Review: Chanel No 5 L’Eau
Chanel No 5 L’Eau
ถ้าพูดถึงน้ำหอมที่ดังมากระดับโลกและคงความคลาสสิคมาเสมอต้นเสมอปลายกับความหรูหราที่เหนือกาลเวลาและเป็นตำนานเลยคงหนีไม่พ้น Chanel No 5 ซึ่งแม้ว่าเด็กยุคใหม่อาจจะพูดว่ากลิ่นแป้งจัดๆ
และผู้ใหญ่ไปมาก (เอาตรงๆ กลิ่นแก่นั่นแหละ) แต่แปลกวันนึงจะต้องได้ใช้และลองขวดนี้จนอินและรักในที่สุดเสียส่วนใหญ่
แต่ครั้งนี้จะไม่ได้มาเล่ากันในเรื่องของกลิ่นอายเหนือกาลเวลาต้นตระกูล
แต่จะมาพูดถึงรุ่นล่าสุดที่ออกมาของสายนี้ (ไม่รวมการเปลี่ยนสีขวด)
ที่มาเจาะตลาดสายสาวๆ เหมือนกล่อมให้ได้เจอ No
5 ในแบบที่ไม่หนักก่อนจะไปเจอและรักตัวต้นตระกูลในที่สุด ซึ่งนั่นก็คือ Chanel
No 5 L’Eau
ความโดดเด่นของ No 5 คือความเป็นแป้งหอมดอกไม้แน่นติดโทนสบู่คมๆ
จาก Aldehydes ที่หรูหราและมีความนางพญาสูงมาก
แน่นอนได้ถ่ายทอดมาที่การเป็น No 5 L’Eau แต่ปรับโทนให้เข้าถึงได้ง่ายโดยเน้นที่ความสดชื่นและโทนสว่างมากขึ้น
โดยกลิ่นเปิดจะมากับความเป็นสบู่คมๆ ของ Aldehydes ตามลักษณะของการเป็น
No 5 ก็จริง แต่ไม่หนัก เพราะมีกลิ่นดอกส้มผสมผสานกับโทน
Citrus แนวๆ ส้มที่ตีคู่มาอย่างน่าดูชมและดมกลิ่นเลยทีเดียว
ทำให้ได้อารมณ์สว่างปนคมกำลังดีสดชื่นกำลังงาม ไม่หนักหน่วงและไม่ดูกรุยกรายมากโดยที่ยังอยู่บนพื้นฐานของการเป็นสไตล์
No 5 ได้อย่างดีเลยทีเดียว ซึ่งเพียงไม่นานกลิ่นโทน Citrus
จะเริ่มเบาตัวลงไป เปิดทางเข้าสู่ช่วงกลางที่เป็น No 5 แบบสายซอฟต์ที่ให้โทนสบู่แน่นกำลังดีเจือแป้งหอมดอกไม้เด่นที่กลิ่นอายของกระดังงาที่ให้ความเย้ายวนอวลกึ่งละมุนและดอกไม้ขาว
ซึ่งแน่นอนดอกส้มยังตามมาให้ความสดชื่นติดเขียวบางๆ
ในกลิ่นผสมผสานกับความหอมนวลมะลิทำให้ได้ความรู้สึกมีระดับและหรูหราแบบไม่ได้ดูเป็นคุณนายจัดๆ
ออกแนวมีคลาสในความเป็นโทนขาวสว่างได้อย่างลงตัวมากเสียด้วย
ซึ่งโทนแป้งจะเริ่มเป็นตัวเดินเกมหลักโดยค่อยๆ ลดทอนความเป็นสบู่ลงไปเรื่อยๆ
จนกลายเป็นโทนแป้งหอมเคล้าผิวกายละมุนๆ มีความหวานหอมแป้งผสมผสานกลิ่นสไตล์
White Musk ที่จะออกทางโทนแป้งหอมนุ่มก็ได้หรือจะเป็นผิวกายเจือหวานอ่อนๆ
ก็สามารถ โดยในความเป็นแป้งแน่นอนว่ายังมีกลิ่นอายดอกไม้ละมุนเจืออยู่ให้ทั้งความหรูหรากรุยกรายแบบเบาๆ
เคล้าผิวกายเจืออับบางๆ เซ็กซี่น่าค้นหาแบบติดคลาสสิคหน่อยๆ ก็สามารถ
เหมาะสำหรับ -
ผู้หญิงทุกเพศวัยเรียนมหาลัยขึ้นไปก็สามารถใส่ตัวนี้ได้สบาย
เพราะกลิ่นไม่ได้ไปสายกรุยกรายอะไรนัก มีความสดชื่นและทันสมัยมาก
แต่ยังคงความเป็นสไตล์นางพญาแบบเบาๆ ตามโทนกลิ่นที่เป็นอัตลักษณ์หลักของ
No 5 ที่คลาสสิคหน่อยๆ อยู่ด้วย
ซึ่งสามารถใส่ได้ในแทบทุกสถานการณ์ยามกลางวันและกลางคืนบางส่วน
ไม่ว่าจะทางการหรือทั่วๆ ไป เน้นชิคๆ แบบมีระดับและไม่เน้นรบกวนใครมาก
(สไตล์ผู้ดีประมาณนั้น) เพียงแต่อาจจะไม่ได้เหมาะนักกับการใส่ไปออกกำลังกายหนักเท่าไหร่นัก
เพราะมันเป็นโทนแป้ง รวมถึงไม่เข้ากับการใส่ไปท่องราตรีแต่ประการใด
เพราะโดนกลบมิดแน่นอน ส่วนผู้ชายเอาจริงๆ ใช้ตัวนี้ได้สบายมาก
เพราะกลิ่นไม่ได้มาสายเปิดตัวนัก ออกทางสบู่เคล้าแป้งหอมติดผิว แหม ขนาด
No 5 ปกติ ผู้ชายยังใช้ได้ มีหรือที่ตัวนี้จะใช้ไม่ได้ เผลอๆ อาจจะเข้าทางและฟินกว่าด้วยเพราะกลิ่นนี้ไม่ได้เป็นสายปล่อยพลังนัก
ความทน - ราวๆ 4 - 6 ชม. อิงตามสภาพผิวกายและจำนวนสเปรย์ด้วย
ซึ่งบางคนอาจจะน้อยกว่าที่ระบุก็เป็นได้ งส่วนตัวเจอที่ 6 ชม. กับจำนวนสเปรย์ 6 สเปรย์
การกระจาย -
กลิ่นกระจายดีในตอนต้น ก่อนจะลดลงมาเป็นออร่ารอบๆ ตัว แล้วค่อยเป็น Skin Scent ไปเรื่อยๆ
จนกว่าจะหายไปจากผิวตามความทนที่กล่าวไว้ข้างต้น
ทิ้งท้าย -
สิ่งที่เป็น Comment หลักเลย
คือ กลิ่นดีและหอมมากเชียว แต่ด้อยเรื่องความทน แต่มองอีกมุมกลิ่นนี้ก็ไม่ควรจะต้องมีรุ่น
Extreme หรือว่า Intense แล้ว
เพราะมันจะเกินคำว่า L’Eau ที่เน้นสดชื่นแน่ๆ เช่นนั้น
รักกลิ่นนี้ ก็พกไปเติมระหว่างวันน่าจะช่วยได้อยู่
หมายเหตุ:
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้
ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!!
ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ นอกเหนือจากนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้
ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว
ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ
ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ”
Photo Credit - Chanel
Website →https://www.chanel.com/us/fragrance/p/105510/n5-leau-eau-de-toilette-spray/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น