วันจันทร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564

Review: Frederic Malle - Monsieur

Frederic Malle - Monsieur

ผ่านการลองน้ำหอมที่เจาะจงในการเป็นน้ำหอมผู้ชายแบบตรงไปตรงมาของ Frederic Malle มาถ้าแบบเต็มตัวก็คงจะมีเพียงรุ่น French Lover ที่เล่นเอาซะประทับใจไปเลยถึงกลิ่นที่มีเสน่ห์สไตล์สภาพบุรุษนิ่งขรึมที่มีระดับสูงมาก แน่นอนว่ากลายเป็นแรงบันดาลใจที่ก่อตัวขึ้นมาเรื่อยๆ ว่าต้องลองน้ำหอมที่เจาะจงผู้ชายของแบรนด์นี้ให้ครบจะได้ไม่รู้สึกติดค้างอะไรในชีวิต และก็ได้เวลาเพื่อมาเจอกับน้ำหอมสายสุภาพบุรุษรุ่นต่อมาซะที นั่นก็คือ Monsieur

จากที่ได้อ่านคำโปรยต่างๆ ที่เกริ่นดึงดูดให้น่าสนใจในกลิ่น สรุปใจความง่ายๆ เลยคือ เน้นโทนสุภาพบุรุษที่มีการวางตัวที่ดี มีลักษณะทางการแต่แฝงความเย้ายวนอวลดึงดูดเนียนๆ อารมณ์เซ็กซี่ล่าเหยื่อแบบไม่โจ่งแจ้ง โดยเอาพิมเสนเป็นแกนนำหลักในการปล่อยของ เช่นนั้น มาเจอกันหน่อยซิ ว่าจะเสริมออร่าการล่าเหยื่อเนียนๆ อย่างไรบ้าง 

เปิดต้นกลิ่นมาบอกเลยว่าไม่ได้มาสายน้ำหอมอบอวลสไตล์ Mass Market แน่นอน เพราะชื่อว่า Frederic Malle เป็นประกันไม่พอ ชื่อสุคนธกรเองก็ไม่ธรรมดาอยู่แล้วอย่าง Bruno Jovanovic ซึ่งได้แปลสารเอาความเป็นพิมเสนที่มีเสน่ห์สไตล์ร่วมสมัยมาเป็นตัวปูทาง โดยจะเริ่มที่ช่วงต้นกับการเปิดตัวที่มีพิมเสนเป็นแกนหลักของกลิ่นชัดเจน ซึ่งจะให้โทนออกทางติดสมุนไพรติดเขียวแกม Earthy โดยมี Effect กลิ่นติดชอคโกแลตเนียนๆ ที่เป็นพื้นฐานของพิมเสน กลิ่นจะไม่ดิบเกินไปหรือยาจีนเกินไป เพราะมีเหล้ารัมมาสร้างความลึกและความดาร์กแบบกำลังดี เคล้ากับกลิ่นส้มที่มาแบบหวานอมเปรี้ยวค่อนไปทางแห้งๆ และในเนื้อกลิ่นจะมีโทนออกทางกึ่งแอมเบอร์กึ่งไม้หอมหน่อยๆ เป็นตัวแฝงซ่อนอยู่ในพื้นกลิ่น ซึ่งช่วงต้นเลยจะสร้างออร่าน่าค้นหาแบบสมาร์ท และชูโรงความเป็นพิมเสน เหล้ารัม และส้มได้สมดุลย์มาก และชัดเจนว่าเนื้อกลิ่นมีพื้นฐานของความเย้ายวนแกมอบอุ่นแน่นอน

การเปลี่ยนแปลงเข้าช่วงกลางอันนี้จะเริ่มจับได้ ถึงกลิ่นออกทางหนังที่มีความดิบห่ามเข้ามาแบบค่อยเป็นค่อยไป และพอมาเจอกับแอมเบอร์ที่ติดแปร่งแกมวานิลลาปนยางไม้ เลยค่อนข้างชัดเจนเลยว่ามีลูกโทนที่เป็นแนว Animalic แน่นอน ซึ่งแน่นอนว่าพิมเสนยังเป็นตัวเดินกลิ่นหลักที่มาทักทายก่อนใครเพื่อน โดยลดทอนความเขียวลงแต่เพิ่มความแห้งสมุนไพร ตามด้วยความเป็นโทนไม้หอมที่มีความโปร่งแกมขรึมแนวๆ ไม้ซีดาร์และความปร่าแกมยางไม้ Incense ที่มีโทน Smoky เจือไม้หอมเป็นตัวเชื่อมกับพื้นกลิ่น สร้างโทนแนวหนังดิบแกมแอมเบอร์ ที่มีเหล้ารัมจากช่วงต้นที่เพิ่มความเย้ายวน ทำให้ช่วงนี้จะมีโทนที่เป็นตัวเรียกแขกให้ความเป็นสุภาพบุรุษขรึมๆ เย้าๆ แต่มันจะมีโทนดิบห่ามแกมอวลอบอุ่นที่จะมองว่า Dirty ก็ได้ เร้าใจก็ดี หรือมันดิบแปร่งอุ่นสาบหน่อยๆ แบบที่ไม่ได้ Nice ก็ได้ ซึ่งเมื่อมองภาพรวมแล้ว ใช่แหละโทนแบบนี้เป็นลักษณะ Sexy ติดห่ามที่เตะจมูกเรียกร้องความสนใจเนียนๆ ได้ดีนักแล ก็ถือว่าเป็นการเจอกันตรงกลางระหว่างความเป็นสุภาพบุรุษใส่สูทที่ซ่อนความ Dirty เร้าใจแบบจงใจที่จะปล่อยออกมาอย่างพอดีๆ ประมาณนั้น

ซึ่งเมื่อโทนกลิ่นแนว Dirty แกม Animalic ของหนังแกมแอมเบอร์ในช่วงกลางเริ่มลดทอนกำลังลง เนื้อกลิ่นจะเริ่มปูทางเข้าสู่ช่วงท้ายด้วยการเป็นโทนนุ่มนวลมากขึ้นซึ่งจะมีความเป็นวานิลลาแกม Musk ที่รู้สึกได้ถึงความเช็กซี่เนียนๆ ของหนังกลับที่เสริมอยู่ในช่วงนี้หน่อยๆ และแน่นอนว่าพิมเสนก็ยังอยู่ แต่กลิ่นจะกลายเป็นระเรื่อพลิ้วๆ กำลังดี ไม่ยาจีน ไม่เขียว ไม่ดิบไม่สาก แต่มีความเป็นสมุนไพรแห้งอ่อนๆ แกมหวานที่สอดรับกับกลิ่นโทน Musky ในช่วงนี้ได้อย่างมีเสน่ห์ ซึ่งแน่นอนว่ามันก็มีความ Dirty เนียนๆ อยู่บ้าง แต่ก็โดนสายวานิลลากึ่งแป้งและ Musk กลบไปพอสมควรกลายเป็นแนวอบอุ่นนุ่มลึกมีระดับ ถือเป็นการปิดท้ายคาแรคเตอร์น้ำหอมที่เรียกว่าสร้างความน่าสนใจในการเป็น Monsieur ได้มีสไตล์เพราะมีทั้งความเย้านิ่ง ความเป็นสุภาพบุรุษ ความดิบห่าม Dirty และความละมุนนุ่มลึกชวนซุก ไล่เรียงกันได้ดีและส่งเสริมกันได้ดีด้วยเช่นกัน

เหมาะสำหรับ - ผู้ชายทุกเพศวัยทำงานเป็นต้นไป และอย่างน้อยต้องผ่านน้ำหอมแนวพิมเสนแกมแอมเบอร์ที่มีความดิบ ความเป็นโทนออกทางยาสมุนไพร และโทน Earthy แนว Niche Perfume มาบ้าง ก็จะเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ซึ่งเข้าได้กับหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวัน ไม่ว่าจะเป็นทางการหรือทั่วๆ ไป เพียงแต่จำนวนสเปรย์เหมาะสมซักหน่อยน่าจะดีกับอากาศบ้านเรา รวมถึงใส่แบบทั่วๆ ไปก็ยังได้ แต่ตัดทิ้งการใส่เพื่อกิจกรรมกลางแจ้งหรือว่าออกกำลังกายไปได้เลย ไม่เข้าทางทุกประการ ส่วนยามค่ำคืนใส่ออกงานหรือว่าท่องราตรีอันนี้ได้อยู่ แต่กลิ่นจะมีความ Unique หน่อย 

ความทน - พื้นฐานที่ 8 ชม. สบายมาก แต่ไปต่อได้อีกถึง 15 ชม. เลยตามจำนวนสเปรย์และสภาพผิวผู้ใช้ ส่วนตัวเจอไปที่ 15 ชม. เป็นประจำกับการใช้งานที่ 5 สเปรย์

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีมากในตอนต้น แล้วจะดรอปลงมากระจายดีไปเรื่อยๆ ราว 2 ชม. แล้วถึงลดลงมาปานกลางซักพักใหญ่ๆ ราว 3 ชม. แล้วถึงเป็นออร่ารอบๆ ตัวกันยาวๆ ไป จนเมื่อผ่าน 8 ชม. ไปแล้วกลิ่นถึงจะค่อยๆ ลงเป็น Skin Scent

สรุป - เนื้อกลิ่นไม่ธรรมดา ตีความ Monsieur หรือสุภาพบุรุษในอีกรูปแบบที่ยังคุม Concept ผู้ชายมาดหล่อนิ่งใส่สูท แต่เอาความดิบห่าม Dirty เร้าใจ มาตีคู่แบบทั้งผสมผสานและส่งเสริมกันได้ดี อารมณ์แบบหล่อสมาร์ท แต่ปล่อยออร่าความพร้อมล่าเรียกร้องความสนใจแบบจงใจ ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://www.fredericmalle.com/product/19566/49934/parfums/monsieur/by-bruno-jovanovic

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น