Mandarina Duck - Freedomland
น้ำหอมจากแบรนด์แฟชั่นอย่าง Mandarina Duck ที่คนไทยอาจจะไม่ได้คุ้นเคยเท่าไหร่ แต่ถ้าในอิตาลีแบรนด์นี้ถือว่าเอาอยู่ในด้านความทันสมัยและสีสันที่สดใสมาเสมอ และแน่นอนคุณภาพน้ำหอมก็ไม่ได้เป็นสองรองใครเสียด้วย ซึ่งเมื่อปี 2020 ที่ผ่านมาแบรนด์เองก็เปิดตัว Collection น้ำหอมใหม่ออกมาอย่าง The Duckers ที่เน้นความสดใสของสีสัน ลายสกรีน และ Concept ที่สื่อสารถึงกลิ่นอายการท่องเที่ยวโดยเปรียบตัวผู้ใช้เป็น The Duckers ที่จะเลือกได้เวลาตัวเองเป็นสไตล์ไหน โดยออกมาทั้งหมด 3 กลิ่นที่เห็นแล้วสามารถเกิดกิเลสได้ไม่ยาก
แน่นอนเมื่อเห็นเช่นนั้น ดูรวมๆ แล้วมีเสน่ห์เหลือเกิน ไม่ต้องมาเขินจัดมาหมดจริงๆ ซึ่งเมื่อได้ผ่านการเรียนรู้กลิ่นมาแล้ว ก็เลยเริ่มทยอยนำมาเล่าเพื่อให้รู้ว่ากลิ่นมีดีอย่างไรบ้าง และตัวแรกที่ตกผลึกได้ที่จนเอามาถ่ายทอดต่อได้นั่นก็คือ Freedomland ที่นำเสนอกลิ่นอายของ The Duckers สไตล์การท่องเที่ยวที่อิงตามการไปร่วมเทศกาลทางดนตรีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Sonar ที่บาร์เซโล่า แล้วไปต่อที่ Coachella ที่แคลิฟอร์เนีย แล้วไปปิดท้ายที่ Glastonbury ที่อังกฤษ เรียกว่าเข้าทางสายปาร์ตี้และมีดนตรีในหัวใจสุดๆ ไปเลย ซึ่งกลิ่นที่ออกมานั้นก็บอกได้เช่นนี้
Freedomland นี่คือ Cocktail Scent’s Lover กันได้เลย เพราะว่าในทุกๆ ช่วงกลิ่นความเป็นค็อกเทลเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะโดดเด่นมากจริงๆ โดยจุดเริ่มต้นในการเปิดกลิ่นจะวูบขึ้นมาแบบผลไม้รวมที่จะจับความโดดเด่นของแต่ละตัวได้อย่างสนุกสนานมาก เริ่มจากสับปะรดที่วูบหอมสดชื่นติดฉ่ำหน่อยๆ เคล้ากลิ่นส้มที่ให้ความหวานอมเปรี้ยวสดชื่นตามด้วยกลิ่นสตรอเบอร์รี่แบบน้ำสตรอเบอร์รี่ที่ให้ความเปรี้ยวหอมเจือหวานออกทางโทนสีแดง แ กมกลิ่นเปรี้ยวสดชื่นที่สร้างความ Sparkling ให้เนื้อกลิ่นของเลมอน เรียกว่าไล่โทนกลิ่นผลไม้ได้อย่างลงตัวให้ความฟรุตตี้กึ่งน้ำพันช์ผลไม้ที่สดชื่นมาเลย แต่กลิ่นไม่ได้มีแค่นี้ เพราะจะมีความเขียวปร่าอะโรม่าสดชื่นของมินต์ที่เข้ามาเสริมด้วย ซึ่งให้นึกถึงน้ผลไม้รวมที่ใส่ใบมินต์ลงไปในนั้น นั่นแหละใช่เลยล่ะ ช่วงเปิดของกลิ่นนี้
ไม่เกิน 3 นาทีถัดมาตัวเสริมด้านความอะโรม่าของสายเครื่องเทศติดเขียวโปร่งที่มาช่วยให้กลิ่นมีความกลมกล่อมมากขึ้นอย่างโหระพาจะเสริมเข้ามาแต่จะไม่ได้เป็นโหระพาที่อวลเขียวอุ่นนัก แต่จะเป็นกลิ่นโหระพาตามธรรมชาติที่ไม่ได้เข้มข้นเกินไป แบบได้กลิ่นอ่อนๆ กำลังดีที่มาทำให้กลิ่นในช่วงต้นไม่ได้ใสแจ๋วแหววเกินไปซักครู่ กลิ่นโทนค็อกเทลที่มีรัมมะพร้าวจะเสริมขึ้นมาทีละหน่อยๆ มีโทนออกทากะทิๆ ครีมมี่เบาๆ มาผสมผสานกับโทนสับปะรด จนได้อารมณ์กลิ่นแนวค็อกเทล Pina Colada ที่เรียกว่าชัดมาก จนแบบว่าอารมณ์ค็อกเทลแก้วโปรดมาเลยทีเดียว กลิ่นจะได้ความกรุ้มกริ่มของรัมติดครีมมี่กะทิเนียน ที่จะมีโทนเปรี้ยวอมหวานหอมน้ำสับปะรดตลออยู่ตลอด ซึ่งนี่แหละจะเป็นตัวหลักของช่วงกลางเลย แต่กลิ่นจะไม่ได้ตรงทื่อๆ แต่เพียงแค่นี้เพราะว่าโทนน้ำพันช์ผลไม้รวมใส่มินต์และมีโหระพามาเสริมในช่วงแรกก็ยังทำหน้าที่ได้ดีอยู่ ซึ่งจะแอบมีโทนติดเปรี้ยวฉ่ำอ่อนๆ ค่อนไปกุหลาบบางๆ แนวๆ ลิ้นจี่เข้ามาเสริมด้วยซึ่ทำให้ได้โทนออกทางเปรี้ยวอมหวานคลอ อารมณ์แบบมีเครื่องดื่ม 2 ชนิดมาอยู่ใกล้ๆ กันแล้วกลิ่นเสริมด้วยกันสร้างสีสันในความรู้สึกได้ดีเลยทีเดียวระหว่างเหลืองอวลครีมมี่กับส้มปนแดงสดใส มาแบบสร้างความลั่นล้าได้ดีมากเกินคาด
จนเมื่อการเปลี่ยนแปลงของเนื้อกลิ่นคือโทนน้ำพันช์เริ่มเบาลงพร้อมกับโทน Pina Colada ที่ลดทอนลงมาหน่อยแต่ก็ยังจับต้องได้อยู่ ก็จะเริ่มมีกลิ่นติดเปรี้ยวกึ่งเหล้าองุ่นหมักที่ให้ความเปรี้ยวติดเลมอนเสริมขึ้นมา โดยจะมีกลิ่นติดขมเล็กๆ แนวค็อกเทลเข้ามาร่วมด้วย รวมถึงมีกลิ่นออกทางเชอร์รี่เปรี้ยวหวานหอมเฉพาะที่แอบติดยาแก้ไอปลายๆ กลิ่นเข้ามาด้วย ก็จะเป็นการเข้าสู่ช่วงท้ายของน้ำหอมที่ตอนนี้จะได้อารมณ์แบบค็อกเทลที่เป็นกลิ่นหอมติดเปรี้ยวสดชื่นติดเปรี้ยวอมหวานหอมปร่าของเชอร์รี่ที่มาสร้างสีสันแทน โดยที่ยังมีกลิ่น Pina Colada ครีมมี่กะทิติดสับปปะรดคลออยู่แบบเบาๆ เคล้ากลิ่นน้ำพันช์ที่เหลือบางๆ ปลายกลิ่น เรียกว่าเป็นการเอาค็อกเทลแก้วที่ 3 เข้ามาเสริมและสร้างเลเยอร์เปรี้ยวหอมแนวบรั่นดีองุ่นหมักเคล้าเชอร์รี่ที่ลงตัวและมีเสน่ห์ลั่นล้าในเนื้กลิ่นเพิ่มเข้าไปอีก ปิดท้ายการเป็นกลิ่นอายสายเจ้าเสน่ห์ที่มีสีสันรวมการรวมเอาค็อกเทลต่างๆ มาดึงความเด่นสผมผสานได้อย่างดีงามลงตัวเกินคาดจริงๆ
เหมาะสำหรับ - Unisex ที่ค่อนไปทางผู้หญิงมากกว่าหน่อย เพราะกลิ่นน้ำพันช์ในช่วงแรกมันเข้าทางสาวๆ มาก แต่เอาเข้าจริงผู้ชายก็ใช้ได้ ได้อารมณ์ลั่นล้าเจ้าเสน่ห์ได้เลยล่ะ ซึ่งแน่นอนกลิ่นนี้ไม่เหมาะกับยามทางการทุกกรณี รวมถึงการใส่ออกงานด้วยเพราะกลิ่นมันสายลั่นล้าเกินไป รวมถึงใส่ออกกำลังกายด้วยที่จะดูแบบเมามาออกกำลังกายมากกว่า แต่ถ้าใส่ทั่วๆ ไป หรือใส่ทำงาน Office และใส่กิจกรรมกลางแจ้งแนวๆ ไปดูคอนเสิร์ตแบบที่มาที่ไปของรุ่นอันนี้ได้อยู่ ส่วนยามค่ำคืนบอกเลยจัดไป ท่องราตรีกลิ่นนี้เข้าทางสุดๆ จริงๆ
ความทน - ดีมาก ดีจนเกินคาดไปเลย เพราะว่า 12 ชม. แล้วกลิ่นยังอยู่ กับการใช้งานที่ 6 สเปรย์ ต้องยอมเขาเลย และยังไงค่าเฉลี่ยเรื่องความทนก็ 8 ชม. ได้สบายมาก
การกระจาย - กลิ่นกระจายดีมากในช่วงต้น แบบสดใสและสดชื่นสีแดงส้มเหลืองมาเลย แล้วจะลดลงมาเป็นกระจายดีไปซักพักราว 2 ชม. ก็จะเป็นปานกลางยาวไปที่ 6 ชม. ก่อนจะเป็นออร่ารอบๆ ตัวกันยาวๆ ไปหลังจากนี้
สรุป - ถ้าคนที่ชอบน้ำหอมสายค็อกเทลของ Escada มาก่อน บอกเลยตัวนี้คืออีกตัวที่เอามาสู้กับ Escada ได้สบายมาก เพราะกลิ่นสดใสสดชื่นและมีเสน่ห์มากเลยทีเดียว และแม้ว่าเอาจริงๆ การไปเทศกาลแบบนี้ใครจะมาดวดค็อกเทลกันเป็นหลัก อาจจจะมีน้ำพันช์อยู่แหละ แต่น่าจะเป็นเบียร์เหล้ากันเลยมากกว่า ซึ่งอย่างน้อยความดีงามของกลิ่นคือค็อกเทลที่สดใสและมีมิติและสร้างออร่าเจ้าเสน่ห์สนุกสนานอันนี้บอกเลยว่าได้เต็มๆ
หมายเหตุ:
1.
บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล
ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้
ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”
Photo
Credit -
https://www.fragrantica.com/news/Mandarina-Duck-The-Duckers-Into-The-Jungle-Resort-Lovers-and-Freedomland-13704.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น