วันพฤหัสบดีที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564

Review: David Jourquin - Cuir Tabac

David Jourquin - Cuir Tabac

จากสิ่งที่เกิดขึ้นในวัยเด็กของที่ในทุกๆ เช้าแม่ของเขาจะแต่งตัวไปทำงานและสวมเสื้อโค้ทหนังตัวเก่ง แล้วเดินมาจูบเขาก่อนไปทำงาน ทำให้ได้ซึมซับเอากลิ่นหนังและกลิ่นน้ำหอมที่แม่ของเขาได้ใช้มาเป็นความทรงจำตลอดทั้งวัน รวมถึงการได้ไปอยู่กับคุณยายสัมผัสกลิ่นพื้นไม้ที่ลงแว๊กซ์ กลิ่น Cigar จากพ่อ การได้ไปตลาดสัมผัสกลิ่นเครื่องเทศต่างๆ รวมถึงการได้ไปท่องเที่ยวที่ต่างๆ กับครอบครัวแล้วสัมผัสกลิ่นอายจากสถานที่ต่างๆ เหล่านั้น ทั้งหมดหล่อหลอมให้ David Jourquin หลงรักในกลิ่น และเห็นความหมายของกลิ่นต่างๆ ที่มีความสำคัญอย่างมาก จนทำให้เขากลายมาเป็น Perfumer ในสาย Niche Perfume ที่สร้างสรรค์ผลงานที่ไม่ธรรมดาในทุกวันนี้

พื้นฐานหลักของสุคนธกร คนนี้จะมีความรักในเนื้อกลิ่นหนังที่อ้างอิงจากกลิ่นเสื้อโค้ทของแม่เขาในความทรงจำ เลยทำให้ทุกกลิ่นที่เขาสร้างสรรค์ จะต้องมี Note กลิ่นหนังเป็นหนึ่งในองค์ประกอบทั้งหมด ซึ่งจะเด่นมากหรือน้อยก็ว่ากันไป และที่สำคัญขวดหุ้มหนังได้สวยมาก เช่นนั้นเมื่อได้มาเจอกับแบรนด์นี้ครั้งแรก ก็อยากจะลองเสียหน่อยว่า กลิ่นน้ำหอมสายเย้ายวนของผู้ชายที่เขาได้สร้างสรรค์ขึ้นจะเป็นอย่างไรกับการจับคู่ยาสูบกับหนัง เช่นนั้น จัดไปอย่าได้เสียลองจนรู้แล้วบอกต่อได้แบบนี้เลยว่า

Cuir Tabac หลังจากสัมผัสกลิ่นน่าจะเป็นการ Represent ถึงกลิ่นที่เคยอยู่ในความทรงจำกับคุณพ่อของสุคนธกร ที่มีในเรื่องของกลิ่นยาสูบ Cigar และกลิ่นเครื่องเทศที่เป็นความทรงจำยามพ่อพาไปตลาดที่ Pointe-à-Pitre เลยเอามาบวกกับความเป็นหนัง ซึ่งแน่นอนว่ากลิ่นเปิดตัวจะเป็นโทนกลิ่นหวานโปร่งยาสูบก็จริง แต่จะมีความรู้สึกแบบกลิ่นออกทางยาสมุนไพรแห้งๆ ให้โทนสีน้ำตาลคล้ายพิมเสนที่มีโทนชอคโกแลตบางๆ เคล้าเครื่องเทศหวานโปร่งที่น่าจะมีกระวานเป็นตัวนำจะวูบออกมาให้จับต้องได้ชัดเจนมาก จนแอบข้องใจเล็กๆ ว่านี่เป็นน้ำหอมกลิ่นพิมเสนหรือเปล่า เพราะกลิ่นค่อนข้างเด่นมาเชียว แต่เพราะว่าการที่ยาสูบยังคุมโทนหวานโปร่งได้ดี ก็เลยยังมีความชัดเจนอยู่พอสมควรโดยที่พิมเสนแย่งซีนได้ไม่สุดประมาณนั้น อารมณ์ส่งเสริมให้โทนยาสูบมีลักษณะแบบ Herbal Classic แนวๆ นั้น และวูบถัดมาจะเริ่มจับต้องได้ถึงกลิ่นโทนลาเวนเดอร์ติด Herbal แห้งๆ จะเข้ามาเสริม เลยทำให้เนื้อกลิ่นค่อนข้างสร้างความอะโรม่าที่ดุงเอาความเป็นสมุนไพรแห้งหวานทั้งพิมเสน ยาสูบ ลาเวนเดอร์ และเครื่องเทศออกมาในโทนสีน้ำตาลที่ยังความใสแฝงครีมมี่เล็กๆ ได้อย่างลงตัวมาก

ในการเปลี่ยนเข้าช่วงกลาง กลิ่นยาสูบจะเริ่มชัดขึ้นและมีความ Smoky หน่อยๆ แกมหวาน ซึ่งนอกจากลักษณะของความหวานโปร่งของยาสูบแล้ว ยังได้อารมณ์กลิ่นแบบยาสูบแบบ Cigar กึ่งควันหน่อยๆ เข้ามาร่วมด้วย แต่พิมเสนก็ยังไม่ได้ไปไหน ยังคงให้ความเป็นโทนสมุนไพรแห้งกึ่งยาหน่อยๆ ที่ยังเป็นสายสนับสนุนที่มีซีนเด่นมากในเนื้อกลิ่น และลาเวนเดอร์ก็ยังตามมา แต่จะจับต้องได้ถึงความครีมมี่ที่ไม่ได้มาเต็มนักของกลิ่นแนวกึ่งแอมเบอร์กึ่งวานิลลา ทำให้อารมณ์กลิ่นมีลักษณะออกทางโทน Gourmand หรือขนมอยู่หน่อยๆ ที่แฝงอยู่ตลอด เลเยอร์กลิ่นในช่วงนี้เลยจะเป็นลักษณะกลิ่นขรึมๆ มีความหวานแกมผ่อนคลายที่เป็นการแท็คทีมกันทั้งยาสูบ พิมเสน ลาเวนเดอร์ โทนออกทาง Oriental ที่มีแอมเบอร์กับวานิลลาอ่อนๆ สร้างเลเยอร์กลิ่นที่ทำให้เห็นภาพอารมณ์แบบผู้ชายสไตล์ Classic ติด Retro หน่อยๆ สูบซิการ์แล้วหวานขรึมมีภูมิที่มีเสน่ห์ดึงดูดน่าค้นหา เรียกว่าเป็นช่วงที่ให้โทนกลิ่นที่สมูธและสมดุลย์มาก แต่ยังไม่รู้สึกถึงโทนหนังเลย นี่สิมีความแปลกใจอยู่หน่อยๆ

แต่โทนหนังจะมาในช่วงท้ายนี่แหละ เพียงแต่มาแบบแขกรับเชิญเสียมากกว่า เพราะเนื้อกลิ่นจะเข้าสู่อารมณ์กลิ่นแบบสไตล์ Classic ที่ไม่หนักหน่วงแทน อารมณ์กลิ่นหนังที่มีความเก่าหน่อยๆ บางๆ กลิ่นแบบไม่มีด้าน Animalic จ๋าๆ ของหนังมาทำให้รู้สึกติดดิบแต่อย่างใด และแถมยังโดนตัดทอนด้วย Musk ที่ให้ความนวลๆ ซ้อนไปกับโทนออกทางพิมเสนที่ก็เริ่มเป็นโทนแห้งๆ Earthy เลยได้ความเป็นโทนสีน้ำตาล Classic อ่อนๆ ที่มีเสน่ห์ ซึ่งยาสูบก็ยังตามมาในช่วงนี้แบบเป็นสายสนับสนุนในการให้ความหวานโปร่งติด Smoky ปลายกลิ่นที่ได้อารมณ์กึ่งยาสูบกึ่งควันอยู่บางๆ เลยทำให้ช่วงนี้อารมณ์กลิ่นเลยจะสร้างภาพในหัวออกมาเลยเหมือนเห็นผู้ชายสมาร์ทๆ ขรึมนิ่งแต่งตัวแนว Casual Classic สบายๆ สูบ Cigar บนเก้าอี้หนังเก่าที่มีความนวลละมุนตาแบบบรรยากาศรอบตัวเป็นโทนกึ่งซีเปีย ถือว่าเป็นการปิดท้ายกลิ่นที่ให้ความผ่อนคลายและมีเสน่ห์แบบมีระดับได้เลยทีเดียว

เหมาะสำหรับ - ผู้ชายทุกเพศวัยทำงานเป็นต้นไป ซึ่งถ้าพื้นฐานชอบกลิ่นยาสูบและพิมเสนค่อนไปทาง Classic มาก่อน บอกเลยว่าเข้าถึงกลิ่นนี้ได้แบบเต็มที่และฟินไปเลยได้ง่ายมาก ซึ่งกลิ่นมีความขรึม มีภูมิ สุขุม แกมหวานเย้าผ่อนคลายเลยจะเข้ากับหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันแบบทางการหรือทั่วๆ ไป แต่ให้ตัดการใส่เพื่อกิจกรรมลุยๆ กลางแจ้งหรือว่าออกกำลังกายจะดีที่สุด ส่วนยามค่ำคืน เน้นใส่แบบทั่วๆ ไปหรือโรแมนติคก็ถือว่าลงตัว

ความทน - กลิ่นทนราวๆ 10 ชม. เป็นสำคัญ และไปต่อได้อีก ซึ่งส่วนตัวเจอไปที่ 15 ชม. ในทุกครั้งที่ใช้งานกับจำนวน 6 สเปรย์ ซึ่งถ้าตีค่าเฉลี่ย ยังไงก็เกิน 8 ชม. แน่นอน

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้น และค่อนข้างคงตัวในการกระจายดีไปราว 1 ชม. เลย ก่อนจะลดลงมาที่ปานกลางแบบยาวๆ ไปจนถึงชั่วโมงที่ 6 แล้วจะเป็นออร่ารอบๆ ตัวไปเรื่อยๆ ก่อนเป็น Skin Scent ที่ราวๆ 9 ชม. ไปแล้ว 

สรุป - สมกับชื่อรุ่นว่า Cuir Tabac เพียงแต่พิมเสนค่อนข้างเด่นมากและอยู่ยาวตั้งแต่ต้นยันปลาย ซึ่งแม้ไม่ได้แย่งซีน แต่ก็เป็นกลิ่นที่มีซีนเด่นเสมอต้นเสมอปลายมากจริงๆ แต่สิ่งหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้เลยก็คือ เนื้อกลิ่นสร้างโทนสีน้ำตาลกึ่ง Retro ที่มีเสน่ห์มาก อารมณ์กลิ่นกึ่งสุภาพบุรุษสาย Daddy ที่น่าเข้าใกล้ ดึงดูด และมีความอบอุ่นแฝงอยู่ตลอด จนบางครั้งนึกถึง Davidoff - Zino ที่ตัดทอนความฟุ้งความคมจัดๆ ออกไป เสริมกลิ่นโทนครีมมี่อบอุ่นให้มีความลุ่มลึกที่ลงตัวประมาณนั้น  ซึ่งนอกจากที่สุคนธกรเองจะถอดเอาภาพในความทรงจำของพ่อตัวเองบนเก้าอี้หนังนั่งสูบ Cigar มาลงกลิ่นก็จริง แต่กลิ่นนี้ก็สามารถเข้ากับบุคลิกของผู้ใช้ที่อยากจะสร้างออร่าของการเป็นโทนเย้ายวนแบบผ่อนคลายที่มีเสน่ห์น่าค้นหาก็สามารถด้วยเช่นกัน 

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://www.davidjourquin.fr/en/product/cuir-tabac-inspiration-dhiver-en/

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น