วันเสาร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2563

Review: Aesop - Hwyl

Aesop - Hwyl

เรื่องกลิ่นอายอะโรม่าจากสภาพแวดล้อมแปลออกมาเป็นน้ำหอมลงสู่ขวดโดยเน้นที่ความเป็นกลิ่นอายสายเครื่องเทศที่เผ็ดปร่าและกลิ่นไม้หอมที่มีเสน่ห์ หนึ่งในนั้นจะต้องมี Aesop รวมอยู่ด้วยแน่นอน เพราะในแต่ละรุ่นที่ได้ผ่านการใช้งานมาทุกตัวมีความดีงามในการถ่ายทอดสภาพแวดล้อมและกลิ่นอายที่งดงามของสถานที่นั้นๆ ไม่พอ ยังให้ความรื่นรมย์ปนความรู้สึกผ่อนคลาย Happy ซึ่งแน่นอนว่าในรุ่นที่ 3 ของการกลับมาสร้างสรรค์น้ำหอมของแบรนด์ใหม่อีกครั้ง (หลังจากทิ้งช่วงไปเกือบ 9 ปี) อย่าง Hwyl ก็เดาได้ไม่ยากว่าน่าจะเอาข้อดีมาทั้งหมดเช่นกัน

ที่มาที่ไปของการสร้างสรรค์ Hwyl ที่เป็นภาษาเวลส์ที่แปลคร่าวๆ ได้ว่า “ความรู้สึกตื่นเต้นของอารมณ์ที่กระตุ้นให้มีพลัง” อะไรประมาณนี้ โดยจะเอากลิ่นอายความเป็นป่าแบบญี่ปุ่นโบราณที่เงียบสงบและเขียวขจีท่ามกลางสายลมเย็นที่มาจากท้องฟ้า เช่นนั้น อย่างแรกกลิ่นน่าจะเป็นการจำลองจากจินตนาการเป็นสำคัญ แต่เอาความเป็นกลิ่นอายสายป๋าเขียวๆ เข้าชูโรงด้วย ดังนั้นความน่าสนใจก็มาทันทีทันควันเพราะกลิ่นอายป่าแบบญี่ปุ่นจะต้องมีความอะโรม่าปลอดโปร่งแบบที่รื่นรมย์แน่ๆ และเมื่อใช้งานจนซึมซับได้ที่ สิ่งที่ได้ คือ

ถ้าเป็นการรำพึงรำพันก่อนเข้าสู่การจำแนกกลิ่น จะบอกว่าปลอดโปร่งสดชื่นก็ได้ แต่มันจะมีความเป็นกลิ่นอายสายไม้หอมโซนไม้สนเด่นนำเคล้ากลิ่นอาย Smoky ที่มีความหนาในเนื้อกลิ่นพอสมควร เลยทำให้มีความน่าค้นหาปนดาร์กในกลิ่นมาร่วมด้วยแบบที่ยังคุมโทนการเป็นกลิ่นอายสายอะโรม่าแบบที่แบรนด์ถนัดและทำได้ดีเช่นเดิม ซึ่งเมื่อแยกการถ่ายทอดกลิ่นก็เริ่มที่ช่วงต้นกับการเป็นกลิ่นอายแบบบรรยากาศที่มีไอหมอกเคล้ากลิ่นสมุนไพรที่จะมีความปร่าระเรื่อเย็นๆ ชื้นๆ โดยอย่างแรกที่จับต้องได้เลยคือ ไทม์ ที่จะมาให้ความเขียวสมุนไพรที่มีความปร่ากำลังดีแบบให้ความสดชื่น เคล้ากับกลิ่นเครื่องเทศแบบอ่อนๆ + กลิ่นอายแบบสร้างบรรยากาศที่ให้ความชื้นในเนื้อกลิ่น โดยมีกลิ่นไม้สนรองพื้นอยู่แบบจับต้องได้ อารมณ์เหมือนเดินเข้าสู่ป่ายามเช้าที่จะจับต้องไอเย็นจากความชื้นและไอหมอกเคล้ากลิ่นอายสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยกลิ่นสมุนไพรเจือเขียวที่ติดชะอุ่มและไม้หอมปร่าๆ ประมาณนั้นเลย

ช่วงแรกจะมาสร้างความน่าสนใจซักครู่ การเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ช่วงกลางก็ชัดเจนมากขึ้นเพราะกลิ่นไม้สนไซเปรสติดปร่าเย็นจะชัดเจนมากขึ้นจนกลายเป็นตัวหลักในการเดินกลิ่นกันยาวๆ ไป เพียงแต่จะมีกลิ่นโทนสมุนไพรที่ตามมาจากช่วงต้นเคล้าอากาศเย็นๆ เป็นตัวอ้อยอิ่งล่องลอยรอบๆ เสริมให้รู้สึกสดชื่นอยู่ประปราย ซึ่งในช่วงนี้จะรู้สึกได้อย่างหนึ่งคือ กลิ่นไม้สนจะไม่ได้ปร่าสว่างนัก อารมณ์จะแบบไม้เก่าๆ ที่มียางไม้ปร่าๆ เคล้ากลิ่นเปลือกไม้ที่กึ่งชื้นกึ่งแห้ง มีกลิ่นอายของไม้ซีดาร์ที่ปร่าขรึมแกมอารมณ์กลิ่น Smoky เข้ามาร่วมด้วย เลยทำให้อารมณ์กลิ่นจะได้ความรู้สึกอะโรม่าสดชื่นผ่อนคลายก็จริง แต่มีความน่าค้นหาแกมดาร์กเนียนๆ เข้ามาร่วมด้วยตลอด และทำให้เนื้อกลิ่นมีความหนาขึ้นมาอีกหนึ่งเต็ปแต่ก็ไม่ได้ไปสายข้นหนัก อารมณ์แนวหยินหยางแบบกลิ่นหนาอยู่นะ แต่ก็เย็นๆ โปร่งอะโรม่าติดสดชื่นอยู่ ง่ายๆ สมดุลย์กันได้ดีนั่นแล ซึ่งเนื้อกลิ่นจะดำเนินไปเรื่อยๆ จนเริ่มจับต้องได้ถึงกลิ่นอายของยางไม้ที่ให้ความปร่ากึ่งไม้หอมแนวสนไพน์ติดไอควันเนียนๆ ที่เป็นลักษณะของ Frankincense ที่ให้ความรู้สึกขลังแนวๆ ธูป Incense นิ่งๆ อ้อยอิ่งที่จะมีกลิ่นเขียวออกทางหมึกติดเขียวเข้มของ Oak Moss มาเป็นตัวสร้างมิติกลิ่นที่ให้ความเป็นลักษณะแบบ Earthy ผืนป่าคลอ แต่กลิ่นโทนชื้นๆ จะเริ่มหายไป เพราะกลิ่นโทนไม้แห้งๆ ของหญ้าแฝกจะเสริมเข้ามาสร้างออร่าของความเป็นโทนไม้หอมที่โดดเด่นมากขึ้น ซึ่งยังมีไม้ซีดาร์ที่ให้ความขรึมเจือนิ่งโปร่งอยู่ และแกล้มด้วยไม้สนไซเปรสที่ตามมาจากช่วงกลาง ทำให้ช่วงนี้จะเป็นลักษณะแบบไม้หอมแห้งๆ ที่มีมิติกลิ่นน่าค้นหาปนอะโรม่ากลิ่นไม้ โดยจะได้เลเยอร์การดมกลิ่นไม้หอมจากไม้แห้งๆ ชัดๆ และมีความ Smoky Incense ที่กลั้วอยู่ด้วยตลอด สู่ปลายกลิ่นที่จะติดไม้สนปร่าดึงดูดแบบนิ่งๆ ที่มีชั้นเชิงและมีความเรียบหรูเข้าทางโทนธรรมชาติได้อย่างลงตัวและมีความน่าสนใจมากเกินคาดไปจากที่คิดไว้ว่าจะเป็นกลิ่นป่าปลอดโปร่งไปมากเลย

เหมาะสำหรับ - Unisex ตามที่แบรนด์ลงไว้ก็จริง แต่ค่อนไปทางผู้ชายถึง 70% ได้เลย เพราะกลิ่นในช่วงท้ายจะเป็น Woody ไม้หอมขรึมๆ เลยจะเข้าทางผู้ชายมากกว่าผู้หญิงพอสมควร แต่ถ้าสาวๆ ไม่มายด์ก็จัดไป ซึ่งสามารถใส่ได้ในหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวัน ไม่ว่าจะเป็นทางการหรือทั่วๆ ไป เพราะกลิ่นให้ความน่าค้นหาในความปร่าเย็นได้ดีมาก จะมีก็แต่การใส่ออกกำลังกายที่ได้อยู่แบบกล้อมแกล้มเออออ ส่วนยามค่ำคืนเน้นใส่เพื่อความน่าค้นหากึ่งอะโรม่าแบบทั่วๆ ไปหรือจะโรแมนติคหน่อยๆ น่าจะดีที่สุด เพราะกลิ่นนี้ไม่เข้ากับการใส่ไปท่องราตรีเท่าไหร่ โดนกลบแน่นอน

ความทน - ลงตัวที่ 8 ชม. กำลังดีเลย อาจจะมีบวกลบบ้างราว 2 ชม. อิงตามจำนวนสเปรย์และสภาพผิวผู้ใช้เป็นสำคัญ

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้น แล้วจะค่อยๆ ผ่อนลงมาที่ปานกลางซักครู่ แล้วจะเป็นออร่ารอบๆ ตัวกันยาวๆ จนเมื่อพ้นไปซัก 6-8 ชม. จะเริ่มเป็น Skin Scent

สรุป - เนื้อกลิ่นมีความเป็นการจำลองสถานการณ์ตามจินตนาการชัดเจน เพราะกลิ่นแตะความดาร์กและน่าค้นหาในลูกเล่นโทนไม้หอมติด Smoky ได้อย่างดีมาก เลยสร้างอะโรม่าติดขรึมอยู่ตลอดเลย แต่ก็ไม่ทิ้งกลิ่นอายธรรมชาติที่ควรจะเป็นในลักษณะป่าแบบญี่ปุ่นที่ให้ความปลอดโปร่งและนิ่งสงบเยือกเย็น เช่นนั้น บอกง่ายๆ เลยว่า กลิ่นนี้ให้ความสมดุลย์หยินหยางในสายไม้หอมที่ดีมากอีกหนึ่งกลิ่น แต่จะสร้างความรู้สึกถึงความตื่นเต้นจนทำให้มีกระตุ้นจนมีพลังไหม อันนี้แล้วแต่คน แต่ส่วนผู้เขียนกระตุ้นก็จริง แต่กระตุ้นให้เกิดความผ่อนคลายและนิ่งสงบปนสดชื่นเสียมากกว่า

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://www.issue.ink/post/this-is-therapy-in-a-bottle

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น