วันพฤหัสบดีที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2565

Review: Molton Brown - Milk Musk

Molton Brown - Milk Musk

ถ้าว่ากันถึงแบรนด์ที่เน้นในเรื่องความหอมที่มาในสาย Body & Hair Care ที่เรียกว่ามีเจลอาบน้ำกลิ่นหอมหลากหลายมากๆ และมีความ Luxury ไม่น้อย จนต่อยอดมามีน้ำหอมที่ได้รับความนิยมมาเสมอตั้งแต่ยุค 70 จนถึงปัจจุบัน แถมถ้าได้ไปนอนโรงแรมระดับ 5 ดาวหลายๆ แห่งใน UK เขาก็ใช้ผลิตภัณฑ์อาบน้ำของแบรนด์นี้เป็นหลักเสียด้วย ซึ่งนั้นก็คือ Molton Brown ที่สร้างความประทับใจมาอย่างยาวนาน

แต่เพราะเน้นในเรื่องของน้ำหอมเลยขอมาป้วนเปี้ยนทางนี้แทน ซึ่งเมื่อได้เห็นว่า Molton Brown มีการทำน้ำหอมออกมาเป็น 2 โซนที่มักจะเป็นชื่อกลิ่นเดียวกัน แต่ต่างกันที่ความเข้มข้นนั่นคือ Eau de Toilette และ Eau de Parfum ซึ่งพอแบ่งออกมาแบบนี้ คาดเดาได้ไม่ยากว่าพื้นฐานกลิ่นจะเหมือนกัน แต่ต่างกันที่ความรู้สึกในการใช้งานและโทนเสริมต่างๆ ที่เข้าทางกับความเข้มข้นในแบบนั้นๆ แน่ๆ (แนวๆ เดียวกับสาย Designer ที่มีรุ่น EDT EDP และ Parfum ในชื่อรุ่นเดียวกันประมาณนั้น) ดังนั้นเมื่อได้มาเจอกับแบรนด์นี้ครั้งแรก ก็ขอมาลองความหอมของโทนเรียบง่ายนุ่มนวลอย่าง Musk ซะหน่อยกับการเป็นสาย EDT ดูสิว่าจะสื่อสารออกมาอย่างไร

Milk Musk EDT เปิดตัวมาได้น่าสนใจมากกับสิ่งที่รู้สึกได้เลยว่าจะมีและจะมีกันยาวๆ ไปอยู่ในทุกช่วงนั่นก็คือ Musk แต่กลับไม่ได้เด่นมากนักในช่วงต้น เพราะว่าเป็นเสมือนพื้นกลิ่นที่รอการเปิดตัวเสียมากกว่า แต่จะให้โทนสดชื่นติดหวานอมเปรี้ยวแกมเขียวนิดๆ ขึ้นมาเป็นตัวเรียกความสนใจก่อน ซึ่งเนื้อกลิ่นจะมีความเป็นโทนผลไม้ที่มีความหอมติดฉ่ำเล็กๆ ของลูกแพร์ที่มีความหวานเจือแกมกลิ่นพีชที่ให้ไม่ได้ออกทางหวานนวลแต่มีความหอมแกมเปรี้ยวสดชื่นเล็กๆ ที่คาดว่าน่าจะมีตัวเสริมสำคัญอย่างมะกรูดฝรั่งที่ให้ความเป็น Citrus ติดปร่าอ่อนๆ แกมเขียวนิดที่สร้างบรรยากาศ แน่นอนว่าได้ความสดชื่นรื่นจมูกหวานอมเปรี้ยวใสๆ ที่มีความเขียวประปรายมาดึงจมูกแบบเรื่อๆ ก่อนที่จะรู้สึกได้ถึงความสะอาดนวลอ่อนๆ ที่เป็นฉากหลังซึ่งเป็นการปูทางในช่วงต้นที่สร้างความประทับใจแบบไม่โฉ่งฉ่างได้น่าสนใจในการติดตามกลิ่นต่อ

เมื่อเนื้อกลิ่นโทนสดใสและสดชื่นหวานผมเปรี้ยวอ่อนๆ เริ่มเบาลง ก็เปิดทางให้ Musk กลายเป็นผู้เล่นที่ดันตัวเองขึ้นมาเป็นตัวเอกหลักในที่สุด เนื้อกลิ่นจะมีความอบอุ่นเข้ามาร่วมด้วยแบบค่อยเป็นค่อยไปและค่อยๆ พลิกเนื้อกลิ่นจากช่วงต้นสู่การเป็นโทนอบอุ่นผ่อนคลายในที่สุด แต่ก็ยังมีกลิ่นโทนสดชื่นประปรายแบบบางๆ อยู่ให้พอรู้สึกได้ ซึ่งเนื้อกลิ่นในช่วงนี้จะมีความมินิมัลสูงมากในการนำเสนอโทน Musky ที่อบอุ่นนุ่มนวลและกรุ่นรื่นรมย์จมูกมาก ซึ่งแน่นอนว่า Musk ให้ความนุ่มสะอาดนวลแบบที่ยังไงก็รอด แต่ตัวเสริมแรกนั่นคือวานิลลาที่มาในโทนแป้งอบอุ่นทำให้เนื้อกลิ่นติดหวานอุ่นอ่อนๆ กำลังดี ตามด้วยกลิ่นอวลไม้หอมที่สว่างๆ กึ่งผิวกายติดเค็มเล็กๆ ของโทนกลิ่นแนวสารหอมอย่าง Ambroxan ที่เข้ามาเป็นตัวตรึงให้เนื้อกลิ่นมีมิติออกทางสีไม้สว่างๆ เลยทำให้ช่วงนี้ได้ความเป็นโทน Musky ที่มีความครีมมี่นวลๆ หอมนุ่มๆ ละมุนๆ ได้ทั้งความเป็นแป้งหน่อยๆ ก็ได้ ความเป็นกลิ่นอวลผิวกายนุ่มสะอาดก็ดี แบบที่ไม่โฉ่งฉ่างเน้นเรียบหรูนุ่มนวลผ่อนคลายที่น่ากอดไม่ใช่น้อยอีกด้วย

ในการเข้าสู่ช่วงท้าย เนื้อกลิ่นจะเอาจากช่วงกลางมาทั้งหมด เพียงแต่จะเพิ่มลูกเล่นทางกลิ่นที่ให้ความรู้สึกแบบครีมมี่นุ่มนมเข้ามาด้วยจากความเป็นถั่วตองก้า เลยจะได้วูบกลิ่นทั้งความรู้สึกแบบติดแป้งนมกึ่งวานิลลาที่มี Musk นุ่มๆ สะอาดๆ คลอ แต่ก็ยังมีความอบอุ่นจากตัว Ambroxan เสริมตรึงกลิ่นไม้อยู่เช่นเดิม และมีลูกเอื้อนกลิ่นไม้หอมโปร่งๆ จรึมๆ หน่อยๆ รวมอยู่ด้วย ซึ่งเนื้อกลิ่นไม่ได้หวือหวาหรือว่าโฉ่งฉ่างแต่อย่างใด แต่ให้ความนุ่มละมุนเรื่อยๆ มาเรียงๆ ที่มีความเรียบหรูมินิมัลแบบไม่ต้องเยอะสิ่งได้อย่างลงตัวและผ่อนคลายน่าเข้าใกล้ได้ดีจริงๆ

เหมาะสำหรับ - Unisex ชัดเจนมากแบบที่ไม่ว่าเพศไหนก็รับเอาความนุ่มในเนื้อกลิ่นแล้วมีความสุขได้ไม่ยาก ซึ่งเข้ากับทุกสถานการณ์ยามกลางวันแบบครอบจักรวาล ใส่ไปเหอะรอดและผ่อนคลายจริงๆ แต่จะมีนิดนึงคือ ถ้าจะใส่เพื่อออกกำลังกาย ควรจะรอช่วงท้ายๆ น่าจะดีกว่า เพราะมันจะสร้างความรู้สึกนุ่มสะอาดได้ดีกว่าอวลอุ่นกระจายออกรอบตัว ส่วนยามค่ำคืนได้หมดทั้งการใส่ออกงาน ใส่ทั่วๆ ไป ใส่ยามโรแมนติค หรือว่าใส่นอนแบบเบาๆ ก็ยังได้ เพราะกลิ่นชวนซุกกอดได้ไม่ยากเลย

ความทน - กลิ่นทนราวๆ 8 ชม. เป็นสำคัญ อาจจะมีบวกลบบ้างก็ราว 2 ชม. ซึ่งส่วนตัวเจอที่ราวๆ 10 ชม. เสมอกับการใช้งานที่ 6 สเปรย์

การกระจาย - กลิ่นกระจายกลางๆ ในช่วงต้น เนื้อกลิ่นไม่ได้มาสายปล่อยพลังแต่ให้ความเพลินจมูกกับตัวผู้ใช้เองแทน แต่พอเข้าช่วงกลางกลิ่นจะมีความอวลหนาขึ้นมาอีกสเต็ปมาเป็นกระจายดีซักครู่ ก่อนที่จะผ่อนลงมาที่ปานกลางแล้วลดลงมาเป็นออร่ารอบๆ ตัวกันตั้งแต่ราวชั่วโมงที่ 3 ของการใช้งาน แล้วก็จะยาวๆ ไปจนกลายเป็น Skin Scent เมื่อผ่านไปประมาณ 6 ชม. ที่เหลือก็แล้วแต่ว่าผิวผู้มช้คนนั้นจะกักน้ำหอมต่อได้นานขนาดไหน

สรุป - กลิ่นไม่ได้หวือหวา กลิ่นไม่ได้ถึงกับแหวกแนว และกลิ่นก็ไม่ได้มาสายกระจายจัดจ้าน “แต่” Milk Musk EDT กลับให้ความเรียบง่ายที่หอมสดชื่นส่งต่อที่ความนุ่มละมุนและอบอุ่นแบบผ่อนคลายกับตัวผู้ใช้ไปเรื่อยๆ อย่างไม่รีบไม่ร้อน โดยที่ยังคุมโทนกลิ่นสไตล์มินิมัลเรียบหรูไม่เยอะสิ่งได้ลงตัวมากมาย ที่แน่ๆ ส่วนตัวบอกเลยว่ากลิ่นนี้ใส่แล้วมันมีความน่าซุกมากๆ เพราะกลิ่นหอมนุ่มนวลครีมมี่อ่อนๆ แบบชวนซุกและชบจุดที่ซุกกันยาวๆ จริงๆ   

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล สามารถเป็นได้ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียน เพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นได้ทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://www.moltonbrown.co.uk/store/fragrance/eau-de-toilette/milk-musk-eau-de-toilette-100ml/NMP262

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น