วันศุกร์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2565

Review: Celine - Nightclubbing

Celine - Nightclubbing

ให้ลองนึกถึงเวลาเราไปเที่ยวคลับในไทยและอยู่ในนั้นจนปิดตอนตี 1 - 2 คิดว่ากลิ่นที่ติดตัวเราตอนออกมาจากคลับ แบบที่เรามีสติสัมปัญชัญญะครบถ้วนเพราะไม่ได้ดื่มเยอะ จะเป็นกลิ่นอย่างไร ทดไว้ในใจเรื่องที่หนึ่ง

คราวนี้ลองนึกถึงเวลาเราอยู่อเมริกาแล้วคลับก็ปิดตี 2 เช่นกัน แต่สไตล์อเมริกัน เรียกว่าเที่ยวตั้งแต่หัวค่ำ ออกจากคลับหนึ่งไปอีกคลับหนึ่ง ไปเรื่อยๆ จนกว่าคลับสุดท้ายจะปิด แล้วออกมาแบบเรายังมีสติที่พอไหวอยู่เพราะไม่ได้ดื่มจัดหนักมาก กลิ่นที่ติดตัวเราจะเป็นอย่างไร ทดไว้ในใจเรื่องที่ 2 แล้วพอแค่นี้ก่อน (เพราะถ้าไปเกาหลีต่อคือทั้งคืนยันเช้า เดี๋ยวทดกันไว้เยอะเกินไปจนมึน)

และเมื่อเอาสิ่งที่ทดไว้ในใจทั้ง 2 เรื่องมาเทียบกับหนึ่งในน้ำหอม Collection - Haute Perfumerie ที่เป็นสาย High-End ของแบรนด์ Celine ที่นำเสนอกลิ่นอายสายนักท่องราตรีชาวปาริเซียงที่สนุกสนานกับการท่องราตรีจะออกมาเหมือนกับที่ทดไว้ในใจแค่ไหนมาว่ากันที่รุ่นนี้เลย Nightclubbing 

สิ่งที่ทดไว้ในใจ - ไม่ได้ต่างกันไม่ว่าจะในไทย หรือใน US แต่สิ่งที่ชัดมากเลยคือ กลิ่นที่ติดตัวคือบุหรี่แบบเต็มๆ มาแบบชัดทุกอณูเสื้อผ้าที่ใส่ (ยกเว้น กกน.) ผสมกับน้ำหอมที่จัดเข้าไปเป็นอีกกลิ่นซึ่งจะได้อีกกลิ่นที่มีเสน่ห์ขึ้นมา หรือบางทีอาจจะอึนๆ ไปบ้าง บางทีก็มีกลิ่นเหล้ากรุ่นๆ ออกมาประปรายตามการกินมากกินน้อย เพราะยังไงโจทย์ก็บอกว่ายังคุมสติได้อยู่

สิ่งที่ Nightclubbing เล่าผ่านกลิ่น - ถึงกับอ้าปากค้าง เพราะเปิดตัวมานี่มันเหมือนพึ่งออกมาจากคลับแบบที่ไม่ได้มีกลิ่นเหล้ามาแย่งซีนชัดๆ เพราะมันคือกลิ่นควันบุหรี่แบบเต็มๆ แบบที่เราเข้าไปอยู่ในสถานที่ปิด เช่น คลับที่ให้สูบบุหรี่ได้แล้วให้อารมณ์ติดตัวติดหัวติดเสื้อเต็มไปหมด ซึ่งจับต้องเลเยอร์แรกของกลิ่นได้แบบชัดมากนั่นคือยาสูบแบบควันไอที่ไม่ได้มีโทนหวานโปร่งใบยาสูบมาทำให้กลิ่นไพล่ไปทางซิการ์แต่อย่างใด เสริมด้วยกลิ่นออกทางคล้ายโทนแป้งทึบอวลๆ เข้ามาด้วย และจะมีโทนออกทางเขียวขมฟุ้งๆ ของ Galbanum ด้วยที่เป็นตัวเสริมให้เนื้อกลิ่นกลายเป็นควันบุหรี่ที่ติดตัวอย่างชัดเจน แต่เพราะว่าความเป็นโทนแป้งมันมีเลเยอร์แบบแป้งเครื่องสำอางค์กึ่งวานิลลาเนียนๆ แกมกลิ่นแบบเสื้อผ้าสะอาดแฝงอยู่ เลยยิ่งตอกย้ำไปอีกว่า นี่แหละพึ่งออกจากคลับมาเต็มๆ

ในการเปลี่ยนแปลงของเนื้อกลิ่นเพื่อเข้าช่วงกลางจะออกแนวลดทอนความเข้มข้นของกลิ่นควันบุหรี่ลงมาเสมอกับกลิ่นอายแนวแป้งเครื่องสำอางค์แทน ซึ่งตรงนี้แหละที่ให้อารมณ์ออกทาง Feminine อยู่บ้าง ซึ่งตัวเด่นหลักนอกจากกลิ่นควันบุหรี่ กลิ่นทึบควัน กลิ่นขมฟุ้งที่ยังมาหมดก็จริง แต่ตัวแฝงในช่วงต้นที่เริ่มจับต้องได้ชัดขึ้นเลยก็คือกลิ่นโทนหัวเหง้าออริสที่ให้โทนแป้งทึบ (สอดรับกับกลิ่นควันบุหรี่) กลิ่นไอริสที่ให้โทนแป้งฝุ่น กลิ่นดอกไม้อ่อนๆ ที่คาบเกี่ยวระหว่างดอกไม้ขาวหน่อยๆ กับกุหลาบเบาๆ และสุดท้ายวานิลลาที่จะเสริมให้โทนแป้งมีความหวานอวลอุ่นหน่อยๆ อารมณ์แป้งวานิลลามาเจอกับแป้งไอริสประมาณนั้น มันคืออีกช่วงที่หลังจากออกมาจากคลับแล้วกลิ่นควันบุหรี่บนเสื้อผ้าเริ่มเบาลงไป แต่ยังคงจับต้องได้ชัดอยู่และให้เสน่ห์ที่น่าค้นหาแกมเซ็กซี่ ซึ่งถ้าจะเทียบอารมณ์ก็กำลังกลับหรือกลับถึงสดๆ ร้อนๆ หรืออาจจะกลับห้องใครซักคนเพราะกลิ่นเข้าทางเย้ายวนแบบหลังจากกลับจากคลับแล้วไปต่อกับคนที่ต่างถูกใจกัน อะไรประมาณนี้

เมื่อเนื้อกลิ่นเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงทีละเล็กละน้อย โดยการลดทอนความเข้มข้นของกลิ่นควันบุหรี่และแป้งเครื่องสำอางค์ลงมาเรื่อยๆ จนมีโทนนุ่มสะอาดของ Musk ที่มีความเข้มของกลิ่นขมอ่อนๆ แบบ Oak Moss แกมกลิ่นปร่าระเรื่อของพิมเสนที่เสริมขึ้นมาทีละหน่อย ก็จะเป็นการเข้าช่วงท้ายของน้ำหอมที่จะกลายเป็นกลิ่นแบบผิวกายที่มีกลิ่นควันบุหรี่ติดอ่อนๆ มีเสน่ห์ แกมกลิ่นนวลๆ อบอุ่นที่มีทั้งความเป็นแป้งวานิลลาเบาๆ เคล้า Musk ที่ให้ความระเรื่อกำลังดี กลิ่นจะไม่ได้หนักหน่วง แต่ให้ความสมดุลย์ที่สื่อออกมาได้ดีแบบกลิ่นกายเย้าๆ เร้าใจเซ็กซี่เนียนๆ ซึ่งถ้าเทียบอารมณ์กลิ่นก็กลับห้องทั้งของตัวเองหรือห้องใครก็ตามแล้วไม่ได้อาบน้ำ พอตื่นมากลิ่นผสมผสานกันเหลือเพียงเบาๆ ให้ให้นึกสิ่งที่ผ่านมาเมื่อคืนให้ความเร้าใจกำลังดี โดยที่ไม่มีกลิ่นเหล้าหึ่งๆ มารบกวน ซึ่งถือว่ายังคุมโทนความมีระดับในการท่องราตรีแบบมีชั้นเชิงและมีระดับ โดยที่ไม่ได้เข้าสไตล์หัวราน้ำแฮงค์จัดแต่อย่างใด 

เหมาะสำหรับ - Unisex ที่ไพล่ไปทางผู้หญิงอยู่บ้าง แต่ถ้าไม่มายด์ก็จัดได้หมดทุกเพศสบายมาก โดยเน้นตั้งแต่วัยทำงานขึ้นไปจะเข้าทางที่สุดในการใช้งาน ซึ่งเนื้อกลิ่นอาจจะไม่ได้แตะในเรื่องความเป็นทางการมากนัก แต่บางมุมก็ให้ความรู้สึกแบบกลิ่นกายคนสูบบุหรี่ได้อยู่ ก็พอใส่ได้บ้างแบบดูกาลเทศะเป็นหลัก แต่ในยามทั่วๆ ไป ก็ใส่ได้สบายมาก รวมถึงการใส่ท่องราตรีก็เป็นการเตรียมตัวก่อนได้เลยว่าพร้อมกระโจนโลกยามราตรีสุดๆ แบบที่ไม่จำเป็นต้องใส่ความจัดจ้านหรือความหนักอวลหวานแบบจงใจมากแต่ก็มีเสน่ห์ในตัวสูง ส่วนกิจกรรมที่ให้ตัดออกไปได้เลยนั่นก็คือ ใส่เพื่อกิจกรรมกลางแจ้งหรือออกกำลังกาย มันจะกลายเป็นคนพึ่งสูบบุหรี่มาออกกำลังกายไปแทน

ความทน - ดีงามเลยที่พื้นฐาน 8 ชม. และไปต่อได้อีกถึง 12 ชม. ได้ตามสภาพผิวหรือจำนวนสเปรย์ โดยส่วนตัวเจอเป็นเรื่องปกติที่ 12 ชม. กับการใช้งานที่ 6 สเปรย์ 

การกระจาย - เปิดมาก็กระจายดีมากจนนึกว่าพึ่งออกมาจากคลับ อารมณ์แบบกลิ่นบุหรี่ติดตัวเต็มๆ แล้วผ่อนลงมาที่กระจายดีกับปานกลางไปราวๆ 4 ชม. ถึงค่อยเป็นออร่ารอบๆ ตัวคงที่ยาวไปถึงราว 8 ชม. จึงเริ่มเป็น Skin Scent

สรุป - เป็นไปตามที่ทดเอาไว้ในใจถึงกลิ่นที่ควรจะเป็นในการไปเที่ยวกลางคืนสายเข้าคลับชัดเจน แต่เอาจริงๆ กลิ่นนี้ถ้าเทียบกับสไตล์ไทยๆ มันจะได้ Feel กับคนใช้เพียงอย่างเดียวในการให้ความรู้สึกแบบเที่ยวคลับมา แต่ถ้าเป็นคนอื่นๆ รอบตัวอาจจะได้ความรู้สึกว่า ที่โซนสูบบุหรี่คนเยอะเหรอ กลิ่นควันบุหรี่เลยจัดจ้านขนาดนี้เอาได้ ซึ่งถ้าเป็นแนวยุโรปหรืออเมริกาอันนี้ค่อนข้างชัดเลยว่าบอกถึงสไตล์คนใช้ได้เลยว่า “สายเที่ยว”  แต่ถ้าทิ้งช่วงไปยังช่วงท้ายต้องยอมรับเลยว่าเป็นกลิ่นที่สมดุลย์จริงๆ แบบคนกลิ่นกายอวลๆ ที่มีกลิ่นบุหรี่เย้าๆ ดึงดูดแบบที่ เออ มีเสน่ห์และเซ็กซี่เชียว

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล สามารถเป็นได้ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่เขียน เพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นได้ทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://www.celine.com/en-th/fragrance-collection/nightclubbing-eau-de-parfum-100ml-6PC1H1005.37TT.html

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น