Shay & Blue - Salt Caramel
กลิ่นหอมหวานของคาราเมลที่มีเกลือลงไปตัดทอนให้มีรสชาติที่มีมิติหวานเจือเค็มปลายลิ้นที่รู้จักกันในนามของ Salted Caramel แล้วราดลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากันกับขนมต่างๆ อาจจะเป็นทั้ง Popcorn เคลือบผลไม้เป็นลูกๆ ราดลงบนเค้ก หรือผสมลงไปในชอคโกแลต ไม่ว่าอะไรก็ตามมันจะให้ความหอมหวานอบอวลที่ติดกึ่งน้ำตาลไหม้สร้างความน่ากินสุดๆ ไปเลยเอาได้ โดยเฉพาะคนที่ชอบของหวานนี่อาจจะหยุดไม่ได้เอาเลยทีเดียว
ซึ่งแน่นอนว่ากลิ่นแบบนี้ถ้ามาเป็นน้ำหอมมันสามารถทำให้คนใส่มีความหวานน่ากินเอาได้ แต่ถ้ามากไปก็อาจจะหวานเลี่ยนก็ได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งเมื่อเห็นว่ามีแบรนด์ Niche Perfume จากเมืองผู้ดีอย่าง Shay & Blue ที่เอาความเป็น Salted Caramel มาสร้างสรรค์น้ำหอมโดยมีแรงบันดาลใจมาจากขนมที่เป็นชอคโกแลตนุ่มก้อนกลมๆ (Chocolate Truffles) ที่มีชั้นเลเยอร์ เป็นชอคโกแลตและตรงกลางเป็นไส้คาราเมลรสเค็มอย่าง Sea Salt Caramel Chocolate Truffles โดยเน้นที่ความเป็นคาราเมลมาส่งต่อความหอมผ่านขวด จนกลายเป็นตัว Top ของแบรนด์ในทุกวันนี้ แน่นอนว่าต้องมาลิ้มลองและดมดมกันหน่อยว่าจะทำออกมาอย่างไร และสิ่งที่ได้จากการใช้งานก็เป็นเช่นนี้
Salt Caramel เปิดตัวกันด้วยความเป็นซอสราคาเมลชัดเจนมาก เนื้อกลิ่นจะมีความหวานน้ำตาลไหม้อ่อนๆ มีความ Smoky ซ่อนเนียนๆ เคล้ากับกลิ่นเนยและเกลือ แต้มความหวานอุ่นลงไปด้วยโทนวานิลลาหน่อยๆ ให้พอรู้สึกได้ และในวูบต่อมาจะได้อารมณ์กลิ่นแนว Popcorn ที่เสริมขึ้นมากำลังดี ทำให้ความรู้สึกในเนื้อกลิ่นจะคล้ายแนวเวลาเราได้กลิ่น Garrett Popcorn รสคาราเมลที่ติดเค็มๆ หอมชวนกิน แต่สิ่งที่สร้างความรื่นรมย์ให้กลิ่นได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยคือ กลิ่นจะไม่ได้หนักหน่วงแบบเอาเราไปตกถังคาราเมลที่ไหน แต่จะให้อารมณ์กลิ่นอวลหวานปนโปร่งลอยเข้าจมูกเสียมากกว่า (ถ้าจำนวนสเปรย์เหมาะสม) ซึ่งตรงนี้แหละที่สร้างความดีงามในการปล่อยกลิ่นที่เย้าจมูกได้ดีนักโดนไม่ถึงกับทำให้อึดอัดแต่อย่างใด
การเปลี่ยนแปลงเพื่อเข้าสู่ช่วงกลางจะค่อยเป็นค่อยไปและมีความโปร่งเบามากขึ้น แต่ก็ยังมีความอวลหน่อยๆ อยู่ซึ่งจะได้อารมณ์กลิ่นแนว Creme Brulee ที่หน้าเป็นคาราเมลกำลังดีเข้ามาร่วมด้วย แน่นอนว่าความหวานโปร่งยังมีอยู่โดยปลายเนื้อกลิ่นยังมีความเค็มหน่อยๆ แบบสไตล์ Salted Caramel เช่นเดิม แต่เพิ่มเติมความนุ่มนวลในเนื้อกลิ่นแบบครีมคัสตาร์ดให้รู้สึกนวลละมุนแบบเบาๆ เข้ามา ซึ่งถ้าพินิจพิเคราะห์จริงๆ เนื้อกลิ่นจะแบ่งออกเป็น 2 เลเยอร์ให้จับต้อง คือ กลิ่นที่ลอยออกมาจากผิวจะให้ความโปร่งหวานติดปลายเค็มเจือนวลหน่อยๆ มีความ Smoky เล็กๆ ตามสไตล์คาราเมลเบิร์นหน้า Crere Brulee แต่เมื่อดมเข้าไปใกล้ๆ จะมีโทนกลิ่นนวลๆ คล้ายครีมคัสตาร์ดวานิลลาเจือนม ที่บางวูบมีโทนโกโก้เล็กๆ เลยทำให้เข้าทางที่มาของการสร้างสรรค์น้ำหอมรุ่นนี้ขึ้นมาหน่อย แต่ทั้งหมดทั้งมวลกลิ่นจะไม่หนักหน่วงมากจนกลายเป็นขนมเดินได้แต่อย่างใด จนเมื่อเริ่มรู้สึกได้ว่ากลิ่นมีความอบอุ่นมากขึ้นตามลำดับแต่ยังไม่หนักอวลแน่น ก็ตจะเริ่มเปลี่ยนโทนเข้าสู่ช่วงท้ายของน้ำหอมที่ที่ให้อารมณ์แบบครีมคัสตาร์ดวานิลลาเต็มๆ แล้ว เพราะจะจับต้องได้เต็มๆ ถึงโทนวานิลลาที่ให้ความนวลละมุน เจือกลิ่นนมหน่อยๆ ที่คลอผิวให้รู้สึกหวานนวลเจือความสะอาดและสว่าง ซึ่งแน่นอนว่าเนื้อกลิ่นจะเชื่อมโยงกับผิวจะมี Musk และกลิ่นโทนไม้หอมที่ให้ความครีมมี่นวลๆ อย่างจันทน์หอมเสริมอยู่ ทำให้ได้ความนวลนุ่มสว่างและหวานอวลแบบเบาๆ กำลังดีในเวลาเดียว ซึ่งเมื่อดมถอยออกมาจะจับต้องได้ว่ากลิ่นคาราเมลจะเหลือเพียงประปรายและไม่ได้โทนเค็มปลายกลิ่นอีกแล้ว เป็นโทนหวานระเรื่อแทนเสริมความเป็นคัสตาร์ดได้อย่างลงตัวมาก ปิดท้ายความหวานหอมที่เกลี่ยโทนได้สมดุลย์ คุมโทนความโปร่งและนวลของกลิ่นได้ดีเสมอต้นเสมอปลายมาก
เหมาะสำหรับ - ทุกเพศที่ชอบกลิ่นหวานหอมขนมเป็นทุนเดิม ถือว่าใช้งานได้หมด โดยที่มีข้อดีคือไม่แน่นและหนักเกินไป อาจจะมีหวานคมๆ บ้างแต่ก็มาแค่ไม่นานนัก ซึ่งเข้าได้กับหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันแบบที่ไม่ใช่ทางการ เพราะกลิ่นแบบนี้มันไม่เข้ากับการเสริมบุคลิกที่ทางการนัก รวมถึงไม่เหมาะกับการใส่ไปออกกำลังกายแน่นอน หิวตายกันพอดี แต่ถ้าใช้แบบทั่วๆ ไป ใส่ไปทำงาน Office หรือว่าชิลล์ๆ จัดไปได้ รวมถึงสามารถใส่ไปท่องราตรี หรือโรแมนติคได้ด้วย แต่อาจจะไม่ได้สู้ความอวลแน่นจัดๆ หวานเยิ้มเรียกร้องความสนใจเท่าไหร่นัก แต่ถ้าเข้ามาใกล้ๆ ขวนคลุกวงในอันนี้รับรู้กลิ่นแน่นอน
ความทน - ลงตัวที่ราว 8 ชม. เป็นสำคัญ มีบวกลบราวๆ 2 ชม. ตามสภาพผิวผู้ใช้ โดยส่วนตัวเจือสูงสุดที่ 12 ชม. ได้อยู่กับการใช้งานที่ 6 สเปรย์
การกระจาย - กลิ่นกระจายดีตอนต้น แล้วจะลดลงมาเป็นสไต็ปๆ ที่ดูเร็วพอสมควร เพราะจะเริ่มเป็นออร่ารอบๆ ตัวเอาเมื่อผ่านไปราวๆ 2 - 3 ชม. แล้ว ซึ่งนี่แหละที่เป็นข้อดีทำให้กลิ่นไม่ทำให้คนฉีดเป็นขนมเดินได้ แต่ให้ความระเรื่อกำลังดีเย้าๆ เร้าๆ และดูไม่พยายามให้น้ำหอมมาเรียกร้อความสนใจนัก ซึ่งจะเสถียรและคงตัวการเป็นออร่ารอบๆตัวไปจนถึงช่วงท้ายที่จะค่อยๆ ลงมาเป็น Skin Scent ก่อนจะจางไปตามเวลา
สรุป - สมแล้วที่เป็นตัว Top ของแบรนด์ เพราะสร้างออร่ากลิ่นที่ให้ความเป็นสไตล์อังกฤษที่ไม่โฉ่งฉ่าง ให้ความหวานขนมแบบเรื่อยๆ เร้าๆ มีเสน่ห์โปร่งเจืออวลแบบสมดุลย์มาก (แอบรู้สึกได้ถึงสไตล์ Jo Malone ในกลิ่นนี้ เพราะสุคนธกรแบรนด์นี้เคยทำงานกับ Jo Malone มาก่อนด้วย ซึ่งนี่แหละเป็นเรื่องดีในการสร้างสมดุลย์กลิ่น) แม้ว่าเนื้อกลิ่นจะมีแรงบันดาลใจมาจาก Sea Salt Caramel Chocolate Truffles ที่แทบจะจับต้องได้น้อยมากในโทนชอคโกแลตหรืออาจจะจับไม่ได้เลย แต่ถ้าเรื่องคาราเมลบอกเลยว่าทำได้ครบและดีมากจริงๆ
หมายเหตุ:
1.
บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล
ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้
ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”
Photo
Credit - https://www.pinterest.com/pin/555913147747113382/
อยู่ไทย หาซื้อจากที่ไหนได้บ้างคะ อ่านแล้วอยากกินนน เอ้ย อยากดมมมมม ♥
ตอบลบ