Kate Spade - TRULYgracious
ส่วนใหญ่ถ้าคนไทยคิดถึงกระเป๋าถือของผู้หญิงที่ราคาเข้าถึงได้มีความหรูหราในราคากลางๆ ไม่ได้ราคาสูงแบบ Louis Vuitton ส่วนใหญ่เราจะนึกถึง Coach กันเพราะถือว่าเป็นแบรนด์ยอดนิยมของคนไทยเลยก็ว่าได้ในการซื้อหากระเป๋ามาใช้งาน + เสริมความมีคลาสอะไรก็ว่าไปตามแต่ละบุคคล แต่ถ้ามองไปทางฝั่งอเมริกากลับมีอีกชื่อหนึ่งที่เรียกว่าไม่เป็นสองรองใครเลยในเรื่องของกระเป๋าถือและ Assesories อื่นๆ ที่จะเน้น Concept ทันสมัย สวย เก๋ และเรียบหรูก็ได้ แบบที่ราคาไม่ได้แพงมาก และเป็นที่นิยมของสาวๆ อเมริกันในการใช้งานแบบเป็นจุดเริ่มต้นก่อนที่จะไปจับต้องกระเป๋าแบรนด์ High-End ต่างๆ หรือใช้กันยาวๆ แบบที่ไม่น้อยหน้าใครในเรื่องความสวยและคุณภาพที่ยอดเยี่ยม นั่นก็คือ Kate Spade
แม้ว่าปัจจุบัน Kate Spade ได้มารวมเป็นหนึ่งกับ Coach ในการเป็นเครือ Tapestry แล้ว แต่แน่นอนว่าจับกันคนละตลาด แต่เชื่อมโยงกันแบบจากวัยรุ่นสู่วัยทำงานได้แบบอารมณ์เรือล่มในหนอง ทองจะไปไหน แบบเก็บในแต่ละตลาดกันได้อย่างต่อเนื่อง เช่นนั้นเลยต่างทำการตลาดในทางของตัวเองกันได้เต็มที่ ซึ่ง Kate Spade เองก็ไม่ได้มีแค่กระเป๋า เพราะมีทั้งเครื่องแต่งกาย เครื่องประดับ รองเท้า และสิ่งที่กำลังจะมาถ่ายทอดกลิ่นอย่างน้ำหอม ที่เห็นว่ามีแต่น้ำหอมผู้หญิง แต่เพราะความน่าสนใจบางอย่างที่ดึงดูดกับการสื่อสารกลิ่นอายโทนเขียวที่เสียงเล่าอ้างบอกว่าไม่ธรรมดากับหนึ่งใน Collection: TRULY เช่นนั้นมาเจอกัน เราต้องรู้ว่ากลิ่นเป็นอย่างไร
TRULYgracious เปิดตัวออกมาก็สร้างความประทับใจกันได้เลย เพราะเนื้อกลิ่นจะมีความเป็นโทนเขียวที่มินิมัลและเป็นธรรมชาติมากจนร้องออกมาว่า “ว้าว” เลย ซึ่งช่วงเปิดลูกผสมกลิ่นโทนใบไม้สีเขียวต่างๆ จะซ้อนกันอยู่อย่างมีมิติ โดยจะเป็นโทนเขียวฟุ้งแบบเราขยี้ใบไผ่ที่จะได้ความเขียววูบขึ้นมาก่อน ตามด้วยความเป็นกลิ่นอายคล้าเมือกเขียว Stem ที่อยู่ในใบไม้กึ่งๆ จะค่อนไปทางไฮยาซินท์อ่อนๆ แล้วตามด้วยกลิ่นหญ้าที่ติดหวานปลายกลิ่นแกมโทนออกทาง Watery ใสๆ ซึ่งทุกอย่างได้อารมณ์กลิ่นเขียวใบไม้ได้อย่างเป็นธรรมชาติเกินคาดจนแบบว่าต้องหันไปมองขวดอีกทีว่านี่แบรนด์ Designer จริงๆ เหรอ เนื้อกลิ่นทำได้ดีมากจนแตะคำว่า Niche Perfume ใช้ง่ายได้เลย
การเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นเพียงเล็กน้อยในการเข้าสู่ช่วงกลาง เพราะกลิ่นยังคงเป็นแบบเดียวกับช่วงต้นที่เป็นโทนเขียวใบไม้ใบหญ้าเจือหวานปลายกลิ่นผ่อนคลาย แต่เนื้อกลิ่นจะมีลูกผสมของโทนดอกไม้อ่อนๆ ที่ให้ความหวานแบบใสๆ อารมณ์กลิ่นคล้ายมะลิหรือดอกกระกิ่งที่มีความใสๆ แบบน้ำลอยดอกไม้ประมาณนั้น ทำให้เนื้อกลิ่นเป็นโทนเขียวโปร่งปนหวานระเรื่อกำลังดีอยู่ตลอด ซึ่งแอบจับต้องได้ว่าเป็นการผสมผสานกลิ่นได้ดีมากกับการเอาโทนกลิ่นสารหอมที่เนียนๆ เข้ามาเสริมให้กลิ่นมีความเป็นธรรมชาติมากขึ้นอย่าง Hedione ที่ให้อารมณ์แบบกึ่งมะลิและโทนเขียวเบาๆ และ Helional ที่ให้ความเป็นโทนเขียวกึ่งหญ้าติดหวานที่เป็น Effect แบบสร้างบรรยากาศ โดยมีกลิ่นออกทางไม้หอมเบาๆ เสริมอยู่แบบไม่ได้เด่นออกมามากนัก ให้อารมณ์แบบมีมิติอื่นๆ ที่รวมตัวกันเป็นธรรมชาติมากขึ้น ซึ่งสดชื่นก็ได้ รื่นรมย์ก็ดี ผ่อนคลายสบายๆ และเป็นธรรมชาติแบบเรียบง่ายก็ชัดเจน
เมื่อเริ่มจับต้องได้ว่าเนื้อกลิ่นเริ่มมีความนุ่มแกมโทนแป้งอ่อนๆ เข้ามาแบบเป็นฉากหลัง ก็ได้เวลาเปลี่ยนช่วงเป็นช่วงท้ายของน้ำหอมเต็มตัว โดยแน่นอนคือกลิ่นจะมีความสะอาดแกมนวลกึ่งแป้งอ่อนๆ ที่น่าจะมาจากโทน White Musk และมีอนุพันธ์ของ Musk อย่าง Galaxolide ที่เสริมให้โทน Musk มีความคงตัวคลอผิวร่วมด้วย โดยความเขียวใบไม้กึ่งดอกไม้ในช่วงกลางก็ยังตามมาทั้งหมด เพียงแต่จะลดลงมาเหลือเพียงอ่อนๆ เบาๆ สบายๆ มีความเรียบง่าย ซึ่งทุกอย่างคุมโทนมินิมัลชัดเจน แบบไล่เรียงมาตั้งแต่ความเขียวใบไม้ชัดเจนช่วงต้น สู่เขียวแกมดอกไม้ แล้วปิดท้ายด้วยความนุ่มนวลสะอาดคลอผิวกันไปเรื่อยๆ จนกว่าจะจางตามเวลา
เหมาะสำหรับ - กลิ่นลงไว้ว่าผู้หญิง แต่เนื้อกลิ่นมีความ Unisex แบบสูงมาก ผู้ชายใช้ได้สบายๆ เลย อาจจะมีความเขียวแกมหวานโปร่งบ้างที่อาจจะรู้สึกว่ามัน Feminine แต่มีแค่นิดเดียวเท่านั้น เน้นความรื่นรมย์ในโทนเขียวธรรมชาติที่กลิ่นนี้จะมีให้ดีกว่า ซึ่งกลิ่นเข้ากับกับทุกสถานการณ์ยามกลางวันเลยทั้งทางการและทั่วๆ ไป ครอบจักรวาลการใช้งานมาก แต่จะมีนิดนึงคือการใส่เพื่อออกกำลังกาย ถ้ารอช่วงกลางค่อนท้ายจะลงตัวกว่า เพราะกลิ่นช่วงแรกมันได้ความชิลล์มากกว่าจะเป็นโทน Activities ส่วนยามค่ำคืน เน้นใส่แบบทั่วๆ ไปจะดีที่สุด เพราะกลิ่นไม่ได้ไปสายปล่อยของหรือเรียกแขกยามค่ำคืนแต่อย่างใด
ความทน - กลิ่นนี้พึ่งเคมีของผิวชัดเจน เพราะจากที่เทสเองกับคนที่ผิวแห้งต่างกันอย่างมาก เลยสรุปง่ายๆ ว่าความทนแปรผันและแกว่งตามสภาพผิว ซึ่งส่วนตัวเจอไปที่ 8 ชม. สบายๆ ในการใช้งาน แต่คนผิวแห้งที่ขอให้ร่วมเทสเจอไปที่ 2 ชม. ก็หายเกลี้ยงไปเรียบร้อย เช่นนั้น พกไว้เติมระหว่างวันไม่เสียหาย
การกระจาย - นี่ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่พึ่งเคมีของสภาพผิวผู้ใช้ที่จะเสริมในเรื่องการกระจาย แต่จุดหนึ่งที่จะเหมือนกันไม่ว่าจะสภาพผิวไหนก็ตาม ช่วงต้นจะกระจายดีให้ความเสียหอมสดชื่นเป็นธรรมชาติให้ประทับใจแรกพบกันได้เลย ส่วนที่เหลือจะลดลงมาเป็นปานกลางซักราวๆ ไม่เกิน 1 ชม. แลเวก็จะเป็นออร่ารอบๆ ตัวให้มุ้งมิ้งกับตัวเอง ก่อนจะจางไปตามเวลาที่สภาพผิวนั้นๆ พอจะเก็บกักน้ำหอมได้
สรุป - เกินคาดไปมากจริงๆ กับเนื้อกลิ่นที่ให้ความเขียวสดชื่นรื่นรมย์ที่เป็นธรรมชาติสูงมากไม่พอ ยังมีความเรียบง่ายที่รื่นรมย์ในความเป็นโทนเขียวที่พลิ้วไหวได้อย่างลงตัวในทุกๆ ช่วงของน้ำหอมจริงๆ อันนี้ต้องยอมเลยว่าทำกลิ่นออกมาได้น่าประทับใจมาก และที่สำคัญใครชอบกลิ่นหญ้าที่เน้นความรื่นรมย์บอกเลยถ้าได้ลองกลิ่นนี้มีสิทธิ์โดนตกสูงมากถึงมากที่สุดได้
หมายเหตุ:
1.
บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล
ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้
ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”
Photo
Credit - http://kskstudios.com/blog/motion-graphics-for-kate-spade-fragrance/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น