Imaginary Authors - O, Unknown!
เรื่องราวคำโปรยโดยสรุปของรุ่นน้ำหอม - นักเดินทางและนักเขียนผู้ยิ่งใหญ่อย่าง Philip Sava รู้ตัวว่าเหลือเวลาน้อยกว่า 1 ปี ในการที่จะมีชีวิตอยู่ เลยตัดสินใจทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างที่บ้านในมาดาร์กัสก้าไว้เบื้องหลัง โดดขึ้นเรือเดินสมุทรข้ามน้ำข้ามทะเลเดินทางไปยังบังคลาเทศ เข้าเนปาล ไปธิเบต และปิดท้ายที่ชนบทของจีน กับความสันโดษที่พบเจอแล้วถ่ายทอดออกมาเป็นดั่งคำสารภาพบอกเล่าเรื่องราวของผู้ชายคนหนึ่งที่ยึดเหนี่ยวกับความหมายของชีวิตในบั้นปลายและสุดท้ายก็เข้าใจมันในที่สุด
เรียกว่าคำโปรยออกแนวเป็น Road Movie ที่เป็นการค้นหาความหมายของชีวิตเมื่อรู้ตัวว่าชีวิตมันเหลือสั้นมากๆ แล้ว ซึ่งเรียกว่าสร้างความตื่นเต้นในการได้มาลองน้ำหอมของ Imaginary Autors ได้อย่างมากเลยว่าจะสื่อสารออกมาอย่างไรที่เข้าทีและเข้าทางกับคำโปรยเช่นนี้ ดังนั้นการลองค้นหาความหมายของกลิ่นก็ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
O, Unknown! เปิดตัวมาให้อารมณ์โทนกลิ่นที่ชัดเจนของความเป็นชาที่มีลูกเล่นโทนกลิ่น 2 แบบคือกลิ่นอายแบบชาดำปกติ และมีกลิ่นของชาจีน Lapsang Souchong ที่จะมีกลิ่นติดไอควันเจือหน่อยๆ แต่เนื่องจากกลิ่นมันไม่ได้มาแบบใบชาเข้มๆ นัก เลยโชตดีที่ไม่มีกลิ่นคล้ายปลาแห้งของชาประเภทนี้เข้ามาร่วมด้วย ซึ่งทำให้ได้อารมณฺกลิ่นชาดำที่พลิ้วพอสมควร มีความหอมอะโรม่าของชาดำแบบสไตล์แนวๆ เอเชียกลาง (ที่เป็นตัวยอดฮิตในการมาทำชานมหรือพวก Chai Tea) แกมกลิ่นหอมชาจีนเข้มแต่ติดกลิ่นไหม้อ่อนๆ ซึ่งซ้อนกันอยู่ให้รู้สึกได้ว่ามีความแตกต่างแต่ล้อไปด้วยกัน ซึ่งไม่เพียงแต่นั้นจะเริ่มจับต้องถึงความหวานของกลิ่นคล้าวานิลลากึ่งอบเชยอ่อนๆ แต่ไม่ใช่เครื่องเทศ เพราะมีอารมณ์หวานลึกกึ่งยางไม้แกมกลิ่นออกทางแป้งๆ ติดอับทึบแบบหัวเหง้าใต้ดินแทรกขึ้นมาทีละนิดๆ ทำให้อารมณ์กลิ่นเริ่มมีลักษณะเป็นชาดำที่มีความหวานเจือความแห้งๆ ติดจืดทึบเป็นตัวรองพื้นกำลังดีแทน ถือเป็นการเปิดตัวกลิ่นได้น่าสนใจมากสำหรับกลิ่นอายชาดำที่ต่างอารมณ์แบบนี้
การส่งต่อเข้าช่วงกลางจะชัดเจนแล้วว่าตัวที่ให้โทนหวานลึกกึ่งวานิลลากึ่งอบเชยติดยางไม้แห้งหน่อยๆ จะชัดเจนขึ้นมาว่าเป็นสายยางไม้ประเภทหนึ่งอย่าง Tolu Balsam ซึ่งจะมีกลิ่นที่ไม่ได้หนักหรือข้นหนืดแต่อย่างใด สร้างกลิ่นให้มีโทนติดหวานอวลๆ รุมๆ ไม่หนักหน่วงทำให้กลิ่นอะโรม่าของชาดำทั้ง 2 ที่ตามมาจากช่วงต้นมีมิติความหวานเข้ามาเสริม แถมกลิ่นโทนแป้งติดอับจืดทึบก็จะชัดขึ้นมาจนกลายเป็นตัวหลักในการเดินกลิ่นไปเลยหลังจากนี้ นั่นก็คือ หัวเหง้าออริส (เหง้าของไอริส) ที่จะได้อารมณ์โทนแป้งติดทึบมีอารมณ์กึ่งข้นหน่อยๆ กึ่งบางๆ หน่อย แต่ก็ไม่ได้ถึงกับเป็นแป้งฝุ่นจ๋าๆ แบบไอริสนัก ซึ่งโทนกลิ่นที่ได้จะเริ่มมีมิติให้จับต้อง 4 โทนเลยคือ โทนแป้ง โทนแบบจืดทึบดินๆ โทนหวานอวลเบาๆ และโทนอะโรม่าของชาดำ เรียกว่าเป็นช่วงที่มิติกลิ่นที่เป็นแป้งหอมชาดำติดหวานอวลที่จับต้องทุกกลิ่นได้ชัดหมดเลย และมีความมินิมัลกำลังดีมาสายน้อยแต่มากไม่เยอะสิ่งให้รู้สึกได้อีกด้วย
ช่วงท้ายชัดเจนสุดๆ เพราะจะเป็นสไตล์น้อยแต่มากเรียบง่ายแต่ให้ความพึงใจสูงมากชัดเจน เพราะโทนชาจะเหลือบางๆ ติดหวานเป็นอะโรม่าปลายกลิ่น แต่โทนแป้งติดเนื้อครีมกึ่ง Buttery นิดๆ ของหัวเหง้าออริสกับ Musk จะผสมผสานกันได้ลงตัวเป็นตัวเด่นในช่วงท้ายให้อารมณ์แป้งหอมติดครีมทึบเบาๆ เจือกลิ่น Musk สะอาดนวล เนื้อกลิ่นจะมีโทนไม้ติดจืดหอมอ่อนๆ โทนสีครีมเข้ามาเสริมให้รับรู้ได้ด้วย และมีกลิ่นเขียวนิดๆ ติด Earthy บางๆ แอบมีโทนเหมือนผนังคอนกรีตหน่อยๆ อย่างบอกไม่ถูกซึ่งน่าจะมาจาก Oak Moss ที่ทำให้กลิ่นมีมิติติดดาร์กเล็กๆ เข้าทางติดดินสบายๆ หน่อยๆ อะไรประมาณนี้อยู่ด้วย ซึ่งทำให้กลิ่นมีมิติเนียนๆ ซ้อนอยู่ ทำให้ภาพรวมในช่วงนี้จะได้ความรู้สึกแบบกลิ่นโทนแป้งเจือ Musk ติดปลายหวานนวล ที่มีไม้หอมเคล้ากลิ่นติดดินๆ สบายๆ ให้จับต้อง ซึ่งอนุมานได้ว่าการปิดท้ายกลิ่นแบบนี้ ก็ตอบโจษเรื่องความสันโดษและความสว่างนวลเรียบง่าย ที่ถือว่าเป็นโทนกลิ่นที่เป็นเสมือนชีวิตบั้นปลาย Philip Sava ที่เขาเข้าใจแล้วล่ะว่าความหมายของชีวิตบั้นปลายมันคืออะไร
เหมาะสำหรับ - Unisex ชัดเจน เพราะกลิ่นมาสายอะโรม่าและโทนแป้งที่เป็นกลางๆ มีความเรียบง่ายแต่มีระดับแบบที่น้อยแต่มาก เลยจะเข้ากับทุกเพศในการใช้งานชัดเจน ซึ่งใช้ได้กับหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันไม่ว่าจะเป็นทางการหรือทั่วๆ ไป จะมีก็แต่การใส่เพื่อออกกำลังกายหรือกิจกรรมกลางแจ้งลุยๆ ที่ไม่เข้าทางเท่าไหร่ ส่วนยามค่ำคืนเน้นใส่สบายๆ ทั่วๆ ไปสร้างความผ่อนคลายและสงบอย่างรื่นรมย์จะลงตัวที่สุด
ความทน - ลงตัวที่ราว 8 ชม. เป็นสำคัญ ไปต่อได้อยู่บ้างสูงสุดที่เจอก็ราวๆ 12 ชม. กับการใช้งานที่ราวๆ 6 สเปรย์
การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้น แล้วจะผ่อนลงมาปานกลางไปเรื่อยๆ จนเมื่อผ่านไปราวๆ 4 ชม. ก็จะเริ่มเป็นออร่ารอบๆ ตัวไปเรื่อยๆ แล้วกลายเป็นติดผิวตอนราวๆ 7 ชม.
สรุป - กลิ่นสร้างความเรียบง่ายที่มีเสน่ห์โดยดึงเอาความเป็นชาดำต่างเลเยอร์มาเจอกันได้ดีไม่พอ ยังเอาโทนแป้งมาเสริมใกับความอวลหวานอ่อนๆ ที่ดูผ่อนคลาย ก่อนจะปิดท้ายด้วยความเรียบง่ายแบบไม่เยอะสิ่ง ซึ่งถ้าอิงตามคำโปรย กลิ่นอาจจะไม่ได้สื่อสารถึงการตะลุยท่องเที่ยวตามประเทศขนาดนั้น แต่เอาความดีงามของกลิ่นแต่ละประเทศที่ตัวละครคนนี้ได้ผ่านมา มารวมกับความสงบในบั้นปลายของกลิ่นที่สื่อถึงบั้นปลายของชีวิตคนๆ นี้ ถือว่าทำได้ลงตัวและน่าสนใจมากเลยทีเดียว
หมายเหตุ:
1.
บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้
ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”
Photo
Credit - https://www.pinterest.com/pin/710020697479505737/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น