วันพุธที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2564

Review: Peck Palitchoke - Colour Soul Breath

Peck Palitchoke - Colour Soul Breath 

จากความสำเร็จของ Colour Soul Secret ที่เปิดตัวออกมาเป็นหนึ่งในน้ำหอม Celebrity เมืองไทยที่มีแฟนๆ หรือนุชผู้น่ารักทั้งหลายให้การสนับสนุนมากที่สุดของ “เป็ก ผลิตโชค” แบบ Limited Edition กลับกลิ่นอายสบายๆ จากไอทะเลในปี 2019 ก็กวาดคำชมกันอย่างมากในการสร้างสรรค์กลิ่นและก็ได้ใจคนชอบน้ำหอมกันจนตอนนี้ Sold out ไปแล้ว

และในปี 2020 ก็ได้เวลาของการต่อยอดในการเป็น Colour Soul ที่จะมาให้ความหอมกันต่อการสื่อสารผ่านกลิ่นที่มี Keyword สำคัญอย่าง “ลมหายใจ” ที่เป็นกลิ่นหอมดังสื่อกลางให้สื่อถึงกันได้ระหว่างตัวเป็กกับแฟนคลับ เช่นนั้น กลิ่นลมหายใจนี้จะเป็นอย่างไร และเชื่อมโยงกับตัว Secret หรือไม่ก็มาว่ากันเลยที่รุ่นนี้ Colour Soul Breath

โทน Citrus จะมาทักทายกันก่อนเลยในช่วงแรกสเปรย์ ซึ่งในเนื้อกลิ่นจะมีการผสมผสานกลิ่นอายกึ่งๆ สไตล์ Cologne ที่สดชื่น และเข้าถึงได้ง่ายแบบที่ไม่ได้คมบาดจนเกินไป ที่จะจับต้องได้ชัดๆ เลยคือ เลมอนเพราะจะมีความเปรี้ยวสดชื่นติดหวานปลายกลิ่น แต่ก็จะมีโทนติดเปรี้ยวขมที่สร้างบรรยากาศ เพราะในเนื้อกลิ่นจะมีโทนติดเขียวปนเมือกอ่อนๆ กลิ่นคล้ายดอกไฮยาซินท์แบบที่ไม่ได้เขียว Oily เมือกๆ จัดๆ ขนาดนั้น แต่จะให้อารมณ์แบบกลิ่นเมือกเขียวๆ ที่มีความอะโรม่าเบาๆ กำลังดี ซึ่งเป็นลักษณะแบบดอกไม้ในสวนแนวๆ พวก Bluebell หรือว่า Bellflower อะไรประมาณนี้ เลยจะทำให้ความรู้สึกของโทนกลิ่นจะได้ความสว่างสดชื่นแบบที่ให้ความสมดุลย์ได้ความสดชื่นติดเขียวอ่อนๆ สบายๆ และมีเฉดสีในโทนกลิ่นที่เป็นฟ้าอมเขียวสว่างที่พอเหมาะและลงตัวมาก บอกเลยว่าถ้าพื้นฐานคนชอบกลิ่นสดชื่นติดเขียวที่ไม่ต้องเยอะสิ่งแต่เอาอยู่ในเรื่องความหอมสามารถโดนตกได้เลยในทันที

เมื่อกลิ่นผ่านไปไม่เกิน 10 นาที ก็เป็นการเข้าช่วงกลางที่จะจับต้องได้ว่าเนื้อกลิ่นมีการ Twist หักมุมหน่อยๆ เพราะว่าจะเริ่มมีกลิ่นออกทางโกโก้ที่ให้ความอวลแห้งฟุ้งออกมาเพียงแต่ไม่ได้หักมุมจัดๆ จนกลายเป็นกลิ่นโทนแบบเข้มหนักแต่อย่างใด กลับให้มิติของกลิ่นที่มีมากกว่าความสดชื่นติดเขียว ซึ่งแน่นอนว่าในเนื้อกลิ่นโทนโกโก้เมื่อจับต้องดีๆ กลิ่นจะไม่ได้ไปสายขนม แต่ให้ความเย้าน่าค้นหาโดยยังมีกลิ่นอายโทนสดชื่นติดเขียวเจือเปรี้ยวปนสะอาดที่เป็นลักษณะโทน Citrus และมีปร่าหน่อยๆ คล้ายเหล้าจินที่น่าจะมาจากจูนิเปอร์เบอร์รี่ เลยทำให้เลเยอร์กลิ่นจะมี 3 สเต็ป คือ Citrus สดชื่นที่ตามมาจากช่วงต้นเคล้ากับติดเขียวปนสะอาด กลิ่นโทนปร่าออกทางเหล้าจินที่มีความเขียวหน่อยๆ เคล้ากับกลิ่นเขียวใบไม้ ซึ่งจะฉาบเลเยอร์ที่ 3 ที่ให้ความอวลกำลังดี ไม่ได้หนักมากเกินไปอย่างโกโก้ที่ได้อารมณ์สีน้ำตาลเข้ม เรียกว่าไล่เฉลดสีในโทนกลิ่นได้ดีจากสีฟ้า ตามด้วยเขียว และปิดท้ายด้วยน้ำตาล ได้ภาพต้นไม้กับท้องฟ้าชัดเจนเลย ซึ่งอย่างหนึ่งคือ เนื้อกลิ่นช่วงกลางจะขยับจาก Unisex มามีโทนน้ำหอมผู้ชายที่เป็นโทนสดชื่นแต่มีมิติกลิ่นที่มีเสน่ห์แบบไม่ได้ต้องบิลด์หรือพยายาม ซึ่งจะถ้าเป็นผู้หญิงใช้จะได้ความรู้สึกเหมือนมีกลิ่นน้ำหอมผู้ชายติดผิวกายให้รู้สึกดีอะไรประมาณนั้นได้ไม่ยาก

จนเมื่อโทนกลิ่นเริ่มเปลี่ยนแปลง เพราะว่ากลิ่นโทน Citrus ต่างๆ กับโทนเขียวเริ่มจางไปเรื่อยๆ จนจับต้องไม่ค่อยได้แล้วก็จะเข้าช่วงท้ายของน้ำหอมที่จะมีโทนกลิ่นติดอวลไม้หอมที่ค่อนไปทางติดแอมเบอร์อบอุ่นและมีความเค็มอ่อนๆ คลออยู่ ซึ่งถ้าจะมองว่าเป็นการรับช่วงลายเซ็นต่อมาจากรุ่น Secret เลยก็ย่อมได้ที่จะมีโทนลักษณะนี้อยู่ ซึ่งจับต้องได้ชัดเจนถึงกลิ่นโทนไม้หอมที่มีความโปร่งหน่อยๆ แนวไม้ซีดาร์ และจะมีกลิ่นอวลติดแอมเบอร์ปนเค็มนิดๆ ซึ่งก็น่าจะเป็นสารหอมอย่าง Ambroxan ที่มาสร้างออร่าความอวลเย้าทันสมัยเข้ากับเทรนด์น้ำหอมยุคนี้ เพียงแต่กลิ่นจะไม่ได้อบอวลสร้างบาเรียหนักหน่วงอะไรนัก ให้ความเรื่อยๆ คุมโทนเพราะมี Musk มาเสริมให้ความนวลๆ เรื่อยๆ คลอๆ เกลาจนทำให้ได้กลิ่นอวลๆ แบบไม้หอมมีความอุ่นติดเค็มหน่อยๆ ที่มีความนวลสะอาดรองพื้นอยู่ ซึ่งกลายเป็นข้อดีที่ทำให้กลิ่นให้ความเรื่อยๆ อวลอย่างมีเสน่ห์และไม่โฉ่งฉ่าง ให้ลักษณะกลิ่นแบบสไตล์มินิมัลปิดท้ายการเป็น Breath ที่เข้าถึงง่าย ทันสมัยและลงตัวเลยทีเดียว

เหมาะสำหรับ - กลิ่นเป็น Unisex อันนี้ใช่เลย ตรงตาม Concept ของน้ำหอม แต่จะไพล่ไปทางผู้ชายมากกว่าหน่อย ซึ่งเอาจริงๆ ถ้าผู้หญิงจะใช้ก็ได้เพราะมันได้อารมณ์สบายๆ กึ่งทะมัดทะแมง หรืออารมณ์แบบน้ำหอมผู้ชายติดผิวกายที่มีเสน่ห์ได้ Contrast ดีเลยทีเดียว ซึ่งเข้ากับทุกสถานการณ์ยามกลางวันไม่ว่าจะทางการหรือทั่วๆ ไป เรียกว่ากวาดหมดเลยก็ย่อมได้ในการใช้งาน แถมมีระดับในเนื้อกลิ่นอีกด้วย ส่วนยามค่ำคืน เน้นใส่ทั่วๆ ไปจะดีกว่า เพราะกลิ่นไม่ได้ไปสายเน้นปล่อยพลังและเซ็กซี่แบบจัดจ้านเรียกแขกนัก

ความทน - ลงตัวที่ราวๆ 8 ชม. ตีบวกลบไว้ที่ 2 ชม. ส่วนจะไปได้เกินกว่านี้ไหม ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและจำนวนสเปรย์ด้วยส่วนหนึ่ง โดยส่วนตัวเจอไปที่ 10 ชม. สบายๆ กับ 6 สเปรย์ในห้องแอร์ 

การกระจาย - กลิ่นกระจายกลางๆ ในตอนต้น แล้วจะพีคขึ้นมากระจายดีกันราวๆ 3 ชม. ที่เหลือจะลงมาปานกลางอีกทีแล่้วคงตัวกันไปเรื่อย จนถุงช่วงท้ายที่จะเป็นออร่ารอบๆ ตัว พ้นราว 6 ชม. ไปแล้วจะเริ่มเป็น Skin Scent

สรุป - ชอบโทนกลิ่นตรงที่สื่อสารได้ดีมากกับสีฟ้าแบบท้องฟ้าสดชื่น สีเขียวแบบอารมณ์กลิ่นอายต้นไม้ใบไม้ จะแตะความเป็นกลิ่นสวนโปร่งๆ ก็ได้ และสีน้ำตาลที่เป็นโทนที่ได้อารมณ์ต้นไม้และพื้นดินได้ดี ก่อนที่จะเป็นกลิ่นอายไม้หอมอวลๆ เย้ายวนที่เอาอยู่และรอดได้สบาย หนึ่งใน Daily Scent ที่ทำออกมาได้ลงตัวและพร้อมสูดลมหายใจดมได้อย่างเพลินจมูกมาก

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://www.vogue.co.th/beauty/coloursoulbreathbypeck


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น