วันพฤหัสบดีที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2564

Review: Banana Republic - Classic Green

Banana Republic - Classic Green

ถ้าต้องหาหนึ่งในของดีเทคนิคไม่ต้องในสายสดชื่น และมีความเป็นโทน Citrus ที่สดใสแบบที่ใช้ยังไงก็รอด นอกจาก CK1 แล้วอีกหนึ่งหนึ่งที่มองข้ามไม่ได้แม้จะมาในโทนเดียวกัน แต่มีความใสมากกว่านั่นคือ Banana Republic Classic ซึ่งอยู่ยงคงกระพันมากเสมอ และยืนหนึ่งมาตลอดแบบไม่มี Flanker มาตั้งแต่ปี 1995 จนเมื่อปี 2000 ถึงได้ทยอยๆ มีรุ่นลูกออกมาเรื่อยๆ โดยยืนพื้นที่ความเป็นสไตล์กลิ่นสดชื่นแนวเดิมเพิ่มเติมโทนอื่นๆ ให้มีความน่าสนใจ จนปัจจุบันนับรวมกับรุ่นต้นตระกูลก็มี 5 รุ่นแล้วในตอนนี้

เช่นนั้นตัว Classic อันนี้เล่ากลิ่นไปนานมากแล้ว ก็เลยได้เวลาของการมาเจาะที่รุ่นลูกหลานบ้างกับ Classic Green ทื่เป็น Flanker รุ่นแรกที่ได้มีโอกาสลอง เช่นนั้น กลิ่นจะผสมผสานกันอย่างไร มาว่ากันได้ตามนี้เลย

เนื้อกลิ่นในช่วงต้นต้องยอมรับเลยว่าเป็นการเอาความเป็น Banana Republic Classic เดิมมาใช้ได้อย่างสมศักดิศรีมาก กับการเปิดโทนกลิ่นด้วยกลิ่นอายสาย Citrus หอมเปรี้ยวสดชื่นและมีความใสได้อย่างน่าสนใจซึ่งกลิ่นที่จับต้องได้ชัดเจนมากในโซน Citrus เลยคือส้มที่จะให้ความเปรี้ยวฉ่ำเจือหวานปลายเสริมด้วยความขมออกทางแนวเปลือกส้มหน่อยๆ เสริมโทนเปรี้ยวขมเจือปร่าหน่อยๆ ของมะกรูดฝรั่งเข้ามาด้วย เนื้อกลิ่นมีความใสเปิดตัวได้ดีแบบแนวกับต้นตระกูล แต่ไม่ได้มีเพียงเท่านี้ เพราะว่าจะมีโทน Green เข้ามาเสริมเยอะพอสมควรด้วยเช่นกันจากกิ่งก้านส้มที่จะให้โทนเขียวเจือกลิ่นออกทางเปรี้ยวค่อนไปทางดอกส้มหน่อยๆ ที่ตีคู่ขึ้นมาไวมาก รวมถึงมีกลิ่นเขียวปร่านวลของโหระพาเป็นตัวเสริมอยู่ ซึ่งชัดเจนเลยว่าสื่อสารกันตั้งแต่เริ่มต้นในการเป็น Classic Green แบบเต็มๆ

ในการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ช่วงกลาง กลิ่นอายใสๆ ในช่วงต้นจะลดลง และเริ่มเป็นกึ่งโทนแป้งสดชื่นเข้ามา แต่กลิ่นจะยังคง Concept ชัดเจนพอสมควรกับความสดชื่นของโทน Citrus ที่เริ่มเป็นโทนที่สดชื่นติดแห้งๆ มากขึ้น และมีโทนเขียวที่ยังคงตีคู่สร้างความสดชื่นก็ได้ อะโรม่าก็ดีอยู่ ซึ่งแน่นอนว่าพื้นกลิ่นจะมีลักษณะกึ่งโทนแป้งหน่อยๆ จากโทนดอกไม้อย่างสายน้ำผึ้ง แต่จะเสริมด้วยกลิ่นขิงที่ให้ความปร่าหวานเจือเผ็ดทำให้มีอารมณ์กลิ่นที่ซ่าเนียนๆ  โดยทุกอย่างยังฉาบหน้าด้วยกลิ่นที่ตามมาจากช่วงต้น แต่ไม่ใช่แค่นี้ เพราะจะมีชาเขียวมาเพิ่มสร้างโทนกลิ่นอายสไตล์เขียวสดชื่นอะโรม่าเข้ามาร่วมด้วย ซึ่งต้องบอกว่ากลิ่นชาเขียวที่มาในรุ่นนี้จะไม่ได้มาสไตล์มัทฉะนุ่มๆ แต่จะเป็นชาเขียวออกทางกลิ่นเขียวสดชื่นติดคมมากกว่า โดยเสริมความอะโรม่าอ่อนๆ ให้กับโทน Citrus แทน ซึ่งยังคุมโทนได้ดีในความเป็น Classic Green ได้ครบถ้วนเช่นเดิม

ในช่วงท้ายอันนี้จะเป็นช่วงที่น่าสนใจมาก เพราะว่าโทนกลิ่นแนว Citrus Green ตั้งแต่ต้นยันกลาง จะผ่อนตัวลงไปกลายเป็นตัวเสริมแบบอ่อนๆ แทน เพราะตัวเด่นจะกลายเป็นโทนไม้หอมเจือ Musk แทน ซึ่งเนื้อกลิ่นจะได้อารมณ์แบบเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาดๆ แบบไม่ได้ใส่น้ำยาปรับผ้านุ่ม จะได้ความเป็นไม้หอมอ่อนๆ สะอาดๆ โปร่งๆ แนวๆ ISO E Super ที่ได้โทนไม่ซีดาร์โปร่งๆ และมีกลิ่นอวลไม้อ่อนๆ เคล้า Musky ที่ผ่านการเกลากลิ่นจนได้กลิ่นแบบผ้าสะอาดของ Cashmere Wood ที่ซ้อนลงไปด้วยกลิ่น Musk นวลสะอาดพอดี แต่เพราะการมีโทนออกทางกึ่งแป้งและกลิ่นโทน Citrus ที่เป็นตัวมาตัดทอน กลิ่นเลยหยุดที่กลิ่นออกทางสดชื่นเรื่อๆ แกมผ้าขาวสะอาดที่จะตีขึ้นมาอ่อนๆ แต่ถ้าเวลาดมเข้าไปใกล้ผิวจะจับต้องได้ถึงกลิ่นออกทางกึ่ง Musk กึ่งแป้งหวานอ่อนนวลๆ สบายๆ กำลังดีปิดท้ายกันแบบยังไงก็รอดยาวๆ ไป

เหมาะสำหรับ - Unisex ชัดเจนกวาดหมด สามารถใช้ได้ตั้งแต่น้องประถม (แบบฉีดเสื้อที่สวมแทน) จนถึงผู้ใหญ่ที่ฉีดลงผิวได้แบบครอบคลุมจริงๆ และยังไงก็รอดสูงมาก ซึ่งเข้าได้กับทุกสถานการณ์ครอบจักรวาลเลยในยามกลางวัน ส่วนยามค่ไคืนเน้นใส่แบบสดชื่นทั่วๆ ไปจะดีที่สุด เพราะกลิ่นไม่ได้เย้ายวน และไม่ได้จัดหนักนัก ถ้าเอาไปท่องราตรีบอกเลยว่าโดนกลบเอาเสียเปล่าๆ 

ความทน - อันนี้แหละที่ต้องยกให้ เพราะรุ่นต้นตระกูลเป็น EDT ที่ความทนด้อยพอสมควร แต่กับรุ่นนี้ที่มาแบบ EDP อันนี้ต้องยกให้เลยว่ายาวถึง 10 ชม. ในส่วนตัวที่ใช้ทุกครั้ง แถมไปต่อถึง 15 ชม. ก็เจอบ่อย ซึ่งถ้าตีเป็นสภาพผิวอื่นๆ ยังไงก็เกิน 6 ชม. แน่ๆ

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในช่วงต้น สดชื่นติดเขียวมาแล้ว แล้วจะผ่อนลงมาเป็นแานกลางไปราวๆ 3 - 4 ชม. ถึงลดลงเป็นออร่ารอบๆ ตัวกันยาวๆ ไปถึงราว 6 - 8 ชม. แล้วจะลงเป็น Skin Scent

สรุป - เคารพต้นตระกูลที่มีดีในตัวสูงไม่พอ เพิ่มความเขียวที่ให้ความสดชื่นกึ่งผ่อนคลายเข้าไปอีก ซึ่งถือเป็นหนึ่งในกลิ่นที่ยังไงก็รอดสูงมาก มหาชนได้กลิ่นแล้วไม่ด่าในใจและเผลอๆ จะชอบได้ไม่ยากเสียด้วย รวมถึงมีความเรียบง่ายแกมเรียบหรูเรื่อยๆ ได้ดี ชัดเจนเลยว่านี่คือ #ของดีเทคนิคไม่ต้อง

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://www.allbeauty.com/1233587-banana-republic-classic-green-eau-de-parfum-spray-125ml

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น