Annick Goutal - Le Chèvrefeuille
ถ้าหันไปมองว่าแบรนด์ไหนทำกลิ่นอายสดชื่นติดเขียวๆ
ได้ดีและถือว่าเป็นอีกหนึ่งในใต้หล้า คงมองข้าม Annick Goutal ไปไม่ได้จริงๆ ยิ่งถ้าเป็นโทนออกทางกลิ่นอายแนวๆ สวนต่างๆ ที่มีดอกไม้เจือความเขียวสดชื่นท่ามกลางอากาศดีๆ
ถือว่าถ่ายทอดออกมาได้ลงตัวมาเสมอ และก็ได้เวลาของกลิ่นอายสวนในอีกรูปแบบของแบรนด์นี้ที่เอาความเป็นดอกสายน้ำผึ้งมาบอกเล่าผ่านกลิ่นที่พึงใจนั่นคือรุ่น Le Chèvrefeuille
ที่มาที่ไปมาจากเจ้าของแบรนด์รุ่นลูกอย่าง
Camille Goutal ได้ไปพักผ่อนที่บ้านเกิดสมัยเด็กที่
Provence ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส แล้วเมื่อเดินเล่นในสวนของครอบครัวก็ไปเจอต้นสายน้ำผึ้งพร้อมดอกที่บานสะพรั่ง
ก็ทำให้นึกถึงความทรงจำสมัยเด็กที่เอาดอกสายน้ำผึ้งมาร้อยต่อกันเป็นมงกุฎสวมเป็นเจ้าหญิงเล่นกับญาติๆ
รุ่นราวคราวเดียวกันในสวน จึงนำมาถ่ายทอดออกมาใน Le Chèvrefeuille โดยเปิดตัวกับความเป็น Citrus Green ที่มีความเป็นธรรมชาติมาก
เพราะจะได้ความรู้สึกแบบกลิ่นเขียวติดเปรี้ยวสดชื่นของกิ่งก้านส้มเจือกลิ่นอายเปรี้ยวติดขมปนซ่าหน่อยๆ
แต่หวานปลายแบบน้ำเลมอนเนดที่ให้ความปลอดโปร่งและอะโรม่าแบบอากาศยามเช้าในสวนได้เป็นอย่างดี
เพียงชั่วขณะหนึ่งกลิ่นของดอกสายน้ำผึ้งจะเปิดตัวขึ้นมาผสมผสานกับโทนเขียวเปรี้ยวสดชื่นนำเข้าสู่ความเป็นเถาต้นสายน้ำผึ้งมุมหนึ่งในสวนที่บานสะพรั่ง
กลิ่นจะไม่ได้มาแบบสายน้ำผึ้งอวลๆ หวานปนแป้งดอกไม้ขาวแบบที่เรามักจะได้กลิ่นจากน้ำหอม
Designer หลายๆ ตัวนัก แต่กลิ่นของตัวนี้จะให้ความรู้สึกแบบดอกสายน้ำผึ้งหวานนวลบางๆ
ปนเขียวสดชื่นติดซ่าเบาๆ ให้ความรู้สึกอากาศดีๆ ในสวนเขียวๆ
เคล้ากับกลิ่นสายน้ำผึ้งที่มาอ่อนๆ รื่นรมย์เสียมากกว่า
ซึ่งในเนื้อกลิ่นจะสัมผัสได้ถึงกลิ่นใสๆ หวานจางๆ ของมะลิเจืออยู่ด้วย
กลิ่นจะให้ความรื่นรมย์ที่แบ่งโทนกันเป็นอย่างดีและมีความเป็นธรรมชาติมาก
จนเมื่อกลิ่นสดชื่นเริ่มจางลงตามลำดับจนเข้าสู่ช่วงท้ายของน้ำหอมที่ความเขียวจะมีความนวลเบาๆ
กำลังดี กลิ่นมีความเขียวตุ่นนวลบางๆ ของดอกดารารัตน์ (Daffodil/Narcissus)
เบาๆ ให้จับได้ เสริมโทนเขียวเวลาเราดมกลิ่นดอกไม้มักจะมีกลิ่นเขียวตุ่ยๆ
บางๆ ให้กลิ่นดอกสายน้ำผึ้งมีความเป็นธรรมชาติให้กลิ่นนวลระเรื่อบางเบาติดผิวปนหวานจางๆ
โดยเนื้อกลิ่นมีความแห้งมากขึ้นมาหน่อยจากช่วงกลาง และมีความอบอุ่นอ่อนๆ
ให้รุู้สึกได้ไปตลอดจนจางไปในที่สุด
เหมาะสำหรับ -
แบรนด์ลงเอาไว้ว่าเป็นกลิ่นของสาวๆ ซึ่งก็ว่ากันไปตามนั้น
แต่ในความรู้สึกกลิ่นนี้เอามีความเป็นธรรมชาติมาก และไม่ได้มาสายปล่อยพลัง
จึงค่อนมาทาง Unisex พอสมควรแบบที่ผู้ชายใส่ได้สบาย
โดยวัยที่เข้ากับกลิ่นนี้จะตั้งแต่น้องๆ ม.ต้น ขึ้นไปก็สามารถแล้ว
เพราะกลิ่นออกทางสวนมันเข้าถึงง่ายมากแบบมีระดับเสียด้วยซ้ำไป
โดยใส่ได้หมดเลยทุกสถานการณ์ยามกลางวัน ซึ่งถ้าเลือกสถานการณ์ดีๆ
กลิ่นนี้สร้างความมีออร่าอะโรม่าสดชื่นหรูหราได้น่าสนใจเสียด้วย
ส่วนยามค่ำคืนใส่แบบทั่วๆ ไปจะดีที่สุด
ความทน -
เนื่องจากกลิ่นมาสายใกล้เคียงธรรมชาติมาก มันเลยแปรผันกับความทนพอสมควร
ซึ่งอยู่ระหว่าง 2 - 4 ชม.
เป็นสำคัญ เน้นพกไปเติมระหว่างวันจะดีที่สุด
การกระจาย -
กลิ่นกระจายปานกลางในช่วงต้น แล้วจะดรอปลงมาเป็นออร่ารอบๆ ตัวซักครู่
แล้วกลายเป็น Skin Scent
ทิ้งท้าย -
แม้ว่ากลิ่นจะไม่ได้ทนเท่าไหร่ แต่เมื่อทดแทนด้วยความเป็นธรรมชาติแบบอยู่ในสวนโปร่งๆ
และมีกลิ่นดอกสายน้ำผึ้งนวลหวานบางๆ ลอยมาตามลมตลอดแบบนี้ ต้องบอกเลยว่า
เรายอมที่จะให้ไม่ทนแล้วใช้ซ้ำระหว่างวัน เพราะมันช่วยให้เราสดชื่นเคล้าความอะโรม่าได้ดีจริงๆ
หมายเหตุ:
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้
ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ นอกเหนือจากนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้
ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว
ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ
ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ”
Photo Credit - Lane
Crawford: http://www.lanecrawford.com/product/annick-goutal/le-ch-vrefeuille-eau-de-toilette-100ml/_/IJA369/product.lc
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น