Parfum d’Empire - Wazamba
Parfum d’Empire เป็นหนึ่งในแบรนด์ Niche จากฝรั่งเศสที่มีแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์กลิ่นจากจักรวรรดิต่างๆ ที่ยิ่งใหญ่ในอดีต งานเฉลิมฉลองและวัฒนธรรมในพื้นที่นั้นๆ รวมถึงกษัตริย์ที่เป็นที่รู้จักระดับโลกต่างๆ ซึ่งมีหัวใจหลักคือความดึงดูดและจิตวิญญาณที่เกิดขึ้นเมื่อเราได้รับรู้เรื่องราวต่างๆ ในอดีตเหล่านี้ เรียกว่าสเกลในการสร้างสรรค์ผลงานมีความยิ่งใหญ่มากเลยทีเดียว แต่เจ้าของแบรนด์และสุคนธกรอย่าง Marc-Antoine Corticchiato ก็สามารถแปลงออกมาเป็นกลิ่นที่งดงามได้และได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันนี้
เมื่อได้มีโอกาสมาเจอกันครั้งแรกกับแบรนด์นี้ กับการสื่อสารกลิ่นอายที่ดึงเอาความเป็นดนตรีบรรเลงในงานเฉลิมฉลองสำคัญต่างๆ ทางแอฟริกาตะวันตกมาถ่ายทอดลงสู่ขวด ซึ่งแน่นอนว่ามันต้องมีอะไรที่น่าสนใจเพราะดนตรีทางแถบนี้มีความดึงดูดและสามารถทำให้สัมผัสได้ถึงจิตวิญญาณของผู้คนในแถบนั้นได้เป็นอย่างดีเสียด้วย เช่นนั้นมาว่ากันในเรื่องกลิ่นเลยแล้วกันว่าจะแปลงสารออกมาให้รับรู้ทางจมูกกันอย่างไรบ้างกับรุ่นนี้ Wazamba
ธูป Incense จะเป็น Center หลักที่อยู่กันยาวๆ ไปเลย เพราะเปิดมากลิ่น Incense ที่มีความเป็นโทนยางไม้ที่มีความปร่านวลพริกไทยปนโทน Smoky ของ Frankincense จะเด่นพุ่งมาก่อนใครเพื่อนเลย ซึ่งจะมีตัวเสริมที่ดีอย่างโทนออกทางกึ่งสบู่คมๆ ฟุ้งๆ มีความสะอาดเสริมอยู่ของสารหอมอย่าง Aldehydes และกลิ่นไม้หอมติดยางสนปร่าๆ มีความแห้งๆ ของสนไซเปรสมาเสริม ทั้งยังมีโทนหวานออกทางผลไม้ติดค่อนไปทางโทนกึ่งชื้นบางๆ ค่อนไปทางแห้งหน่อยๆ ของแอปเปิ้ลแดงแกมกลิ่นหวานเย้าเจือดาร์กของลูกพลัมแทรกอยู่ในทุกอณูกลิ่นในช่วงนี้ให้มีมิติกลิ่นที่น่าสนใจมาก โดยต้องยอมรับเลยว่าแต่ละโทนกลิ่นในช่วงนี้มีอารมณ์และความรู้สึกที่ค่อนข้างชัดในการสื่อสารที่สื่อกับความเป็นจิตวิญญาณจากโทนธูปติด Smoky แต่มีความปร่าของไม้สนติดแห้งๆ ที่ค่อนมาทางสว่าง เสริมด้วยความหวานดึงดูดโปร่งหน่อยๆของโทนผลไม้ ซึ่งแค่ช่วงเปิดก็ชัดเจนมากเลยว่าตรงกับหัวใจหลักของการทำน้ำหอมแบรนด์นี้ชัดเจน
และแน่นอน Frankincense ไม่ไปไหน ยังคงมีความสตรองต่อเนื่องมาในช่วงกลางที่กลิ่นจะมีเริ่มโทนติดออกทางคล้ายยาที่มาจากเนื้อไม้หรือยางไม้ที่ให้ความเย็นๆ หน่อยๆ เข้ามาร่วมด้วยจาก Myrrh สร้างโทนกลิ่นที่มีความเป็นโทนออกทางสายยางไม้มาสนับสนุนความเป็นโทน Aromatic Incense มากขึ้น และัไม่พอกลิ่นจะมีความลึกมากขึ้นปนอบอุ่นจที่มาตัดทอนให้ความรู้สึกหยินหยางกลางๆ กำลังดี เพราะกลิ่นสายยางไม้และโทนธูปมาออกทางเย็นๆ แต่จะมีกลิ่นอบอุ่นของโทนแอมเบอร์ที่มีความอวลลึกติดหวานและมีลักษณะกลิ่นติดโทนหนังหน่อยๆ เข้ามาร่วมด้วยแบบสายสนับสนุน เลยทำให้กลิ่นมาเจอกันตรงกลางที่มีความกำลังดี ไม่อบอุ่นเกินไป และไม่เย็นเกินไป โดยที่ยังคงโดดเด่นมากกับความเป็นโทนธูปที่ชัดเจนฟุ้งกระจายออกมา และก็มีกลิ่นโทนแอปเปิ้ลแดงกับพลัมที่ออกทางแห้งๆ โปร่งๆ แทรกตัวอยู่ประปรายตลอด คุมโทนกลิ่นที่ทั้งดึงดูดและมีจิตวิญญาณได้ดีอยู่ไม่มีผิดเพี้ยน แถมเพราะโทนแบบแอมเบอร์ที่เข้ามาร่วมนี่แหละ ทำให้ได้ความรู้สึกมีจังหวะแบบดนตรีเครื่องเคาะต่างๆ ที่มีความเข้มของกลิ่นที่ชัดเจนขึ้นด้วย
จนเมื่อกลิ่นดำเนินไปเรื่อยๆ และเริ่มสัมผัสได้ว่าเนื้อกลิ่นเริ่มมีลักษณะที่เข้าทางโทนแอมเบอร์มากขึ้น โทนผลไม้เริ่มหายไป และความเป็นธูปเริ่มลดระดับความเข้มข้นลงมาจนกลายเป็นสายสนับสนุนแทน ก็เป็นการเข้าช่วงท้ายที่กลิ่นก็จะได้อารมณ์แบบโทนอบอุ่นติดหวานลึกที่มาจากยางไม้ที่กลิ่นคล้ายยาแต่มีโทนหวานลึกติดอับหน่อยๆ ของ Oppoponax และมีความเป้นโทนติดเผ็ดปร่าแกมดาร์กนิดๆ จากโทน Smoky ที่แทรกอยู่ประปราย แต่ก็ยังไม่ได้ออกทางดาร์กเกินไป เพราะกลิ่นยังคุมโทนสมดุลย์ได้ดีจากโทนไม้หอมอย่างจันทน์หอมที่มาสร้างความครีมมี่นวลๆ และโทนสว่างให้กับกลิ่น รวมถึงแอบมีกลิ่นเขียวหน่อยๆ ที่ผลุบๆ โผล่ๆ มาสร้างมิติที่ได้อารมณ์น่าค้นหาร่วมด้วย ทุกอย่างในช่วงนี้พื้นฐานกลิ่นจะเป็นโทนอบอุ่นที่เข้าโทนแอมเบอร์แกล้มความเป็นธูป Incense ที่มีลูกเล่นความสว่างเจือความดาร์กในกลิ่นแบบกำลังดีตีคู่กันไปอย่างลงตัวตลอด คุม Concept ได้ครบถ้วนได้ทั้งจิตวิญญาณจากโทนธูป ความดึงดูดของโทนยางไม้ และความมีจังหวะเข้มข้นกำลังดีของสายแอมเบอร์ต่างๆ ครบถ้วนการสื่อสารกลิ่นที่แปลงลงมาสู่ขวดได้อย่างมีชั้นเชิงมากจริงๆ
เหมาะสำหรับ - Unisex ชัดเจนเพราะเนื้อกลิ่นเป็นแนวสภาพแวดล้อมหรือการแปลงสารจากดนตรี เลยแตะได้หมดทุกเพศ แต่อย่างน้อยต้องผ่านน้ำหอมกลิ่นโทนธูปหรือยางไม้มาก่อนจะเข้าถึงกลิ่นนี้ได้ง่ายขึ้นมาก ซึ่งสามารถใช้งานได้ในหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันแบบจำกัดจำนวนสเปรย์หน่อย เพราะกลิ่นถือว่ามาชัดเลยทีเดียว ซึ่งเข้ากับการใส่แบบทางการได้ หรือทั่วๆ ไปก็ได้อยู่ แต่กลิ่นมันจะออกทางธูปยางไม้ เลยจะไม่ได้เข้ากับการใช้แบบกิจกรรมกลางแจ้งหรือว่าออกกำลังกาย ส่วนยามค่ำคืน เน้นใส่ออกงานดีกว่า เพราะกลิ่นแนวนี้ใส่ไปท่องราตรีอาจจะไม่ได้เข้ากันเท่าไหร่นัก
ความทน - ดีงามมาก เพราะสิ่งที่เจอคือ 15 ชม. เลยทีเดียว เช่นนั้นยังไงก็เกิน 8 ชม. แน่นอน แม้ว่าจำนวนสเปรย์จะไม่ได้เยอะมาก กลิ่นก็ยังหายห่วงในเรื่องนี้
การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้นราวๆ 1 ชม. ที่เหลือจะผ่อนลงมาปานกลางไปเรื่อยๆ คงตัวกันยาวถึง 8 ชม. จึงค่อยเป็นออร่ารอบๆ ตัวอ่อนๆ แล้วผ่อนลงเป็นติดผิวเอาช่วงราวๆ 12 ชม. ไปแล้ว
สรุป - หนึ่งในกลิ่นโทนธูป Incense และยางไม้ที่ไม่ธรรมดา เพราะให้อารมณ์ได้ครบถ้วนกับการสื่อสารความเป็นดนตรีแนวแอฟริกันที่มีทั้งจังหวะที่หนักแน่น ความเย้ายวนชวนค้นหา และความเป็นจิตวิญญาณ ผ่านกลิ่นต่างๆ ที่ผสมผสานกันอยู่ในน้ำหอม ถือเป็นอีกหนึ่งกลิ่นที่ให้คำว่ายอดเยี่ยมเลยก็ยังได้
หมายเหตุ
1.
บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล
ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้
ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”
Photo
Credit - https://parfumdempire.com/en/parfums/wazamba/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น