วันพุธที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564

Review: Clean - Clean Reserve: Sweetbriar & Moss

 

Clean - Clean Reserve: Sweetbriar & Moss

ครั้งแรกเมื่อเห็นคำว่า Sweetbriar ความน่าสนใจก็เกิดขึ้นมาทันทีว่านี่คืออะไร? เพราะยังไม่มีประสบการณ์ในการรับกลิ่นนี้มาก่อน การค้นคว้าข้อมูลก็เลยเกิดขึ้นทำให้รู้ว่า Sweetbriar เป็นกุหลาบป่าขนาดเล็กประเภทหนึ่งที่ไม่ได้มีกลีบซ้อนกันเยอะๆ แบบกุหลาบปกติ แต่จะมีกลีบดอกสีชมพูจะเข้มหรืออ่อนก็ว่ากันไปราวๆ 5 กลีบ ซึ่งเกสรจะเป็นแบบเดียวกับกุหลาบเลย ก็เลยได้ความรู้ไปแล้ว 1

และพอมาเห็นว่ากลิ่นนี้เป็นหนึ่งในไลน์ Avant Garden ของ Clean Reserve ที่เป็น Exclusive Collection ที่ทำน้ำหอมกลิ่นอายสะอาดสุภาพแต่มีความแตกต่างจากกลิ่นโซน Classic ปกติ มาแตะความเป็น Niche Perfume ใช้งานง่าย ซึ่ง Sweetbriar ก็ได้มาถูกจับคู่กับ Moss เช่นนั้น จัดมาเน้นๆ ได้มาอีกขวดแลวอีก 1 เพราะอยากรู้ว่ากลิ่นกุหลาบป่าชนิดนี้จะเป็นอย่างไร และแบรนด์จะสร้างสรรค์ออกมาแนวไหน ใช้แล้วบอกต่อได้แบบนี้เลยว่า

Sweetbriar & Moss เปิดตัวด้วยความเป็นโทนเผ็ดปร่าที่มีความสดชื่นแกมเขียว และมีโทน Citrus มาตัดทอนให้มีมิติที่เป็นธรรมชาติแบบกำลังดี ซึ่งจะมาจากการผสมผสานกลิ่นพริกไทยหมาล่าที่ไม่ได้ออกทางเผ็ดแปร่งแต่เป็นปร่าเผ็ดเจือฝาดติดเขียวและมีโทน Citrus ที่มีความหวานแกมฉ่ำของส้มจีนที่ให้ความหวานเจือน้ำผึ้งหน่อยๆ มาตัดทอน และที่แน่ๆ จับได้ถึงกลิ่นเปรี้ยวหอมเฉพาะแกมฉ่ำของลิ้นจี่ที่แอบมีลูกเอื้อนทางกลิ่นของกุหลาบมาผสานด้วยหน่อยๆ เลยทำให้กลิ่นมีความเป็นโทน Spicy Green ติดฉ่ำสดชื่นโดยมีความหวานของโทนส้มกับลิ้นจี่เจือกุหลาบบางๆ ตัดทอนได้อย่างสมดุลย์มาก จนแบบว่า เออ! กลิ่นสดชื่นก็ได้ หอมรื่นรมย์ก็ได้ ได้อารมณ์ดอกไม้ติดเขียวๆ ก็ด้วย ไม่ธรรมดานะนั่น

แต่พอเริ่มจับต้องได้มากขึ้นว่าเริ่มมีกลิ่นกุหลาบที่มีความติดฝาดหน่อยๆ หอมติดหวานระเรื่อนวลๆ ที่เริ่มเข้ามาเสริมทีละนิดๆ จนเปลี่ยนช่วงอย่างเต็มตัวเป็นช่วงกลางของน้ำหอม ก็จะจับได้ชัดเจนเลยว่าเป็นการเอาโทน Spicy เครื่องเทศที่ติดเผ็ดโปร่งแกมเขียวเคล้าความสดชื่นมาเจอกับโทนดอกไม้อย่างกุหลาบได้อย่างพอเหมาะพอเจาะมาก เพราะกลิ่นพริกไทยหมาล่าที่โดนเกลากลิ่นให้มีความติดฉ่ำตอนต้นจะเด่นและผสมผสานกับความเป็นกุหลาบอ่อนๆ ที่ให้ความระเรื่อสะอาดติดเขียว แต่ไม่เข้มข้นจัดจ้านแบบสายกุหลาบแดงกำมะหยี่ที่จะมีความเขียวแห้งแกมเอียนเฉพาะทิ้งท้ายปลายกลิ่นแต่อย่างใด เลยทำให้ได้ทั้งความเป็นโทนกุหลาบติดสดชื่นแกมฝาดติดหวานนวลก็ด้วย และได้ความเป็นโทนเผ็ดปร่าติดเขียวฝาดสบายๆ ก็สามารถ ซึ่งแน่นอนว่ากลิ่น Moss ติดเขียวจะเข้ามามีบทบาทในช่วงนี้ด้วย เพราะเป็นตัวสร้างอารมณ์กลิ่นออกทางเขียวอ่อนๆ อารมณ์แบบกลิ่นป่าธรรมชาติที่มีหญ้า Moss เจืออยู่ในบรรยากาศเบาๆ ซึ่งถือว่าเป็นไฮไลท์ของรุ่นชัดเจนที่บอกถึงความเป็น Sweetbriar & Moss ชัดเจนและครบถ้วนมาก  

สิ่งที่จับต้องได้แบบเรื่อยๆ และจะมากขึ้นตามลำดับเปรียบเสมือนรอยต่อของช่วงกลางกับช่วงท้าย ก็คือ กลิ่นกึ่ง Woody กึ่งยางไม้ที่เป็นพื้นกลิ่น ซึ่งมีตัวเชื่อมชั้นดีที่จับได้เลยคือ Frankincense ที่จะให้ความยางไม้กึ่งพริกไทยกึ่งเลมอนสดชื่นมากกว่าจะเป็นยางไม้ธูป ไปเชื่อมกับกลิ่นโทนไม้ซีดาร์โปร่งๆ ที่คาดว่าน่าจะเป็นสารหอมอย่าง ISO E Super และกลิ่นออกทาง Earthy ของหญ้าแฝกที่ได้ทั้งความเป็นไม้แห้งและความสดชื่นติดฉ่ำดินอ่อนๆ ด้วย ซึ่งเมื่อความเป็นไม้หอมเริ่มกลายเป็นตัวเด่น ก็เข้าสู่ช่วงท้ายเต็มตัว โดยที่จะได้กลิ่นโทนไม้หอมโปร่งๆ ที่มีความเขียวติดเข้มบางๆ แกมกลิ่นกุหลาบอ่อนๆ นวลๆ สบายๆ ซึ่งเนื้อกลิ่นจะมีความรู้สึกกึ่งโทนไม้หอมกึ่งโทน Musky ซึ่งน่าจะมาจากสารหอมอย่าง Cashmeran ที่สร้างอารมณ์เชื่อมโทนไม้หอมกับกับกลิ่นอายคล้ายผิวกายอบอุ่นเบาๆ และเสื้อผ้าสะอาดที่สวมใส่ มีเลเยอร์กลิ่นที่สร้างให้รู้สึกถึงสภาพแวดล้อมแบบธรรมชาติที่มีอสงค์ประกอบทั้งคนยืนเดี่ยว บรรยากาศชื้นๆ สดชื่นยามเช้าที่มีทั้งกลิ่นไม้แห้ง กลิ่น Moss กลิ่นกุหลาบระเรื่อ โดยที่ความเป็น Clean ตาม Concept ของแบรนด์ยังมีครบถ้วนเช่นเดิม 

เหมาะสำหรับ - Unisex เลย แต่อาจจะค่อนไปทางผู้หญิงมากกว่าหน่อย แต่อย่าได้มายด์ไป กลิ่นมาสายสุภาพสะอาด ยังไงผู้ชายก็ใส่ได้ เผลอๆ มีเสน่ห์มากอีกด้วย ซึ่งกลิ่นเข้ากับแทบทุกสถานการณ์ยามกลางวันแบบกวาดเกือบหมดเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าทางการหรือทั่วๆ ไป จะมีก็แต่การใส่เผื่อออกกำลังกายที่อาจจะไม่เข้าทางมากนัก ยกเว้นรอช่วงท้ายๆ เสียก่อน ส่วนยามค่ำคืนเน้นใส่สบายๆ หรือโรแมนติคแบบมีเสน่ห์เรียบหรูและเป็นธรรมชาติจะลงตัวที่สุด 

ความทน - อยู่ระหว่าง 6 - 8 ชม. เป็นค่าเฉลี่ย แต่ถ้าสภาพผิวเอื้อมากพอ และจำนวนสเปรย์ลงตัวด้วย ก็จะไปต่อได้ถึง 12 ชม. ก็ยังได้ เพราะส่วนตัวก็เจอที่ 12 ชม. อยู่บ่อยครั้ง กับการใช้ที่ 6 - 7 สเปรย์ 

การกระจาย - กลิ่นกระจายปานกลางตั้งแต่ต้นเลย แล้วจะลดลงมาเป็นออร่ารอบๆ ตัวแบบเสถียรมากและยาวไป จนเมื่อพ้นไปซัก 5 ชม. ก็จะเริ่มเป็น Skin Scent ชัดเจน ซึ่งแน่นอนคนฉีดมุ้งมิ้งกับตัวเองได้เต็มที่ โดยที่ยังคุมโทนกลิ่นไม่รบกวนใครและมีความสะอาดสุภาพสไตล์ Clean

สรุป - ส่วนตัวมองกลิ่นนี้เป็นเสมือน Le Labo - Rose 31 ที่เติมคำว่า L’Eau เข้าไปเยอะหน่อย ทำให้ได้ความเป็นกลิ่นสดชื่นฉ่ำน้ำแกมเขียวเข้ามาแทนที่ เสริมด้วยโทนไม้หอมโปร่งๆ สะอาดๆ ซึ่งไม่ธรรมดาและกลิ่นมีพื้นฐานที่ให้ความเรียบหรูเป็นธรรมชาติได้ดีเกินคาดจนแตะความเป็น Niche Perfume ใช้ง่ายแบบชัดเจนมาก

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://www.parfumo.net/Perfumes/Clean/Clean_Reserve_Avant_Garden__Sweetbriar__Moss


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น