วันอังคารที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2565

My Favorite Newcomer Fragrances of 2021

My Favorite Newcomer Fragrances of 2021

เรียกว่าเป็นปีที่ค่อนข้างยากมากในการได้น้ำหอมใหม่ๆ มาเข้าตู้ที่บ้าน เพราะทั้งสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อ Covid-19 ที่ทำให้ไม่ได้เดินทางไปไหนเท่าไหร่ และทุกอย่างค่อนข้างยากในการได้มาซึ่งน้ำหอมไม่น้อย และพอเปิดประเทศทีก็เรียกว่ามาเต็มเหนี่ยว เพราะอั้นมานาน เช่นนั้น ปีนี้เลยถือว่าน้ำหอมที่ได้มามีความคุ้มค่าพอสมควรเพราะเราเลือกมาจริงๆ แบบที่เราสามารถสอยได้ในข้อจำกัดของสถานการณ์ที่มีอยู่ เลยทำให้การคัดเลือกตัดตัวเลือกที่เล็งๆ ไปแต่ไม่มีโอกาสไปได้มากอยู่

และเมื่อได้เวลาของการเลือกน้ำหอม 10 ตัวแบบที่ได้มาใหม่ในปี 2021 ที่สร้างความประทับใจทางกลิ่น แม้จะยากอยู่เพราะรักพี่เสียดายน้อง แต่ก็ดีที่ตัวเลือกเราลดลงกว่าปีก่อนไปเยอะ โดยที่เสียเงินมาไม่กรีดร้องเพราะวงเงินเต็มมากเท่าไหร่ เช่นนั้นก่อนที่จะเข้าเรื่อง Top 10 ที่กว่าจะเลือกได้ก็จำใจต้องเทียบกลิ่นและยอมที่จะเอาออกจาก List ไปหลายตัวมาก ซึ่งก็ขอให้เครดิตโดยการระบุชื่อไว้ที่นี้เลย

Strangers Parfumerie - Lights upon the Orange Tree, Parfums Dusita - Moonlight in Chiangmai, Floral Street - Ylang Ylang Espresso, Kate Spade - TRULYgracious, Molton Brown - Milk Musk, Frapin - L'Humaniste, Areej Le Doré - Manly, Moschino - Toy Boy, Imaginary Authors - A Whiff of Waffle Cone และ Acqua di Parma - Blu Mediterraneo: Cipresso Di Toscana เป็นต้น

เช่นนั้นก็เข้าสู่ 10 รุ่น/กลิ่น ที่เป็นน้ำหอมที่ได้มาแล้วประทับใจ โดยไม่ได้เรียงลำดับตามความชอบและไม่ได้สนใจว่าจะผลิตหรือวางจำหน่ายปีไหนเน้นเฉพาะที่ได้มาในปี 2021 เพียงอย่างเดียว เริ่มที่

Amouage - Jubilation XXV

ไม่แปลกใจเลยที่หลายๆ คนยกกลิ่นนี้ให้เป็นราชาของแบรนด์ Amouage เพราะเนื้อกลิ่นสร้างความหรูหราและสูงศักดิ์แบบออร่าออกมาเลย ซึ่งเข้าใจไล่เรียงโทนสีม่วงของแบล็คเบอร์รี่เข้ามาเจอกับโทนเหลืองอมส้มของเครื่องเทศที่ได้ความหวานเย้าแกมหวานลุ่มลึก สู่ความเป็นสีส้มอมทองที่สง่างามและลุ่มลึกของเครื่องเทศและยางไม้ รวมถึงปิดท้ายด้วยโทนกลิ่นที่ให้ความเป็นสีทองที่ได้ทั้งความหรูหราและสูงศักดิ์ ซ้อนความนุ่มนวลเนียนๆ โดยทุกอย่างจับต้องได้อย่างสมดุลย์ แบบที่ใส่แล้วขับบุคลิกให้มีระดับและชั้นเชิงออกมาได้ชัดเจนและสร้างความประทับใจสุดๆ ไปเลย

Avon - LYRD Artisan: Cherry Vetiver

ไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่าจะได้เจอ Avon ในมุมของการสร้างสรรค์แบบฉีกแนวมาแตะการเป็น Niche Perfume ที่ใช้ง่ายและมีเสน่ห์มาก ซึ่งเนื้อกลิ่นสร้างเลเยอร์ของ Cherry ไล่เรียงจากเปรี้ยวปร่าสู่การเป็นแยมกึ่งไซรัปที่หอมหวานเย้าเข้าคู่กับกลิ่นไม้หอมติดดาร์กแกมไม้แห้งที่มีโทนติดถั่ว Nutty ของหญ้าแฝก ซ้อนและแฝงกลิ่นโทนหนังแบบมินิมัลเบาๆ ที่ให้โทนน่าค้นหา เรียกว่าสร้างความทึ่งในการใช้งานที่ให้เสน่ห์ดึงดูดในโทนสีแดงเชอร์รี่ได้อย่างสวยงามและปิดท้ายได้มีเสน่ห์มาก ซึ่งเหนือความคาดหมายเลยว่า Avon ชื่อนี้ไม่ธรรมดา

Xerjoff - Cruz del Sur II 

ได้มาครั้งแรกเป็นแบบ Sample เมื่อแต้มเท่านั้นแหละ ตูม! ระเบิดเป็นโกโก้ครันช์ด้วยความฟิน เพราะกลิ่นหอมมากกกกกก จนต้องทำทุกวิถีทางเพื่อเอามาครอบครองจนได้ กับการนำเสนอกลิ่นมะม่วงสุกที่ชัดเจนที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะเนื้อกลิ่นจะให้ความเป็นมะม่วงสุกหอมหวานเนื้อสีเหลืองนวลที่ติดอมเปรี้ยวนิดๆ ซึ่งใช่ยิ่งกว่าใช่สื่อสารกลิ่นได้เป๊ะมาก ต่อด้วยการเป็นครีมมี่มิลค์กี้มะม่วงที่ให้ความหอมหวานแกมนุ่มได้ความเป็นโทนกึ่งสมูธตี้มะม่วงกับนม และปิดท้ายด้วยมะม่วงสุกแกมไม้หอมหรูหรา แบบที่ใช้แล้วมีแต่ความฟินแล้วฟินเล่า มันหอมและโดนมากในทุกสโตรกจริงๆ ยอม 

Floraiku - AO 

เพราะรัก Fig เลยไม่พลาดที่จะขอลองซักหน่อยว่าแบรนด์ Luxury อย่าง Floraiku ที่เอาความเป็นญี่ปุ่นผ่านวัฒนธรรม ธรรมเนียม ประเพณี และกลอนไฮกุมาต่อยอดสร้างสรรค์เป็นกลิ่นลงขวด และ AO (สีฟ้า/สีเขียว) ก็เอาความเป็น Fig มาทำให้จับต้องได้ถึงความเป็นกลิ่นเขียวขมธรรมชาติมีความเป็นเขียวสมุนไพรกึ่งหญ้าเนียนๆ ก่อนจะกลายเป็นกลิ่นเขียวแกมแป้งโปร่งหวานดอกไม้ที่มีความเรียบหรูและหรูหราในที และปิดท้ายด้วยครีมมี่ไม้หอมแกมกลิ่นเขียวอมหวาน Fig เนียนๆ โดนตกแบบถอนตัวไม่ขึ้นเต็มๆ และขวดนี้ก็เป็นหนึ่งในการ Blind Buy ที่ประสบความสำเร็จมาก ปลื้มปริ่ม  

Nez - 1+1 Folia

1+1 Folia เป็นหนึ่งในน้ำหอมเฉพาะกิจประจำปี 2020 ของนิตยสารทางด้านน้ำหอมชื่อดังระดับโลกอย่าง Nez Editons - The Olfactory Magazine ที่สร้างสรรค์ขึ้นมาเป็น Exclusive ขวดขนาด 15 ml ซึ่งกลิ่นนี้เป็นการ Tribute ให้กับผืนแผ่นดินชัดเจน เพราะมาหมดทั้งกลิ่นดิน กลิ่นหิน กลิ่นใบไม้ทับถมกัน กลิ่นไม้หอม กลิ่นเห็ด และกลิ่นน้ำชื้นๆ แกมเขียว แบบว่าใส่แล้ว คือ “ตูเดินป่าอยู่หรือเปล่า” อารมณ์อยู่ในป่ากึ่งโปร่งกึ่งทึบที่ชื้นเปียก จนแบบว่า เออ ยกนิ้วให้สุคนธกรเลยว่าเจ๋งมาก สร้างอารมณ์ร่วมในการใช้งานได้สุดในความเป็นธรรมชาติของกลิ่นได้สุดยอดจริงๆ 

Rania J. - Ambre Loup  

ขอยกให้เป็น Masterpiece ในโทนแอมเบอร์เลย เพราะให้ความสมดุลย์ในการเป็นโทนยางไม้อบอุ่นที่มีทุกอารมณ์ของแอมเบอร์ที่ควรจะเป็น เพราะให้ความเป็นโทนเครื่องเทศติดยางไม้ที่ปร่าหวานเย้าความเร้าใจมีเสน่ห์กึ่งโทน Animalic ที่ไม่สาบจัดจ้านก็ได้ ให้ความหวานลุ่มลึกยางไม้กึ่งวานิลลาเคล้าความอบอุ่นก็ดี ให้ความนัวดาร์กกึ่ง Smoky ที่ดึงดูดก็ด้วย ที่สำคัญให้ความโปร่งในเนื้อกลิ่นมากกว่าจะไปอุ่นอวลนวลข้นหนัก ซึ่งถือว่ามีการวางสมดุลย์ในการผสมผสานที่ชูโรงแอมเบอร์สไตล์หวานลุ่มลึกที่ไม่ธรรมดา จนทำให้ต้องดมตัวเองตลอดในการใช้งานแต่ละครั้ง ก็มันฟินอ่ะ

Carthusia - Terra Mia  

เวลาเราเจอน้ำหอมกลิ่นโทนกาแฟ วานิลลา กุหลาบ เรามักจะได้ความทรงพลังเสียส่วนใหญ่ แต่กับ Carthusia - Terra Mia ไม่ใช่เลย เพราะเนื้อกลิ่นจะให้ความกลมกล่อมที่เกลามาเป็นอย่างดี มีความหวานหอมของกุหลาบแกมแยมเคล้าวานิลลาที่ไม่ข้นจัดจ้านเกินไป เสริมด้วยความอะโรม่าของกาแฟดำกึ่งไซรัปฮาเซลนัทหน่อยๆ ให้เป็นกรุ่นกริ่น Nutty แกมอวลไม้หอมกำลังดี ตัดเลี่ยนด้วยกลิ่นปร่าพริกไทยกลั้วดอกส้มเล็กๆ ทำให้เนื้อกลิ่นให้ความหวานแหลมสู่ปลายหอมอวลแบบกลางๆ เหมือนนั่งจิบกาแฟดำในร้านของหวานสไตล์อิตาเลี่ยนที่ตกแต่งด้วยกุหลาบเยอะๆ มันใช่เลย

Marc-Antoine Barrois - B683

ครั้งแรกที่ได้ลองเทสกลิ่นนี้จากกัลยาณมิตรทางด้านน้ำหอมถึงกับทึ่งไปเลยว่า นี่มันเป็น Smooth Saffron + มีลูกเอื้อนโทนหนังที่สมาร์ทมาก จนทดไว้ในใจว่าของมันต้องมีและก็สมตามความประสงค์ได้มาจัดจนเต็มที่กับการเป็นกลิ่นอายที่ให้ความเป็นสุภาพบุรุษแบบใส่สูทสไตล์นักธุรกิจที่มีความสุขุมนุ่มลึกและมีบุคลิกที่นุ่มนวลปนน่าค้นหาแบบที่ทะลุเสื้อผ้าออกมาเลยในการส่งเสริมผู้ใช้ให้มีบุคลิกภาพที่น่าเชื่อถือและมีเสน่ห์ โดยให้ความกลมกล่อมในเนื้อกลิ่นที่มีรสนิยมและการวางตัวที่มีระดับโดยที่ไม่ทิ้งความ Nice ที่สร้างเสน่ห์ให้เข้าถึงได้ไม่ยาก เช่นนั้นลอยมาใน Top 10 ทันที

Sonoma Scent Studio - Bee’s Bliss

เห็นชื่อรุ่นครั้งแรกเรียกว่ามีความน่ารักแบบให้เราจินตนาการต่อได้เลยว่า ถ้าเราเป็นผึ้ง อะไรที่ทำให้เรามีความสุข ซึ่งแน่นอนนั่นก็คือความหอมหวานของดอกไม้ต่างๆ รังผึ้ง น้ำผึ้ง และสภาพแวดล้อมที่เป็นธรรมชาติ ซึ่งเนื้อกลิ่นก็สื่อสารออกมาได้อย่างหมดจด ในการเป็นกลิ่นหอมหวานของน้ำผึ้งที่เป็นศูนย์กลาง ผสมผสานโทนดอกกระถินเทศ พีช น้ำผึ้ง ดอกไลแลค ดอกส้ม และมีกลิ่นอายอบอุ่นแกมไม้หอมอ่อนๆ ที่ไล่โทนจากหอมใสๆ สู่กลิ่นอายหวานหอมกลางๆ ที่เป็นธรรมชาติ ถือเป็นอีกหนึ่งกลิ่นน้ำผึ้งที่ใช้แล้วไม่มีกลิ่น ยูรีน Animalic มารบกวนใจแต่อย่างใด ประทับใจมากจริงๆ  

J-Scent - Yuzu

เอาจริงๆ แอบอยากเปลี่ยนชื่อรุ่นน้ำหอมอยู่ไม่น้อยว่าน่าจะเป็น Yuzu & Thyme เสียมากกว่า แต่เป็น Yuzu ก็ไม่ได้เสียหายอะไร เพราะช่วงเปิดคือการให้อารมณ์กลิ่นอายแบบส้ม Yuzu ที่มีลูกเอื้อนแบบเลมอนแกมความซ่าปร่ากึ่งโซดาอ่อนๆ ได้สดชื่นมาก ก่อนจะเปลี่ยนเป็นกลิ่นสมุนไพรของ Thyme ที่โดนเกลากลิ่นฉุนออกไป จนเหลือโทนปลอดโปร่งจมูกที่ให้อารมณ์แบบพิมเสนน้ำที่มีกลิ่น Yuzu ประปราย ก่อนจะผ่อนคลายปิดท้ายด้วยความเป็นกลิ่น Musky อ่อนๆ ที่มีความปร่าระเรื่อหอมกึ่งสดชื่นกำลังดี ซึ่งทุกช่วงคือ Happiness Scent ที่สร้างรอยยิ้มตลอดการใช้งานได้ดีมาก  

ทั้งหมด ถือเป็นสมาชิกใหม่ของเข็มขัดสั้นในปี 2021 ที่สร้างความประทับใจในเนื้อกลิ่นอย่างมากที่ได้มาครอบครองและสร้างความสุขให้มีพลังในการเรียนรู้กลิ่นน้ำหอมต่างๆ แล้วเอามาทำเป็นสารบัญทางกลิ่นต่อไป 


 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น