วันจันทร์ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2564

Review: Nomenclature - Shi-so

Nomenclature - Shi-so

เมื่อเห็นขวดน้ำหอมของแบรนด์นี้ครั้งแรก ถึงกับมีความตาลุกวาวทันที ไม่มีเม้ม เพราะว่ามันเก๋ลากมากกับการเอาขวดทดลองวิทยาศาสตร์มาเป็นตัวสร้างความประทับใจแรกพบ และอยากดมกลิ่นขึ้นมาทันทีด้วยเลย ซึ่งเมื่อไปหาข้อมูลว่าเป็นของแบรนด์อะไรจนชัดเจนก็เลยสรุปกันก่อนจะเข้าเรื่องกลิ่นได้แบบนี้

Nomenclature เปิดตัวสู่โลกของสายน้ำหอมเมื่อปี 2015 กับ Concept ของการนำเสนอการสร้างสรรค์กลิ่นที่มีความพิเศษจากโมเลกุลกลิ่นต่างๆ และดึงความโดดเด่นของโมเลกุลนั้นๆ ออกมา โดยผสมผสานการถ่ายทอดทางกลิ่นที่พลิ้วไหวดั่งบทกวีรวมเข้ากับความเป็นวิทยาศาสตร์จนสร้างความงามทางกลิ่นออกมาได้อย่างทันสมัย เรียกว่าจั่วแบบนี้มาก็ตีหัวเข้าบ้านกันได้เลยกับคำโปรยโดยสรุปแบบนี้ ซึ่งเมื่อโดนตกจนจัดมาเป็นที่เรียบร้อยก็ได้เวลาของการเล่ากลิ่นที่มีโอกาสได้ลองเป็นรุ่นแรกอย่าง Shi-so ซึ่งจะออกมาแบบไหน ก็บอกต่อได้แบบนี้เลย

Shi-so เป็นการถ่ายทอดกลิ่นอายสไตล์ญี่ปุ่นผ่านโมเลกุลสารหอมที่เป็นตัวตั้งอย่าง Glycolierral ที่จะให้โทนเย็นๆ ติดเขียวแบบขยี้กลิ่นแนวใบตีนตุ๊กแกฝรั่ง (Ivy) ที่คล้ายๆ ใบตำลึง มารวมกับกลิ่นอายสายใบชิโสะ ที่ให้โทนมินต์ติดโหระพาที่จะเขียวฉุนกว่าขึ้นมาหน่อย โดยพื้นฐานกลิ่นจะเป็นโทนเขียวสดชื่นและอะโรม่าในรูปแบบกลิ่นอายสไตล์ญี่ปุ่นมาเลย ซึ่งทั้งกลิ่นของ Glycolierral และใบชิโสะจะเป็นตัวยืนเมนหลักแบบคู่กันยาวไปแบบในทุกช่วงจะต้องมี 2 โทนนี้ให้จับต้องได้ แต่อารมณ์กลิ่นจะเปลี่ยนไปตามการเข้ามาเสริมของโทนกลิ่นอื่นๆ แต่ก็ไม่ได้ทิ้ง Concept ของกลิ่นอายสไตล์ญี่ปุ่นแต่อย่างใด

ซึ่งในช่วงต้นกลิ่นอายเขียวติดปร่าแบบสไตล์มินต์จะมาก่อนเลย อารมณ์ปร่าเขียวสดชื่นปนผ่อนคลายของสเปียร์มินต์จะมาชัดเจนแบบวูบขึ้นมาก่อน โดยจะมาเอาความเขียวติดเย็นๆ ของโมเลกุล Glycolierral ที่มีความหวานอ่อนๆ เข้ามาร่วมด้วยทำให้อารมณ์กลิ่นเปิดมาก็สดชื่นแกมผ่อนคลายกันเลย แต่เพียงไม่นานกลิ่นโทนมินต์ก็จะมีความอวลขึ้นมาหน่อยอารมณ์กลิ่นจะได้อารมณ์พัฒนามาเป็นกลิ่นแนวใบชิโสะ เพียงแต่จะไม่ได้ฉุนคม เพราะจะจับต้องได้ถึงกลิ่นอายของเม็ดกระวานที่เสริมเข้ามาแบบเบาๆ กลิ่นเลยจะได้อารมณ์รวมกันเป็นลักษณะแบบ Minty ที่เป็นแนวอะโรม่าติดเย็นๆ มีความอวลเจือหวานเบาๆ อย่างมีชั้นเชิงและมีความเป็นธรรมชาติและให้ความรู้สึกเป็นโทนแบบญี่ปุ่นได้ไม่ยาก แล้วเพียงไม่นานกลิ่นจะมีการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ช่วงกลาง เพราะจะได้อารมณ์แบบติดเปรี้ยวเจือเขียวสไตล์ผักเข้ามาเสริม ซึ่งเดาได้ไม่ยากว่าเป็นผักรูบาร์ปที่จะให้ความเปรี้ยวหอมติดเขียวค่อนไปทางแยมเบอร์รี่เล็กๆ เลยทำให้กลิ่นจะมีลูกผสมที่มีความเป็นโทนติดผลไม้เข้ามาร่วมด้วย รวมถึงจะมีกลิ่นอายติดหวานกึ่งอัลมอนด์หน่อยๆ ที่ทำให้อารมณ์กลิ่นมีลักษณะคล้ายสบู่เป็นฐานกลิ่น อารมณ์กลิ่นในช่วงนี้เลยจะได้โทนคล้ายสบู่กลิ่นใบชิโสะ + เปรี้ยวผลไม้ที่มีความอวลแบบสมดุลย์กำลังดี โดยมีปลายกลิ่นเป็นโทนเขียวเย็นๆ ติดเมทัลลิคนิดๆ ซึ่งถือเป็นการขยับโทนกลิ่นขึ้นมาอีกสเต็ปให้มีลูกเล่นกลิ่นอายที่มีเลเยอร์อวลขึ้นมาหน่อย แต่ยังไม่ทิ้งความเป็นโทนกลิ่นอายแบบญี่ปุ่นที่ไม่เยอะสิ่งได้ดีเลยทีเดียว

เมื่อกลิ่นดำเนินไปพอสมควร จนเริ่มจับต้องได้ว่ามีโทนกลิ่นออกทางเขียวเปรี้ยวหอมที่มีความหนาในเนื้อกลิ่นชัดๆ ปนโทนออกทางแบล็คเคอแรนท์กึ่งไวน์ที่ให้โทนลักษณะแบบ Citrus ติดเขียวเข้มเสริมเข้ามา ก็จะเป็นการปรับเปลี่ยนโทนไปยังช่วงท้ายที่เนื้อกลิ่นจะมีความเปรี้ยวหอมติดอะโรม่าที่มีความหนาอวลระดับหนึ่งตีคู่ไปกับสายมินต์และชิโสะที่จะผสมผสานกันเป็นอย่างดี ทำให้ได้อารมณ์แบบกลิ่นสาย Minty เปรี้ยวๆ เด่นออกมา โดยกลิ่นออกทางสบู่ติดเปรี้ยวหอมของผักรูบาร์ปยังคงอยู่แต่จะเบาลงมาเป็นสายสนับสนุนรองพื้นที่ให้ผู้เล่นหลักเขาอ้อล้อกันไปโดยที่เป็นตัวเสริมที่ดีให้กลิ่นมีมิติออกทางสบู่ติดเปรี้ยวหอมเนียนๆ และไม่พอจะได้กลิ่นออกทางเปรี้ยวติดเลมอนกึ่งสมุนไพรสะอาดๆ ที่เป็นลักษณะเฉพาะของใบเวอร์บีน่าเข้ามาร่วมด้วย เลยทำให้โทนกลิ่นช่วงนี้จะให้อารมณ์เปรี้ยวหอมสดชื่นที่อวลแบบกำลังดี ไม่ได้หนักหน่วงคมบาด โดยมีอารมณ์กลิ่นเย็นๆ ติดขียวที่ให้ความเรื่อยๆ เอื่อยๆ กำลังดีเข้ามาร่วมด้วย ผสมผสานกันจนเป็นโทน Citrus Green ที่มีเสน่ห์ในความเรียบง่ายและเป็นธรรมชาติได้ดี อารมณ์แบบยืนในโซนสวนแนวสมุนไพรแบบญี่ปุ่นที่สดชื่นแกมกลิ่นเปรี้ยวหอมสะอาดคลอไปเรื่อยๆ ประมาณนั้นเลย

เหมาะสำหรับ - Unisex ชัดเจนมาก กลิ่นมีความกลางๆ อารมณ์แบบกลิ่นอายสภาพแวดล้อมเป็นหลักแนวๆ นั้น ซึ่งเข้าได้แบบกวาดทุกสถานการณ์ยามกลางวันได้หมด เพราะกลิ่นมาสายสดชื่นและผ่อนคลายให้ความรื่นรมย์เป็นสำคัญ ส่วนยามค่ำคืนเน้นใส่แบบทั่วๆ ไปวันอากาศร้อนๆ เพื่อให้ความสดชื่นจะดีกว่า และตัดการใส่ไปท่องราตรีแบบเน้นเรียกเรตติ้งได้เลย เพราะกลิ่นไม่ได้มาสายเย้ายวนเลยแม่แต่นิดเดียว 

ความทน - กลิ่นทนเกินคาดมาก เพราะตอนแรกคิดว่าจะราวๆ 6 ชม. ก็ถือว่าสุดแล้ว แต่ดันไม่ใช่ เพราะลากยาวไปถึง 12 ชม. กันเลยทีเดียว ซึ่งถ้าตีเป็นค่าเฉลี่ยยังไงก็ 8 ชม. ได้ไม่ยาก

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้น แล้วไม่นานก็จะลดลงมาเป็นปานกลางกันยาวๆ ไปจนถึงช่วงท้าย ถึงค่อยๆ ลงมาเป็นออร่ารอบๆ ตัว ไปเรื่อยๆ พอผ่านยไปซัก 8 ชม. ก็เริ่มเป็น Skin Scent ตามลำดับ

สรุป - อีกหนึ่งในการผสมผสานกลิ่นอายโทนเขียวสดชื่นเย็นๆ ที่ลงตัวและให้อารมณ์ใบชิโสะที่เน้นความรื่นรมย์ปร่าปลอดโปร่งของกลิ่นที่ไม่ได้ฉุนวาบแบบเวลาเรากินสดแต่อย่างใด ซึ่งต้องยกเครดิตให้สเปียร์มินต์ที่ช่วยเรื่องอะโรม่าได้ดีมาก และไม่พอยังเพิ่มมิติกลิ่นอายแบบสบู่ติดเปรี้ยวผัก+กลิ่นอายสาย Citrus เข้ามาอีก เลยทำให้กลิ่นเป็น Fruity Citrus Herbal Aromatic ในการใช้งานที่สร้างอารมณ์สดชื่นได้ลงตัว ที่สำคัญขวดเก๋จริงๆ ยอมเขาตรงนี้

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://www.fragrantica.com/perfume/Nomenclature/Shi-so-44299.html

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น