วงกลาง ถือว่าแรงดีไม่มีตกมากๆ อารมณ์กลิ่นแบบสาย Powerhouse ที่มีพลัง แต่ก็ไม่ได้ถึงกับทิ้งบอมบ์จัดจ้านจนออกแนวเอะอะก็ระรานใคร แต่ให้ความทรงพลังแบบปล่อยเสน่ห์แบบหน้านิ่งที่มีชั้นเชิง และรู้ตัวดีว่ากำลังทำอะไรอยู่ประมาณนั้น ซึ่งเทียบดูเวลาราวๆ 10 ชม. ไปแล้วถึงได้ผ่อนลงมาเป็นออร่ารอบๆ ตัวไปเรื่อยๆ จนกว่าน้ำหอมเองจะพอใจ
สรุป - ถ้าให้มองคาแรคเตอร์กลิ่น อารมณ์จะเหมือนผู้ชายผิวสีที่หล่อลากมาก (อารมณ์แบบท่าน Duke Simon ใน Series เรื่อง Bridgerton ที่ Rege-Jean Page เป็นผู้แสดง) และมีเสน่ห์สุดๆ แถมรู้ที่จะปล่อยเสน่ห์ของตัวเอง สไตล์แบบหนุ่มเจ้าสำราญมาดนิ่งอารมณ์ Jazz Style ประมาณนั้นเลย และที่แน่ๆ ประโยคที่ว่า “นี่คือหนึ่งในกลิ่นกาแฟที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก” อันนี้ไม่ปฏิเสธสิ่งที่หลายๆ คนที่ผ่านกลิ่นนี้มาทั้งไทยและเทศบอกมาเลย ดีงามสมคำเล่า ที่สำคัญกลิ่นนี้เป็นลูกรักลูกหวงสุดๆ ไปเรียบร้อยโรงเรียนเข็มขัดสั้นไปแล้วล่ะ
หมายเหตุ:
1.
บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล
ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้
ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”
Photo
Credit - https://www.bondno9.com/new-haarlem.html#
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น