วันอาทิตย์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2565

Review: Al Haramain - Portfolio Neroli Canvas

Al Haramain - Portfolio Neroli Canvas

เวลาที่เราเจอแบรนด์น้ำหอมฝั่งทางตะวันออกกลาง เรามักจะคาดเดาเป็นเสมือน Perception กลายๆ ว่า แบรนด์พวกนี้ต้องทำน้ำหอมสายไม้กฤษณาหรือ Oud (ไม่ว่าจะ Oud จริงหรือ Oud Accord ที่ปรุงขึ้นมาให้เหมือน) ออกมาได้ดีและสื่อสารความเป็น Traditional Style แบบสายอาระเบียนได้ชัดเจน แต่พอได้มาลองน้ำหอมที่เน้นกลิ่นอายสายสดชื่นแบบสไตล์มินิมัลหรือว่าจะเป็นกลิ่นโทน Citrus สดชื่นส่วนใหญ่มักจะไม่ได้สุดในเรื่องเนื้อกลิ่นมากนัก เรียกว่าทำได้ตามมาตรฐาน + แอบใส่กลิ่นอายแบบสไตล์อาระเบียนเข้าไปเสียส่วนใหญ่เสมอ

แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่มี เพราะเมื่อได้มาเจอหนึ่งในเพชรเม็ดงามของแบรนด์ตะวันออกกลางอย่าง Al Haramain ที่เอาดอกส้มมาเป็นตัวชูโรงในการให้ความสดชื่นและรื่นรมย์ ซึ่งพอได้ใช้งานแล้วถึงกับทึ่งที่สร้างสรรค์กลิ่นออกมาได้ไม่น้อยหน้าใครทั้งตลาด Niche และ Mass ในสไตล์มินิมัลกับหนึ่งใน Collection - Portfolio อย่าง Neroli Canvas เช่นนั้น ต้องบอกต่อกันหน่อยว่าความน่าสนใจของกลิ่นเป็นยังไงบ้าง

ช่วงเปิดทำให้นึกถึงน้ำหอมแนวๆ กลิ่น Citrus Neroli ที่เป็นโทนแบบ Cologne กันแบบเต็มๆ แบบที่ให้ความสดชื่นที่มีความใสสดชื่นติดเปรี้ยวแบบสแปลชหน่อยๆ แกมกลิ่นออกทางเขียวแกมปร่าที่มีโทน Herbal สมุนไพรหน่อยๆ โดยมีความเป็นดอกส้มแบบสกัดด้วยไอน้ำของ Neroli เป็นลูกเอื้อนแทรกอยู่ในเนื้อแบบจับต้องได้ ซึ่งเมื่อจำแนกแจกแจงเนื้อกลิ่น ตัวเด่นเลยคือมะกรูดฝรั่ง (Bergamot) ที่ให้ความสดชื่นติดปร่าแกมเขียวนิดๆ สร้างบรรยากาศ โดยมีตัวเสริมอย่างเลมอนที่ให้ความสดชื่นสไตล์ Cologne และได้ความใสให้พอรู้สึกได้ โดยมีกลิ่นเขียวติดเปรี้ยวของกิ่งก้านส้มที่เป็นตัวเชื่อมสำคัญกับดอกส้มที่เป็นลูกเอื้อนในเนื้อกลิ่น โดยที่จะมีลูกผสมของโทนสมุนไพรอ่อนๆ แกม Soapy สะอาดของลาเวนเดอร์อ่อนๆ รวมอยู่ด้วย เลยทำให้ช่วงต้นมีความสดชื่นติดเปรี้ยวเขียวสะอาดสไตล์ Cologne ที่มีความเป็นธรรมชาติในเนื้อกลิ่นสูงเลยทีเดียว

ในการเข้าสู่ช่วงกลาง โทน Citrus ในช่วงต้นจะเริ่มลดทอนลงมาอีกสเต็ปกลายเป็นสายสนับสนุน ที่จะสร้างโทนผสมผสานเลเยอร์ระหว่างโทนเปรี้ยวสดชื่นกับดอกไม้ขาว ที่ค่อนไปทางโทนสบู่ใสๆ ที่มีความนวลรองพื้น ซึ่งแน่นอนว่าช่วงนี้ดอกส้มจะมีเลเยอร์ที่น่าสนใจ 2 โทนคือ ความเป็นโทนเปรี้ยวติดเขียวที่มีความขมนิดๆ ติดปร่าหน่อยๆ นำทีมโดยฝั่ง Neroli และมีความเปรี้ยวอมหวานแกมนวลที่ดอกส้มแบบสกัดด้วยตัวทำละลาย Orange Blossom เป็นตัวเสริมพร้อมกับมีโทนดอกมะลิผสมผสานเนียนๆ ซึ่งเนื้อกลิ่นจะชัดเจนกับการเป็นดอกส้มแบบแท้ทรูแบบที่เราจะได้อารมณ์ดอกส้มทุกมิติที่ดอกส้มเป็น ได้ทั้งความสดชื่นและความขาวสะอาดรื่นจมูก มินิมัลแบบเต็มๆ โดยที่เนื้อกลิ่นมีความเป็นธรรมชาติมากเสียด้วย

เมื่อเนื้อกลิ่นเริ่มมีความนวลแกมไม้หอมสว่างๆ เข้ามาแทรกตัวเนียนๆ และเริ่มปล่อยของมากขึ้นตามลำดับ แต่ก็ไม่ได้แย่งซีนความเป็นดอกส้มแต่อย่างใด ยังให้เป็นตัว On Top ทางกลิ่นอยู่ แต่เนื้อกลิ่นจะเริ่มลดทอนความเป็น Neroli ไปเกือบหมดแล้วจะมีเหลือเป็นปลายกลิ่นเขียวเบาๆ แต่จะคุมโทนด้วยลักษณะของ Orange Blossom ที่จะให้ความเป็นโทนนวลสะอาดเจือเปรี้ยวอมหวานหอมเป็นหลักแทนแล้ว ก็จะเป็นการเข้าสู่ช่วงท้ายของน้ำหอมเต็มตัวที่เป็นกลิ่นโทนสะอาดรองพ้นความนุ่มด้วย Musk และมีความเป็นไม้หอมเบาๆ แกมอบอุ่นหน่อยๆ แบบเรียบง่ายไม่ซับซ้อน ฉาบทับด้วยกลิ่นออกทางดอกส้มเปรี้ยวอมหวานสะอาดหอมนวลๆ ให้จับต้องได้ เนื้อกลิ่นยังคุมโทนสว่างและสะอาดอยู่ชัดเจนตลอด โดยปิดท้ายด้วยความมินิมัล เรียบหรู และรื่นรมย์ได้ชัดเจน

เหมาะสำหรับ - Unisex เต็มๆ แบบที่ได้หมดถ้าสดชื่น เป็นกลิ่นโทนสะอาดและสว่างเป็นทุนเดิมเลยแตะได้หมดตั้งแต่น้องๆ วัยอนุบาลเป็นต้นไป (เด็กน้อย ฉีดเสื้อที่สวมเบาๆ ซัก 1 สเปรย์ก็พอ) เลยเข้าได้กับทุกสถานการณ์ยามกลางวัน กวาดหมดเน้นๆ ใส่ไปเถอะยังไงก็รอดสูงมาก แถมกลิ่นเรียบหรูกำลังดีอีกด้วย ส่วนยามค่ำคืนเน้นใส่ทั่วๆ ไปสบายๆ จะดีกว่า เพราะถ้าใส่ไปท่องราตรีก็โดนกลบจากโทนหวานแน่นทั้งหลายแบบแน่ยิ่งกว่าแน่  

ความทน - อันนี้สิที่ต้องยอมให้เขาเพราะกลิ่นแนว Citrus Aromatic ที่ทำเนื้อกลิ่นได้ธรรมชาติแบบนี้ความทนมักจะไม่ค่อยเด่นเท่าไหร่ แต่พอใส่ความเป็น Woody Musk เข้าไปเนียนๆ ให้กลายเป็นกึ่งๆ ลูกครึ่ง 2 โซน รวมถึงให้ความเข้มข้นเป็นระดับ EDP ความทนเลยแจ่มขึ้นกว่าเดิมมาก ซึ่งเฉลี่ยก็ 8 ชม. ได้สบายๆ ซึ่งส่วนตัวเจอไปที่ 12 ชม. เป็นประจำในการใช้งานที่ 6-7 สเปรย์

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้น แล้วจะผ่อนมาที่ปานกลางกันยาวๆ ไปจนถึงราวๆ 5 ชม. ก็จะผ่อนลงมาเป็นออร่ารอบๆ ตัว จนเมื่อพ้นชั่วโมงที่ 8 ก็จะติดผิวแล้ว   

สรุป - เอาตรงๆ จับเขาร่วมทีมกับพวก Tom Ford - Neroli Portofino หรือ 4711 Original Cologne เลยก็ย่อมได้ เพราะเนื้อกลิ่นเป็นโทนใกล้เคียงกัน สามารถใช้ทดแทนกันได้อย่างชิลล์ๆ แต่แถมด้วยความทนที่จัดจ้านมากกว่านี่แหละ ที่ข่มรุ่นที่คล้ายได้อยู่หมัดกว่ามากจริงๆ แต่สิ่งหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คือ เราปรามาสแบรนด์ฝั่งตะวันออกกลางไม่ได้จริงๆ ในเรื่องการทำน้ำหอมนอก Comfort Zone ของตัวเองที่ก็ทำได้ดีไม่ต่างจากแบรนด์ตะวันตกเลย หรือถ้าจะมองในมุม C&D (Copy & Development) ก็ยังนำมาต่อยอดได้ดีเสริมความทนเข้าไปให้กลายเป็นจุดเด่นที่เรียกว่ากลิ่นอื่นๆ ที่ใกล้เคียงสามารถค้อนขวับเข้าให้ได้เลยเช่นกัน (แต่ไม่ได้เนียนซ่อนความ Sexy แบบที่ Tom Ford มีลายเซ็นลงไว้) และสุดท้ายเป็น Neroli ที่ดีมากๆ อีกหนึ่งกลิ่นจริงๆ (อันนี้ไม่รู้ว่า Batch ไหนอะไรอย่างไง แต่อิงตามขวดที่ตัวเองใช้เน้นๆ) 

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://alharamainperfumes.co.uk/products/neroli-canvas-75ml-sp

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น