วันอังคารที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2564

Review: Frederic Malle - Eau de Magnolia

Frederic Malle - Eau de Magnolia 

แมกโนเลีย หนึ่งในดอกไม้สีขาวสัญลักษณ์แห่งความสง่างาม ที่จะส่งกลิ่นหอมติดเปรี้ยวคล้ายเลมอนแต่จะมีความปร่า Spicy เจือๆ และมีโทนออกทางแว๊กซ์หน่อยๆ รวมถึงมีความหวานนวลเนียนๆ รวมอยู่ซึ่จะได้อารมณ์ลูกครึ่งดอกไม้ขาวนวลแตะความครีมมี่กำลังดี + กลิ่นโทน Citrus ที่ให้โทนเปรี้ยวอมหวานปร่าหน่อยๆ ที่ให้ความสดชื่นรื่นรมย์และสร้างรอยยิ้มได้ไม่ยาก ซึ่งกลิ่นนี้ถือเป็นอีกหนึ่งในกลิ่นโทนดอกไม้ขาวสายสดชื่นที่ลงตัวมากๆ ในการเชื่อมโยงกับกลิ่นอายโทน Citrus และดอกไม้ขาวได้ดีมาเสมอ และหลายๆ ครั้งก็เป็นตัวเอกหลักในการชูโรงของหลายๆ แบรนด์น้ำหอมมานักต่อนัก

และเมื่อมาเจอว่า Frederic Malle กับ Perfumer ระดับปรมาจารย์ชื่อดังของ USA อย่าง Carlos Benaim ได้ตกลงในการสร้างสรรค์กลิ่นอายสไตล์ Cologne โดยการชูโรงดอกแมกโนเลียให้มีกลิ่นที่สดชื่น ใสกระจ่าง และรื่นรมย์ อย่าง Eau de Magnolia จนเป็นหนึ่งในกลิ่นอายสาย Floral Citrus ที่ได้รับคำชื่นชมเป็นอย่างมาก แน่นอนว่ามีหรือที่จะพลาดที่จะต้องเอามาลองให้รู้ และดมให้ชัวร์ ซึ่งกลิ่นก็ถ่ายทอดออกมาแบบนี้เลย

เปิดตัวกับกลิ่นอายสาย Citrus ที่ค่อนข้างชัดเจนมาก แต่จะมีกลิ่นออกทางติด Spicy ซ่าปร่าเจือความเขียวติด Stem แว๊กซ์หน่อยๆ คลออยู่ รวมถึงมีอารมณ์กลิ่นออกทางชื้นๆ Aquatic แนวๆ คล้ายพวกน้ำค้างผสมผสานอยู่ด้วยตามด้วยปลายกลิ่นจะให้ความสดชื่นติดเปรี้ยวอมหวาน โทนกลิ่นที่เด่นมาเชียวต้องยกให้มะกรูดฝรั่งที่ให้ความเปรี้ยวเจือขมปร่าซ่าสดชื่นกับเลมอนเลยที่ให้ความเปรี้ยวสดชื่นติดหวานปลายกลิ่นแบบสไตล์ Cologne จะเป็นตัวเด่นนำ เพียงแต่จะไม่ได้โดดจนเกินความควบคุม เพราะว่าโทนกลิ่นออกทางแว็กซ์ติดเขียวมีความเป็น Stem แกมมีความนวลเบาๆ และกลิ่นออกทางชื้นน้ำใสๆ มาตัดทอนและส่งเสริมกันได้อย่างลงตัวในการสร้างกลิ่นอายแบบอากาศดีๆ ชื้นน้ำค้าง มีกลิ่นนวลเปรี้ยวสดชื่นเคลาความเขียวที่มีความสะอาดรองพื้น สร้างความเป็นโทนกลิ่นแบบบรรยากาศธรรมชาติที่สว่างและสดใสขึ้นมาอย่างชัดเจน

การเปลี่ยนแปลงในการเข้าสู่ช่วงกลางจะชัดเจนเมื่อกลิ่นออกทางชื้นน้ำค้างต่างๆ เริ่มจางไป กลายเป็นกลิ่นที่มีความแห้งมากขึ้นและมีความนวลเบาๆ แทรกตัวขึ้นมาเป็นโทนที่เด่นเทียบเท่ากับ Citrus อยู่พอสมควร ซึ่งช่วงนี้จะได้อารมณ์แบบกลิ่นโทนแมกโนเลียที่มาแบบใสๆ ระเรื่อๆ ติดนวลปลายกลิ่น ไม่ได้มาแบบครีมมี่หวานอมเปรี้ยวจัดๆ แบบจงใจให้เป็นแมกโนเลียแบบเต็มๆ ซึ่งการมาแบบใสๆ เบาๆ มาสาย Lighter แบบนี้ เรียกว่าตอบโจทย์ตามชื่อรุ่นชัดเจน เนื้อกลิ่นมีความปร่าหวานรื่นจมูกของพิมเสนแกมไม้หอมโปร่งๆ อย่างไม้ซีดาร์แนวกลิ่นออกทางคล้ายสารหอมแนว Clearwood ที่ให้ลูกผสมกลิ่นไม้หอมโปร่งๆ ติดพิมเสนใสๆ ปร่าหวานอ่อนๆ สะอาดๆ รวมถึงมีกลิ่นออกทางไม้แห้งๆ โปร่งๆ ที่มีความติดดินสะอาด Earthy นิดๆ แนวๆ หญ้าแฝกเข้ามาเสริมให้มีมิติครบถ้วนทั้งความสดชื่นจาก Citrus ที่ตามจากช่วงต้น มีความอะโรม่าจากกลิ่นเขียวแว๊กซ์ติด Stem อ่อนๆ มีความรื่นรมย์จากกลิ่นดอกแมกโนเลียเบาๆ มากับความสดชื่นติดแห้งๆ ในอากาศ และโทนผ่อนคลายจากกลิ่นไม้หอมอ่อนๆ เจือปร่าพิมเสนที่มีโทนติดดินเจือความสะอาดๆ ชัดเจน ถือเป็นช่วงที่เรียกว่าเป็นไฮไลท์ในความครบถ้วนทางกลิ่นที่มีความเป็นธรรมชาติและสร้างกลิ่นอายสไตล์สภาพแวดล้อมได้ดีเลยทีเดียว

ช่วงท้ายของน้ำหอมความเป็นโทนไม้หอมจะชัดขึ้นมาอีกสเต็ป แต่ก็ไม่ได้เด่นจนกลบโทนหลัก เพราะว่ากลิ่นจากช่วงกลางยังคงเป็นตัวเดินกลิ่นแบบกำลังดีอยู่ เลยทำให้กลิ่นออกทางไม้หอมติดโปร่งๆ สว่างๆ แนวกลิ่นออกทางไม้ซีดาร์หอม (หรืออาจจะเป็นสารหอมอย่าง ISO E Super) มาเป็นตัวเสริมให้กลิ่นมีความเป็นโทนผ่อนคลายกลิ่นไม้หอมอ่อนๆ  ที่คงตัวและเสถียรให้การคุมโทนให้เบาอย่างมีชั้นเชิงอยู่ตลอด รวมถึงจะมีกลิ่นออกทางเขียวเข้มแต่ไม่ได้เข้มจัดจ้าน แต่ให้อารมณ์ Earthy แนวๆ กลิ่นพืชล้มลุกเบาๆ ซึ่งมาเต็มๆ จาก Oak Moss ที่ให้กลิ่นลักษณะนี้ ซึ่งสร้างมิติความเป็นกลิ่นอายสภาพแวดล้อมปนกลิ่นโทน Cologne ได้ครบถ้วน นอกจากนี้พอย้อนกลับไปดูจนถึงช่วงแรก นี่เป็นการเป็นท้ายกลิ่นอายสไตล์ Chypre ที่ควรจะต้องหรูหรา แต่ปรับเปลี่ยนมาสู่ความเรียบหรูในเนื้อกลิ่นแทนได้อย่างลงตัว ปิดท้ายกลิ่นได้อย่างเรียบหรู มินิมัล และสร้างความพึงใจได้ไม่ยากจริงๆ

เหมาะสำหรับ - Unisex ชัดเจน กลิ่นมาสายสดชื่นแบบสภาพแวดล้อมและมีโทน Cologne เป็นพื้นฐานแบบว่ายังไงก็เข้าได้หมดถ้าต้องการความสดชื่นเรียบหรูแบบมีระดับ ซึ่งไปได้กับทุกสถานการณ์ยามกลางวันแบบครอบจักรวาลเลยทีเดียว (เพียงแต่ถ้าเอาไปใส่ออกกำลังกายแอบเปลืองตังค์ไปนิด) ส่วนยามค่ำคืนเน้นใส่ทั่วๆ ไปในวันร้อนๆ สร้างความสดชื่นและความรื่นรมย์ทางกลิ่นให้กับตัวเองและผู้อื่น รวมถึงใส่ออกงานน่าจะดีกว่า เพราะไม่เข้ากับการใส่ไปปล่อยเสน่ห์ท่องราตรีแต่อย่างมด 

ความทน - กลิ่นทนเกินคาดมากๆ เพราะว่าส่วนตัวเจอไปที่ 12 ชม. กลิ่นยังคงอยู่แม้ว่าจะเหงื่อซึมตลอดวันที่อากาศร้อนๆ ก็ตาม ซึ่งตีไปได้เลยว่าพื้นฐานอย่างน้อยก็ 8 ชม. ได้ไม่ยาก

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้นแล้วจะค่อยๆ ผ่อนลงมาปานกลางราวๆ 4 ชม. แล้วจะเป็นออร่ารอบๆ ตัวกันยาวๆ ไป จนราวๆ 8 ชม. เป็นต้นไป ถึงจะค่อยๆ ลงเป็น Skin Scent 

สรุป - หนึ่งในกลิ่นที่ให้ความเป็นโทนดอกแมกโนเลียลอยตามลมสดชื่นยามเช้าได้อย่างเป็นธรรมชาติและดีงามมากเกินคาด มีความใส Transparent และมีความเป็นโทนสว่างที่ดีมากแบบที่ใช้กับช่วงอากาศร้อนๆ ก็ไม่อึดอัดและเติมความสดชื่นรื่นรมย์ได้ดีเสมอต้นเสมอปลาย ซึ่งแน่นอนว่าขออวยยศกันตรงนี้ เพราะนี้เป็น 1 ใน Top 25 น้ำหอมที่บอกความเป็นตัวเข็มขัดสั้นในสายรื่นรมย์นั่นเอง 

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://m.fredericmalle.eu/media/images/products/630x615/fm_sku_H3WF01_630x615_0.jpg

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น