Tauerville - When We Cuddle and I Can Smell Your Perfume on My Clothes
เราจะรู้สึกยังไงเวลาเรากอดแฟน คนที่เราปิ๊งปั๊ง หรือคนรักของเราแล้วกลิ่นน้ำหอมของเขาติดเสื้อเรามาแล้วส่งกลิ่นให้เรารับรู้เรื่อยๆ?
ซึ่งถ้าใครประทับใจคนที่กอดมากๆ ไม่ว่าจะเป็นคนรักหรืออนาคต (ทั้งแบบมโนและที่จะเกิดขึ้นจริง) รวมถึงชอบน้ำหอมอยู่แล้วด้วย บอกเลยนี่คือสวรรค์ที่สร้างความสุขในการรับรู้กลิ่นได้ยอดเยี่ยมมากและยังเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่ประทับเอาไว้ในความทรงจำเลยได้เสมอเสียด้วยซ้ำ เวลาที่เราได้กลิ่นน้ำหอมแบบนี้ขึ้นมาในเวลาใดเวลาหนึ่งว่านี่แหละกลิ่นจากคนที่เรามีความสุขมากเวลาที่เราได้กอดเขา ฮิ้วววววว~ ในใจกันได้เลย
และนี่แหละที่เป็นหนึ่งในการสร้างสรรค์กลิ่นของสุคนธกรมือฉกาจอย่าง Andy Tauer กับการสร้างเป็น The Stories Collection ออกมาเพื่อเป็นหนึ่งในการฉลองครบรอบ 15 ปี ของร้านน้ำหอมชื่อดังก้องโลกอย่าง Luckyscent และกลิ่นที่ถ่ายทอดของฝากจากการกอดที่อยู่บนเสื้อผ้าของเราก็เลยรังสรรค์ออกมาเป็นหนึ่งใน Collection นี้ กับชื่อที่ยาวมากอย่าง When We Cuddle and I Can Smell Your Perfume on My Clothes เช่นนั้นกลิ่นที่แถมมาจากการกอดให้มีความสุขนั้นจะออกมาเป็นอย่างไร ก็ว่ากันได้ตามนี้เลย
เปิดมากับโทนกลิ่นปร่าแนวๆ กึ่งพิมเสนกึ่งสมุนไพรซ่าๆ ที่คลุกเคล้าเข้าด้วยกันกับการเป็นกลิ่นอายโทนวานิลลาที่ค่อนข้างจะมีความเป็นยางไม้ปนกลิ่นออกทาง Earthy หน่อยๆ ซึ่งเป็นลักษณะกลิ่นที่เป็นโทนเดียวกับกำยาน Benzoin เพียงแต่อารมณ์กลิ่นจะมาแบบตัดทอนกลิ่นหวานแหลมออกไป หรือเพียงโทนกึ่งวานิลลา กึ่งยางไม้ กึ่งปร่าซ่า Spicy ที่มีโทนสมุนไพรเจือๆ ซึ่งในเนื้อกลิ่นนอกจากที่จะเป็น Benzoin มาแบบชัดๆ เต็มๆ แล้ว ยังมีโทน Citrus ติดขมปร่าหน่อยๆ เจืออยู่ด้วย ซึ่งเปิดมาอาจจะทำให้รู้สึก งงๆ กันก่อน ว่านี่กลิ่นที่เราได้แถมมาจากการกอดคนที่เราประทับใจมันแบบนี้เหรอ แต่จะบอกว่าว่าพึ่งตัดสินเพียงแค่ช่วงต้นของน้ำหอม เพราะมันเป็นการการเปิดทางให้เกิดความวาบเข้ามาให้รู้สึกถึงกลิ่นที่แตกต่างจากปกติกันก่อน อารมณ์ตอนได้กอดมันมีความสว่างวาบและมันยังรู้สึกไม่ได้คุ้นในความรู้สึกของกลิ่นที่รับรู้ในแรกเริ่มใช่ไหม? ถ้าใช่ก็แนวนั้นเลย
เมื่อกลิ่นเริ่มปรับโทนก็จะเป็นการเข้าสู่ช่วงกลางของน้ำหอมที่จะเริ่มมีความกลมกล่อมที่เริ่มเซทตัวอย่างชัดเจน ซึ่งแน่นอนแกนกลางหลังของน้ำหอมยังคงเป็นกลิ่น Benzoin (ที่อยู่ถึงช่วงท้ายเลย) เช่นเดิม เพียงแต่กลิ่นโทนปร่าซ่าๆ ชัดๆ แบบสมุนไพรในตอนแรกที่วาบๆ ฟุ้งๆ จะเริ่มเบาลงอย่างมีนัยยะสำคัญ เหลือติดปร่าซ่าระเรื่อเจือหวานปลายกลิ่นแทน โดยที่ขะมีตัวเสริมให้กลิ่นมีโทนที่ออกทางอบอุ่นนวลๆ และผ่อนคลายมากขึ้นจากวานิลลา ทำให้กลิ่นมีอารมณ์ติดออกทางหวานคล้ายขนมหน่อยๆ และอบอุ่นแบบโทนวานิลลาติดแป้งที่สอดรับเข้ากันได้ดีกับ Benzoin เลยทำให้กลิ่นช่วงกลางจะมีเฉดของโทนสีนวลครีมสู่เฉดเอิร์ธโทนที่มีพื้นฐานกลิ่นที่อบอุ่นนวลหวานติดแหลมแบบกำลังดีสู่หวานอุ่นนวลที่มีปร่าระเรื่อของพิมเสนที่ยังตามมาให้ความเย้ายวนอยู่ด้วย เรียกว่าคุมโทนอารมณ์แนวกอดที่อบอุ่นหอมนวลหวานทั้งเย้าดึงดูดและพึงใจผ่อนคลายในเวลาเดียวกันชัดเจน ซึ่งช่วงนี้จะค่อนข้างคงตัวกันยาวพอสมควรเกินกว่าช่วงกลางทั่วๆ ไป ก่อนที่จะเริ่มมีกลิ่นออกทาง Musky เข้ามาแบบค่อยเป็นค่อยไป พร้อมกับกลิ่นออกทางวานิลลาเจือไม้หอมค่อนติดไปทางแอมเบอร์ที่มีความสะอาดมากกว่าจะเป็นยางไม้จ๋าๆ อวลๆ กรุยกราย ซึ่งจะเป็นการเข้าสู่ช่วงท้ายของน้ำหอมที่จะให้ความนุ่มนวลเจือหวานปลายกลิ่นบนพื้นฐานของความอบอุ่นที่ไม่ได้เท่ากับช่วงกลาง แต่จะเป็นความอ้อยอิ่งแบบที่จับต้องได้แบบเรื่อยๆ มาเรียงๆ สร้างความพึงใจ ซึ่งช่วงนี้แหละที่บอกชัดเจนที่สุดตรงตามชื่อรุ่นของน้ำหอมที่จะเสมือนเป็นกลิ่นที่ติดเสื้อมาแบบนุ่มๆ หวานหอมอบอุ่นอ่อนๆ มีความมุ้งมิ้งแบบที่จับต้องได้ และสร้างกลิ่นที่อ่อนโยนผ่อนคลายกำลังดี ถือว่าปิดท้ายการกอดที่เก็บอารมณ์กลิ่นความประทับใจไว้ได้อย่างน่าทึ่งและสร้างรอยยิ้มได้ไม่ยาก
เหมาะสำหรับ - Unisex ที่เป็นกลิ่นกลางๆ แตะได้หมดทุกเพศ โดยเฉพาะถ้าใครชอบโทนวานิลลาบอกเลยว่าหลังจากผ่านช่วงต้นไปแล้วมันคือความหอมที่ลงตัวและงดงามจนทำเอาฟินเอาได้ในความเรียบง่ายสไตล์กอดอันอบอุ่น ซึ่งสามารถใช้ได้ในหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวัน ซึ่งเอาจริงๆ ใส่ยามทางการก็ได้อยู่ เพราะกลิ่นมีความรื่นรมย์อบอุ่นที่เข้าถึงได้ไม่ยากและไม่ได้ถึงกับยั่วยวนจัดจ้านเกินไป แต่ให้ตัดการใส่เพื่อกิจกรรมกลางแจ้งหรือออกกำลังกายจะดีกว่า เพราะกลิ่นไม่ได้มาสายนี้ ส่วนยามค่ำคืนไม่ว่าจะออกงานหรือโรแมนติคจัดไป เพราะเข้าทางมากจริงๆ
ความทน - กลิ่นทนดีงามกีบพื้นฐานที่ 8 ชม. ได้สบายมาก และไปต่อได้ถึง 15 ชม. ก็เจอมาแล้ว เรียกว่าตรงนี้หายห่วง กอดนี้จะอยู่กับเราได้ยาวนานเลยล่ะ
การกระจาย - กลิ่นกระจายดีมากในตอนต้น แล้วจะค่อยๆ ผ่อนลงมาที่ปานกลางยาวประมาณ 4 ชม. ถึงค่อยเป็นออร่ารอบๆ ตัวที่จะให้ความเรื่อยๆ มาเรียงๆ เบาๆ แต่ตีขึ้นอ่อนๆ ให้เรารู้สึกได้ตามชื่อรุ่นน้ำหอม พอพ้นไปซัก 10 ชม. ถึงจะค่อยๆ เป็นออร่ารอบๆ ตัว
สรุป - เป็นการบ่งบอกถึงการกอดที่เป็นสเต็ปมากจากจุดเริ่มต้นที่ยังวูบวาบอยู่ สู่ความอบอุ่นที่นุ่มนวลและเย้ายวนแบบที่ไม่ได้พยายามต้องเป็น Sex แต่เป็นความพึงใจที่ได้อยู่กับอ้อมกอดแบบนี้และเย้ายวนใจเบาๆ และปิดท้ายกลิ่นติดเสื้อผ้าตีขึ้นอ่อนๆ ให้รู้สึกประทับใจและมีความสุขเวลาได้กลิ่น โดยไม่เยอะสิ่งและไม่ดูพยายามยัดเยียดให้เซ็กซี่จ้ดจ้าน นี่แหละ When We Cuddle and I Can Smell Your Perfume on My Clothes ล่ะ
หมายเหตุ:
1.
บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล
ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้
ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”
Photo
Credit - เข็มขัดสั้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น