Imaginary Authors - Yesterday Haze
เรื่องราวคำโปรยโดยสรุปของรุ่นน้ำหอม - ว่ากันด้วยเรื่องราวของภรรยาชาวนาผู้หนึ่งซึ่งมีความสัมพันธ์อันซ่อนเร้นกับนักบินพ่นยาฆ่าแมลงในฟาร์มที่เป็นลูกจ้างของสามีมาอย่างยาวนาน จนวันนึงความรู้สึกผิดก่อตัวมากขึ้นและไม่ต้องการทรยศต่อความรักของสามีอีกต่อไป จึงได้ข่มใจตัดสัมพันธ์แล้วเก็บซ่อนความรักที่เร้นลับนี้ไว้ในความทรงจำให้เสมือนกับเป็นม่านหมอกในวันวาน
หลังจากอ่านคำโปรยนี่ยังกับนั่งดูภาพยนตร์เรื่อง The Bridges of Madison County ที่เปลี่ยนจากความรักซ่อนเร้นกับช่างภาพอิสระในเวลาอันสั้น มาเป็นความสัมพันธ์ซ่อนเร้นที่ยาวนานนักบินรับจ้างด้านการเกษตรแทน เลยเกิดความตื่นเต้นไม่น้อยว่าแบรนด์ Imaginary Authors จะแปลงสารความเมโลดราม่าของเนื้อเรื่องสไตล์นี้มาสู่กลิ่นประมาณไหน เช่นนั้นลองแล้วเล่าต่อก็ขอมาเจาะกันที่รุ่นนี้เลยอย่าง Yesterday Haze
อย่างแรกเมื่อเห็น Notes กลิ่น มีคำถามขึ้นมาในใจว่าจะทำออกมาเป็นรักหนหลังอันแสนหวานงั้นหรือ ถึงมีโทนออกทาง Gourmand เยอะ แต่พอใช้จริงแล้วเรียกว่าต้องเปลี่ยนความคิดกันเลย เพราะ Notes กลิ่นต่างๆ ที่เอามาผสมผสานในแต่ละช่วงมันคือสัญลักษณ์ที่มีความหมายในการสร้างอารมณ์กลิ่นได้อย่างมีชั้นเชิงเกินคาด เพราะช่วงเปิดจะได้ความรู้สึกนุ่มครีมมี่ของวิปครีมแกมกลิ่น Fig ที่เข้ามาเสริมจนกลายเป็นครีมมะเดื่อที่มีความหวานนุ่มเขียวเจือๆ แล้วจะมีกลิ่นเปลือกไม้เสริมเข้ามาทำให้กลิ่นไม่ได้ดูหวานละเมอเพ้อพกไปมากกว่านี้ อารมณ์มาตัดทอนความรู้สึกทางกลิ่นให้มีความรู้สึกไม่ได้แค่หวานอย่างเดียว แต่มีโทนออกทางไม้ติดขมโปร่งแฝงอยู่ด้วยตลอด ซึ่งพอมาจับต้องความรู้สึกกันจริงๆ วิปครีมเปรียบเสมือนความฝันอันหวานแกมกลิ่น Fig ที่มีความหมายถึงความวาบหวานหรือ Sex ก็ย่อมได้ แต่กลิ่นไม้หอมที่ติดขมออกแนวเปลือกไม้เจือฝาดหน่อยๆ มันเลยเป็นอารมณ์แบบบล็อคความรู้สึกไม่ให้มันไปมากกว่านี้ ซึ่งต้องยอมรับเลยว่าเป็นการสร้างโทนหวานปนขมที่มีสัญลักษณ์บอกเล่าได้อย่างมีชั้นเชิงตั้งแต่แรกเริ่มในการเปิดกลิ่นเลย
แน่นอนว่า กลิ่นมันจะมีความเป็นโทนวิปครีม Fig อยู่เรียกว่าเป็นตัวหลักหรือ Center Notes เลยก็ย่อมได้ แต่เนื้อกลิ่นจะมีความเข้าโทนแป้งมากขึ้นตามลำดับและมีกลิ่นติดออกทางกึ่งคาราเมลกึ่งหญ้าแห้งที่มีความครี่มมี่นมๆ หน่อยๆ ของถั่วตองก้าเข้ามาเสริมด้วยเชื่อมโทนกับกลิ่นอายโทนแป้งของไอริสที่เข้ามาให้อารมณ์ออกทางติด Dusty หรือแป้งฝุ่นหน่อยๆ ซึ่งในช่วงนี้มันมีความพิเศษบางอย่างคือ บางวูบจะได้อารมณ์เปรี้ยวอมหวานแนวผลไม้แว้บมาเป็นระยะที่สร้างความรู้สึกชวนยิ้มและสดใสแกมตื่นเต้นเบาๆ ในเนื้อกลิ่น โดยที่กลิ่นไม้หอมติดฝาดขมเปลือกไม้และแอบมีความรู้สึกออกทางถั่วๆ ติดขมมาเข้ามาร่วมด้วย ก็ยังคงเป็นตัวตัดทอนและกันไม่ให้ไปโทนขนมจ๋าเช่นเดิม อารมณ์บอกว่าไม่ต้องฝันหวานต่อเพราะมันไม่ใช่เต็มๆ และช่วงนี้แหละที่เนื้อกลิ่นมีสัญลักษณ์บางอย่างให้รู้สึกได้เพิ่มเติมจากของเดิมที่ยังคงอยู่อีกอย่างกลิ่นผลไม้ที่สร้างรอยยิ้มเบาๆ กลิ่นโทนแป้งฝุ่นจาก Iris ที่ให้อารมณ์แนวๆ ฝุ่นหรือหมอกบางๆ เรียกว่าคุมโทนกลิ่นในความรู้สึกนึกคิดและสื่อถึงความทรงจำที่เวลาเราคิดถึงแบบ Flashback กลับไปได้อย่างชัดเจนมาก ให้ลองนึกถึงอดีตที่มีความสุข ความหวาน และความวาบหวาม แต่ปัจจุบันมันไม่ใช่แบบนั้นอีกแล้ว มันกลายเป็นแค่ภาพความทรงจำที่ลางๆ ที่เหมือนมีฝุ่นหมอกมาบดบังสิ ช่วงนี้แหละที่บอกความรู้สึกแบบนี้ได้ชัดเจนมากจริงๆ โดยที่ยังยืนพื้นในความเป็นโทน Bittersweet ได้ดีมากเช่นเดิม
ในช่วงท้ายกลิ่นในช่วงกลางจะยังตามมาทั้งหมดเพียงแต่สลับเนื้อกลิ่นให้โทนออกทางถั่วมาเป็นตัวเดินกลิ่นแทนซึ่งจะเป็นกลิ่นของวอลนัทที่จะมีกลิ่นออกทางติดขมเคล้ากลิ่นติดไม้หอมแกมอบอุ่นที่ยังตามมาอยู่ โดยที่กลิ่นโทนออกทางกึ่งแป้งฝุ่นเบาๆ ของไอริสก็ยังชัดเจนและมีความครีมมี่ติดนมของถั่วตองก้าเสริมให้กลิ่นมีนุ่มติดหวานสนับสนุนอยู่ ซึ่งความเป็นวิปครีมกับ Fig จะเหลือเพียงบางๆ ปลายกลิ่นแล้ว ช่วงท้ายเลยจะค่อนข้างชัดเจนมากกับการเป็นโทนที่ติดขมมีความอวลอุ่นกำลังดีปนไม้หอมที่ไม่ได้ทึบเกินไปมีอารมณ์ออกทางแป้งฝุ่นบางๆ ลางๆ มาคลอ และมีความหวานนวลครีมอ่อนๆ รองพื้นด้านหลัง ซึ่งก็เข้าทางปิดท้ายความเป็น Bittersweet ที่ครบถ้วนอยู่เช่นเดิม เพราะเข้าใจเล่นโทนขมติดถั่ววอลนัทกับแป้งที่เหมือนดึงให้กลับสู่ความเป็นจริง และเก็บความหวานนั้นเอาไว้เป็นฉากหลังที่ได้ผ่านพ้นมาแล้ว ปิดท้ายได้ดราม่าสมกับเรื่องเล่าโปรยก่อนเข้าสู่กลิ่นได้อย่างครบถ้วนมาก
เหมาะสำหรับ - Unisex เลย เพราะมันแตะฝั่งผู้หญิงก็ได้ ผู้ชายก็สามารถเพราะเป็นโทนที่มีความหวานปนขมแตะค่อนไปทางขนมหน่อยๆ แต่ก็มีตัวกันซีนเอาไว้ให้มีมิติกลิ่นมันคุมโทนกลางๆ ได้อย่างลงตัว ซึ่งเข้ากับหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันแบบทั่วๆ ไป หรือใส่ทำงาน Office จริงๆ ก็ใส่แบบทางการได้ แต่อาจจะต้องดูความเหมาะสมของงานนั้นๆ ซักหน่อย ส่วนใส่เพื่อกิจกรรมลุยๆ กลางแจ้งหรือออกกำลังกาย ข้ามไปจะดีกว่าเดี๋ยวตีขึ้นจนมึนเพราะเนื้อกลิ่นมันครีมมี่อวลๆ ส่วนยามค่ำคืนก็เหมือนเดิม ใส่แบบทั่วไป หรือจะใส่ออกงานก็ได้อยู่
ความทน - อยู่ที่ราวๆ 8 ชม. เป็นสำคัญ และไปต่อได้อีกถ้าสภาพผิวและจำนวนสเปรย์เหมาะสม โดยส่วนตัวเจอไปที่ 12 ชม. ยังได้กลิ่นอยู่ ถือว่าทำออกมาได้ดีในเรื่องนี้เลย
การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้น แล้วคงตัวไปซักระยะ ก่อนที่จะเป็นกระจายปานกลางกันยาวไปเรื่อยๆ จนเมื่อผ่านไปซัก 5 ชม. แล้วจะลงเป็นออร่ารอบๆ ตัวกันยาวๆ ไปจนถึงราวๆ 8 ชม. ก็เปลี่ยนเป็นติดผิว
สรุป - ต้องชื่นชมเลยว่าเป็นการนำ Notes ต่างๆ ที่ต่างก็สามารถสื่อความหมายและสร้างภาพตามออกมาในความรู้สึกได้ดีมากมาผสมผสานร่วมกันจนเป็นอารมณ์แนวเดียวกับความรู้สึกในความทรงจำราวกับฝันกลางวันที่หวาน นุ่ม วาบหวาม ก่อนมาผสมความขมและเลือนลางกับรักมันเป็นฝุ่นไปแล้ว ถือเป็นการจับเอาความเมโลดราม่ามาลงเป็นกลิ่นได้อย่างมีสัญลักษณ์ในการเล่าเรื่องราวได้อย่างมีชั้นเชิงและมีเสน่ห์ในการจับต้องความรู้สึกได้ดีมาก แม้ว่าจะไม่ Link ตามที่มาของน้ำหอม แต่ก็ถือว่าเป็นโทนหวานที่ไม่ได้เลี่ยนมากจนใส่แบบทั่วไปไม่ได้ เผลอๆ แอบเก๋อีกด้วย สุดท้ายชอบกลิ่นครีมมี่ Fig แกมกลิ่นไม้ตัดโทนเลี่ยนออกไปของกลิ่นนี้มาก เพราะทำออกมาได้ดีจนถึงกับต้องบอกเลยว่า โอย หอมจัง ยอมมมม
หมายเหตุ:
1.
บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล
ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้
ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”
Photo
Credit - https://essenza-nobile.de/imaginary-authors-yesterday-haze-en
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น