วันจันทร์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2564

Review: Bond No.9 - New Bond St.

Bond No.9 - New Bond St.

Bond Street ถนนสายนี้ถ้าจะไปเยือนก็สามารถเลือกประเทศได้ เพราะจะไปที่ London UK ก็มี Bond Street หรือจะไปที่นนทบุรี ณ ไทยแลนด์ ก็มีถนนบอนด์สตรีท แต่ถ้าจะไปที่ New York ก็มีกับเขาเช่นกันกับการเป็นถนนที่เชื่อมระหว่างถนนสายสำคัญ 2 สายของ NYC คือ Broadway และ Bowery ซึ่งเดิมทีถนนสายนี้ไม่ได้มีอะไรที่โดดเด่นนักในอดีตก็แค่มีไว้สัญจรไปมา แต่ปัจจุบันถือเป็นถนนสายสำคัญที่มี Celebrity ต่างๆ มาอาศัยอยู่และพวกปาปารัสซี่ก็จะมาด้อมๆ มองๆ แอบถ่ายกันไป แต่ไม่ใช่แค่นั้น

เพราะว่าแบรนด์น้ำหอมอย่าง Bond No.9 ที่ Tribute ความเป็น NYC ผ่านการสร้างสรรค์กลิ่นออกมาเป็นน้ำหอมต่างๆ ก็ตั้งอยู่ที่ถนนสายนี้ด้วย จึงกลายเป็นสิ่งที่สำคัญที่แบรนด์นี้ก็พลาดไม่ได้ที่จะต้องมารังสรรค์กลิ่นกันหน่อย ก็ถิ่นตัวเอง ไม่กล่าวถึงมันก็คงเสียเชิง เช่นนั้น จึงได้ออกมาเป็นน้ำหอมขวดลายเสือดาวสีแดงแรงฤทธิ์อย่าง New Bond St. ที่กำลังจะกล่าวถึงกลิ่นว่าเป็นอย่างไรนั่นเอง

เปิดตัวกันด้วยความรู้สึกที่ชัดเจนว่าเนื้อกลิ่นน่าจะเป็นสายแนว Gourmand หรือกลิ่นอายที่เป็นสายขนมหรือของกินกันค่อนข้างชัดเจนเพราะจับต้องได้ไม่ยากว่าฐานของกลิ่นต้องเป็นโทนวานิลลากึ่งครีมมี่นมๆ แต่สิ่งที่ฉาบหน้าในช่วงนี้ต้องยกให้กลิ่นอายของการเป็นโทน Fresh Spicy กึ่งปร่านวลของพริกไทยที่จะคมวูบขึ้นมาให้จับต้องได้แกมกลิ่นออกทางดอกไม้อ่อนๆ ที่ติดหวานเจือเขียว และเหมือนจะมีกลิ่นโทนติดขมเจือเปรี้ยวปร่าบรรยากาศสะอาดๆ สดชื่นเล็กๆ ให้รู้สึกด้วย แต่มาแค่วูบเดียวเท่านั้น เพราะ 3 นาทีต่อมาการเทคโอเวอร์ของช่วงกลางจะขึ้นมาไวมากและเป็นไฮไลท์ที่เด่นจัดเด่นจริงกันเลยทีเดียว เพราะว่า

กลิ่นที่ออกทางนมข้นหวานหน่อยๆ มีความหอมหวานมันครีมมี่จะเริ่มเสริมขึ้นมา ซึ่งไม่ได้มีแค่ความเป็นโทนคล้ายนมข้นหวาน แต่จะมีกลิ่นออกทางโกโก้เข้ามาผสมผสานรวมอยู่ด้วย ซึ่งจับไปจับมานี่มันกลิ่นคล้ายเกาลัดที่มาแนวๆ เกาลัดคั่วอบบดละเอียดตีรวมกับครีมนมและใส่โกโก้ลงไปจนได้อารมณ์แบบครีมเกาลัดที่ราดเป็นเส้นๆ บนหน้าเค้กมองบลังค์ ทำให้ได้ความหอมหวานอวลนวลมันเคล้ากลิ่นหอมเย้าที่เป็นเสน่ห์ของโกโก้ที่ลงตัวอบอวลแบบกำลังดีและมีความดีงามของกลิ่นอายขนมได้ลงตัวมากเกินคาด ซึ่งไม่ใช่แค่นั้น เพราะตัวเสริมชั้นดีอย่างกาแฟ ก็จะเป็นตัวสร้างบรรยากาศความขมหอมอะโรม่าที่ลอยกรุ่นเข้าจนทำให้รู้สึกอารมณ์แบบครีมนมข้นเกาลัดที่มาเจอตรงกลางกับความเป็นมอคค่า และที่สำคัญพื้นกลิ่นก็ยังมีวานิลลาติดครีมมี่อบอุ่นที่ไม่ได้หวานแหลมจัดเกินไปรองพื้นอยู่ เลยให้โทนกลิ่นที่เป็นหัวใจหลักของน้ำหอมได้เลย นั่นคือโทนอบอุ่นที่สร้างเสน่ห์ความหอมอบอุ่นกรุ่นหวานนวลจมูกออกมาเกินคาดมาก เรียกว่าต้องหันไปดูขวดกันเลยทีเดียว เพราะว่าเหมือนโดนดีไซน์ขวดสับขาหลอกให้เข้าใจไปก่อนว่ากลิ่นจะมาแบบร้ายๆ ชิคๆ แต่จริงๆ ไปโทนอบอุ่นนุ่มละมุนและเย้ายวนชวนหอมหวานกรุ่นน่ากินน่าซุกเสียมากกว่า

ในช่วงท้ายเนื้อกลิ่นจะไม่ได้เปลี่ยนอะไรไปมากจากช่วงกลาง เพียงแต่จะโปร่งมากขึ้นในความเป็นโทนหวาน เพราะจะมีกลิ่นออกทางน้ำผึ้งหน่อยๆ ที่เป็นโทนหวานแบบกำลังดีเข้ามาเสริมเข้ากับกลิ่นโทนครีมมี่ที่ลดทอนความเป็นขนมมานิดหน่อยเพราะมีโทนไม้จืดหอมครีมของไม้จันทน์หอมที่เข้ามาตัดทอน แต่แน่นอนยังจับต้องได้หมดถึงกลิ่นเกาลัดครีมมี่เค้กมองบลังค์แกมมอคค่าที่ตอนนี้จะมีวานิลลาติดครีมมี่หอมๆ เทคโอเวอร์อยู่ความอวลหวานหอมที่กำลังดี สมดุลย์ สร้างความพึงใจแบบไม่ได้ถึงกับแผ่รังสีหมื่นลี้ แต่ให้ความรุมๆ แบบขนมหวานหอมที่มีกลิ่นอายแบบนมข้นหวานลอยมาตามลมเย้าจมูกเรื่อยๆ แทน ซึ่งถือว่าเป็นการปิดท้ายกลิ่นที่สร้างความเพลิดเพลินในการดมและสร้างความเย้าน่าซุกชวนอยากของหวานได้ดีมาก

เหมาะสำหรับ - ทุกเพศวัยเรียนมหาลัยขึ้นไปฏ็สามารถใช้งานตัวนี้ได้สบายมาก ยิ่งถ้าพื้นฐานชอบกลิ่นแนวนมข้นหวาน หรือครีมเกาลัดหอมหวานเคล้ากับกาแฟและโกโก้ด้วยแล้ว บอกเลยว่าโดนตกแน่นอน ซึ่งกลิ่นนี้สามารถใช้ได้ในหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันแบบจำนวนสเปรย์เหมาะสม เพราะว่ากลิ่นโทนขนมหวานอวลแบบนี้ใส่กับอากาศร้อนๆ ก็ตึ้บเอาได้ถ้าหนักมือมากไป แต่ถ้าพอดีๆ กลิ่นหอมหวานนวลอวลน่ารัก และรู้สึกผ่อนคลายแกมอบอุ่นได้ไม่ยาก ซึ่งตัดการใช้กับยามทางการและออกกำลังกายจะดีที่สุด เน้นใส่แบบทั่วๆ ไป ใส่ช้อปปิ้ง หรือใส่แบบชิลล์ๆ อยู่บ้านก็ยังได้ ส่วนยามค่ำคืนใส่ออกงานพอได้ ใส่โรแมนติคเข้าทางกลิ่นหวานน่ากินเชียว และใส่ท่องราตรีก็ได้อยู่แต่มันอาจจะไม่ได้หนักน่วงเรียกแขกจัดจ้านมากนัก เพราะอารมณ์เหมือนขนมหวานยามบ่ายมากกว่า 

ความทน - ลงตัวที่ราวๆ 8 ชม. เป็นสำคัญ อาจจะไปไม่มากกว่านี้อีกได้ก็ว่ากันที่จำนวนสเปรย์และสภาพอากาศ ซึ่งส่วนตัวเจอไปที่ 8 - 10 ชม. ทุกครั้งที่ใช้งาน และมีไปถึง 12 ชม. ก็บ่อยครั้ง

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีมากในตอนต้น เรียกว่ามาตามสไตล์ตีหัวเข้าบ้านกันเต็มๆ แล้วจะผ่อนลงมากระจายดีไปเรื่อยๆ ซักราวๆ 2 ชม. ถึงค่อยลงมาเสถียรที่ปานกลางไปเรื่อยๆ แบบที่สร้างความรู้สึกหอมหวานครีมเกาลัดนมข้นกับครีมมอคค่าไปเรื่อยๆ แล้วจะค่อยๆ ลดลงมาเป็นออร่ารอบๆ ตัวจนถึงราวๆ 8 ชม. ก็จะ Skin Scent ที่เวลาขยับเนื้อตัว จะตีขึ้นหวานอบอุ่นเรื่อๆ ให้พึงใจ

สรุป - งานขวดหลอกกันเต็มๆ เลยจ้า เพราะมันไม่ได้มาแบบแม่เสือสาวแดงแรงฤทธิ์เลย แต่มาอารมณ์แบบจิบมอคค่าเคล้าเค้กมองบลังค์ที่กรุ่นและอบอุ่นในร้านขนมเสียมากกว่า ซึ่งเนื้อกลิ่นอาจจะไม่ได้มาแนวหวือหวาจัดจ้านแบบที่ Bond No.9 ทำออกมาในก่อนหน้านี้หลายๆ ตัว แต่บอกเลยว่าในเรื่องความดีงามทางกลิ่นที่ตอบโจทย์คนชอบขนมหวานน่ะ ให้ 100 เต็มเลยก็ยังได้

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://www.bondno9.com/new-bond-st.html

 

1 ความคิดเห็น: