Laboratorio Olfattivo - Alambar
จากความหลงใหลในน้ำหอมสาย Niche Perfume สู่การได้เป็นเจ้าของแบรนด์ด้วยตนเองของ Daniela Caon และ Roberto Drago สู่การสร้าง Project พัฒนาน้ำหอมขึ้นมา โดยได้ร่วมงานกับ Perfumer ระดับเซียนต่างๆ มากมายไม่ว่าจะเป็นสุคนธกรชาวอิตาเลี่ยนเอง รวมถึงมี Jean-Claude Ellena และ Dominique Ropion เข้ามาร่วมด้วย (คงไม่ต้องบอกว่าฐานะเจ้าของแบรนด์ขนาดไหน) และเพราะ Concept ที่ดีในการสร้างสรรค์น้ำหอมรวมถึงมีเหล่าหัวกะทิมาสมทบด้วย เลยทำให้แบรนด์ Laboratorio Olfattivo ยังคงได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่องในทุกวันนี้
จากที่เคยได้ผ่านการเล่ากลิ่นมาก่อนหน้านี้ในรุ่น Decou-Vert ที่เป็นไลแลคกับแมคโนเลียที่งามงดอีกหนึ่งกลิ่น เมื่อได้โอกาสเลยได้กลับมาเจอกับแบรนด์นี้อีกครั้ง กับรุ่นที่ Tribute ยกย่องกลิ่นอายแอมเบอร์หนึ่งใน Note กลิ่นสายอบอุ่นที่มีความสำคัญกับวงการน้ำหอมมาเป็นเวลายาวนาน เช่นนั้นขอสัมผัสซักหน่อยว่าแบรนด์นี้จะสื่อสารความเป็นแอมเบอร์อย่างไรกับรุ่นนี้เลย Alambar
เปิดตัวก็ชัดเจนเลยว่าแอมเบอร์นี่แหละ จะเป้นแกนนำหลักของกลิ่นกันยาวๆ ไป และเป็น Center Note ที่จะอยู่ยั้งยืนยงไปจนถึงช่วงท้ายของน้ำหอม ที่น่าจะงดงามได้เลยทีเดียว ซึ่งในช่วงต้นกลิ่นที่โดดมาแตะจมูกก่อนเลยคือโทนสดชื่น เรียกว่าไม่คาดฝันเท่าไหร่ว่าจะมีความสดชื่นมาจับต้องให้รับรู้และโทนดังกล่าวก็ไม่ได้เดายากเกินคาด เพราะเนื้อกลิ่นจะมีความเปรี้ยมเจือขมและมีความชื้นๆ หน่อยของมะกรูดฝรั่ง (Bergamot) ตามด้วยกลิ่นออกทางโกโก้ที่ให้ความรู้สึกหอมติดดาร์กมีความขมติด Spicy เชื่อมโยงกับมะกรูดแต่สร้างความอวลดาร์กขึ้นมาอีกสเต็ปแต่ไม่ได้หนักหน่วงมากนัก แต่ก็พอรู้สึกได้ว่ามีความอบอุ่นคล้ายโกโก้อุ่นกำลังดีที่มาตัดทอนให้กลิ่นสาย Citrus ไม่ได้เทคโอเวอร์เกินไปหนัก และแน่นอนปิดท้ายด้วยกลิ่นแอมเบอร์ที่ติดโทนสมุนไพรเล็กๆ มีความหวานลึกอ่อนๆ อบอุ่นแน่นอน แต่ก็มาแบบเบาๆ เลยทำให้ภาพรวมในช่วงต้น ได้ความรู้สึกแบบ Fresh Amber ที่มีมิติ 3 โทนไล่เรียงกันได้อย่างน่าสนใจไม่น้อยเลย
และเมื่อเนื้อกลิ่นเริ่มลดทอนการเป็นโทนสดชื่นของมะกรูดฝรั่งลงไปตามลำดับ และเริ่มมีโทนอบอุ่นขึ้นมาเทคโอเวอร์มากขึ้น รวมถึงเริ่มมีกลิ่นออกทางเผ็ดหวานอวลที่เป็นเอกลักษณ์ของอบเชยค่อยๆ เปิดตัวออกมา จนเมื่อกลิ่นสาย Citrus จางไปหมด ก็เป็นการเข้าช่วงกลางเต็มตัว แบบที่จะได้อารมณ์แบบ Gourmand x Oriental Amber เพราะว่าไม่ใช่มีแค่อบเชยแล้ว เพราะจะมีวานิลลาเข้ามาเสริมด้วย โดยสอดรับพอดีกับโกโก้ที่ตามมาจากช่วงต้น ทำให้ได้อารมณ์ออกทางขนมวานิลลาที่มีโกโก้ประปรายก็ได้ เป็นสายเครื่องเทศหวานอุ่นอบเชยกรุ่นอวลก็ได้ ซึ่งจะมาฉาบความเป็นแอมเบอร์เอาไว้ได้อย่างลงตัวมากสร้างกลิ่นที่เป็นโทนหวานหอมหวานที่อบอุ่นเสริมความแอมเบอร์ที่ได้อารมณ์ยางไม้หวานลึกๆ สีเหลืองอมส้มได้อย่างลงตัวและไปด้วยกันได้ดี มิติกลิ่นจะเป็นแอมเบอร์ที่ติดขนมติดเครื่องเทศบาลานซ์กันได้พอเหมาะมาก ซึ่งกลิ่นจะดำเนินไปยาวพอสมควรจนเมื่อโทนกลิ่นขนมและอบเชยเริ่มลดทอนลงไปเรื่อยๆ มีอบเชยเหลือเพียงประปราย แต่วานิลลายังคงอยู่หน่อยๆ ก็จะเป็นการเข้าช่วงท้ายที่ชัดเจนมากว่านี่คือ Real Amber ซึ่งจะเป็นกลิ่นแอมเบอร์แบบเต็มๆ ไม่มีเม้ม มีลูกกลิ่นแบบยางไม้ลึกๆ ที่เจือสมุนไพรปร่ากึ่งโก้โก้ปนยาเล็กๆ อย่างพิมเสน เจือวานิลลาที่ต้องมีอยู่ในความเป็นแอมเบอร์อยู่แล้ว รวมถึงมีกลิ่นไม้หอมหน่อยๆ เสริม รวมและผสมผสานกันจนทำให้ช่วงท้ายส่งกลิ่นหอมอบอุ่นสไตล์แอมเบอร์แบบชัดเจนและตรงไปตรงมา ให้โทนกลิ่นและสีในความรู้สึกแบบโทนอบอุ่นเหลือทองแกมส้ม และมีสีน้ำตาลแบบเนื้อไม้ประปรายหน่อยๆ ที่ทำให้มีมิติแบบแอมเบอร์ที่ควรจะเป็น แน่นอนว่ากลิ่นแบบนี้นอกจากจะให้ความอบอุ่นแล้ว ยังมีโทนที่เป็นสาย Minimal Amber ชัดเจน ที่มีอารมณ์กลิ่นหอมอวลหวานกำลังดี มีความกรุยกรายนิดๆ และมีความหรูหรามีระดับแบบไม่ต้องเค้นแต่อย่างใด ปิดท้ายการ Tribute ในการเป็นแอมเบอร์ได้ครบถ้วน
เหมาะสำหรับ - Unisex เลย ได้หมดทุกเพศ เพราะเนื้อกลิ่นเจาะจงที่ตัวแอมเบอร์เป็นหลัก และ Note กลิ่นนี้มีความกลางๆ ที่เข้าได้กับทุกเพศอยู่แล้ว อยู่ที่การนำไปใช้เพื่อสร้างเสน่ห์ในแต่ละคนล้วนๆ เป็นสำคัญ ซึ่งกลิ่นนี้ใช้ได้ในสถานการณ์ยามกลางวันแบบที่จำนวนสเปรย์เหมาะสม เพราะถ้ามากไป แถมเจออากาศร้อนๆ แบบว่าตึ้บเอาได้ แต่ถ้าใส่แต่พอดี ก็ใช้ยามทางการได้ หรือใส่แบบทั่วๆ ไปทำงานอยู่ในห้องแอร์ก็สร้างเสน่ห์ได้ดี แต่ให้ตัดการใส่เพื่อกิจกรรมลุยๆ หรือว่าออกกำลังกายไปได้เลย ไม่เข้าท่าทุกประการ ส่วนยามค่ำคืนออกงานทั้งหลายจัดไป กลิ่นสร้างความมีระดับและมีเสน่ห์ดึงดูดได้ดีมาในโทนอบอุ่นจริงๆ หรือถ้าจะใส่ไปท่องราตรีก็ทำได้ เผลอๆ แตกต่างจากคนอื่นเสียด้วย
ความทน - ดีงามมาก ส่วนตัวเจอไปที่ 15 ชม. กลิ่นยังคงตีขึ้นให้รับรู้อยู่ เช่นนั้นเรื่องนี้ไม่ต้องห่วง ยังไงก็เกิน 8 ชม. ได้แน่ๆ
การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้น แล้วจะพีคขึ้นมากระจายดีมากซักราวๆ 1 - 2 ชม. ก่อนรจะผ่อนลงไปกระจายดีและปานกลางตามลำดับ พอเข้าสู่ราวๆ 8 ชม. แล้วก็จะเริ่มเป็นออร่ารอบๆ ตัว ไปเรื่อยๆ จนกว่าน้ำหอมจะพอใจ
สรุป - จับรุ่นนี้มาเป็นหนึ่งในน้ำหอมสร้างเสน่ห์สายแอมเบอร์แนวเดียวกับ MFK - Grand Soir หรือ Dior - Mitzah ได้เลย เพียงแต่กลิ่นนี้จะมีความต่างจาก 2 ตัวนี้คือ การสร้างโทน Gourmand x Oriental Amber นี่แหละที่โดดเด่นกว่า แถมปิดท้ายเป็นแอมเบอร์ในจินตนาการตามธรรมชาติได้ดีมาก ซึ่งต้องยอมเขาเลยว่าสร้างสรรค์กลิ่นออกมาได้ยอดเยี่ยมและ Tribute กลิ่นแอมเบอร์ได้งดงามจริงๆ
หมายเหตุ:
1.
บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล
ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้
ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”
Photo
Credit - https://www.laboratorioolfattivo.com/en/product/alambar/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น