Carolina Herrera - CH Men Prive
ข้ามไปก็ข้ามมาจนมารู้สึกว่าไลน์นี้ไม่เคยได้ไปใช้ต้นตระกูล CH Men ของ Carolina Herrera แบบจังๆ ซะที และก็ยังข้ามต่อมาเรื่อยๆ จนมาเจอกับ CH Men Prive ที่ได้วางจำหน่ายเมื่อปี 2015 โดยได้แต่คิดแล้วก็สงสัยว่าทำไมรุ่นนี้คนชมกันจัง
มันดียังไง จนได้ลองและพิสูจน์แล้วผลที่ออกมาก็คือ
สมดังคำเล่าและเหมาะแล้วกับคำชมที่ได้รับ เพราะ
CH Men Prive เป็นอีกหนึ่งกลิ่นที่นำเสนอความเป็นโทนหนังเคล้าวิสกี้ได้ดีและกลมกล่อมในเนื้อกลิ่น
โดยมีส่วนเสริมที่ทำให้กลิ่นมีความเย้ายวนได้อย่างมีชั้นเชิงจากกลิ่นอายเครื่องเทศได้ลงตัว
ซึ่งเปิดที่ช่วงต้นจะมีเป็นช่วงที่ทุกอย่างพร้อมใจกันเปิดตัวไม่ว่าจะเป็นกลิ่นอายโทนวิสกี้และโทนหนังที่ติดครีมมี่ปนยางไม้หน่อยๆ
ที่ให้รับรู้ได้พอสมควร แต่ก็ยังไม่ชัดเท่ากับกลิ่นโทน Spicy ของเครื่องเทศไม่ว่าจะเป็นโทนเผ็ดปนหวานเย้ายวนของเม็ดกระวานที่ให้ความดึงดูดเย้ากันตั้งแต่ตอนแรก
ปนกับกลิ่นแนวๆสมุนไพรเจือพริกไทยบางๆ ซึ่งกลิ่นไม้ได้ออกทางเครื่องเทศจ๋าๆ
เกินไป ออกแนวล้อมกลิ่นหลักอย่างหนังและวิสกี้เสียมากกว่า
ที่สำคัญยังพอจับต้องได้ถึงกลิ่นอาย Citrus เจือเมทัลลิคนิดๆ
แนวๆ เกรปฟรุต ให้มิติกลิ่นที่ไม่ทื่อจนเกินไป ซึ่งถือว่าเปิดต้นทางมาก็สร้างกลิ่นอายที่มีความเท่ห์
อบอุ่น ดึงดูดแกมเร้าใจแบบนิ่งๆ ก็เอาอยู่ได้เต็มๆ
เมื่อกลิ่นอายของวิสกี้เริ่มจะขยับตัวขึ้นมาเป็นแกนนำหลัก
ก็ถือว่าเข้าสู่ช่วงกลางกันอย่างเต็มตัว เพียงแต่วิสกี้จะไม่ได้มาแบบใสๆ
ออกทางเหล้าจ๋าๆ นัก เพราะโทนหนังเจือครีมมี่นุ่มนวลอวลอบอุ่นเป็นตัวรองพื่้น
เสริมทัพด้วยการพาลาเวนเดอร์มาร่วมด้วยช่วยสนับสนุนทำให้กลิ่นออกทางวิสกี้อบอุ่นหนังนวลละมุนติดดาร์กหน่อยๆ
ปนสะอาดหวานนิดๆ ที่สำคัญเมื่อลาเวนเดอร์เจอกระวานและ Citrus สิ่งทำให้ได้โทนแบบติด Bad Boy
หน่อยๆ เสริมให้โทนหลักของกลิ่นคือวิสกี้และหนังมีความเท่ห์และน่าค้นหาปนกรุ้มกริ่มกำลังดีซ้อนเลเยอร์กับความอบอุ่นดึงดูดแบบมีระดับติดภูมิฐานนิดได้ลงตัว
ซึ่งถือเป็นไฮไลท์ที่ชัดเจนในการเป็นกลิ่นที่สร้างเสน่ห์ได้ดีมากจนเรียกว่าเกินคาดได้เลย
และลากยาวไปจนถึงช่วงท้ายที่โทนกลิ่นจะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่บ้าง
เพราะจะเป็นการให้กลิ่นหนังติดครีมมี่ปนอบอุ่นแบบไม่มีกลิ่นออกทาง Animalic
ขึ้นเป็นกลิ่นโทนหลักแทนวิสกี้ โดยตัวหลักสำคัญที่เสริมกลิ่นหนังให้มีอารมณ์กลิ่นต่างๆ
อย่างยางไม้กำยานจะมานวลๆ อบอุ่นค่อนไปทางวานิลลาเบาๆ ปนกลิ่นออกทางครีมมี่ติดแป้งบางๆ ของ Tonka Bean ที่ทำให้กลิ่นมีความอุ่นนัว Sexy นุ่มๆ แบบมีชั้นเชิงและไม่ได้ดูโฉ่งฉ่างแบบสายมาเพื่อฟาด
แต่เน้นน่าค้นหาและมาอยู่ใกล้ๆ ให้ได้กลิ่นที่อบอุ่นและนุ่มเย้ายวนแบบผู้ชายที่มี
Sex Appeal สูงมาก ชัดเจนกันตรงนี้ว่ารุ่นนี้เขามีดีจริงๆ
เหมาะสำหรับ -
ผู้ชายทุกเพศวัยทำงานขึ้นไปก็จัดได้สบายมาก กลิ่นมีความหรูหราและมีความอบอุ่นอวลดึงดูด
ซึ่งเข้ากับหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันแบบจำนวนสเปรย์เหมาะสม
จะสร้างเสน่ห์ทางกลิ่นโทนอบอุ่นเย้ายวนได้ดีมากโดยที่ยังคงความมีระดับและหรูหราให้รู้สึกไปตลอด
ซึ่งได้ทั้งทางการและทั่วๆ ไป แต่ให้ตัดการใส่เพื่อกิจกรรมกลางแจ้งและออกกำลังกายไปได้เลย
เดี๋ยวตีขึ้นจนมึนเอาเสียก่อน ส่วนยามค่ำคืน บอกเลยจัดไป
กลิ่นมาสายผู้ชายมาดเท่ห์ดึงดูดและสมาร์ทได้ชัดเจนมาก
แถมดูเซ็กซี่ติดกรุ้มกริ่มได้ดีมากเสียด้วย
ความทน -
อยู่ที่ 8 ชม.
เป็นพื้นฐานและมากกว่านั้นได้อีกด้วย เพราะส่วนตัวเจอไปที่ 12 ชม. กลิ่นยังคงทำหน้าที่ได้ดีอยู่เลย
การกระจาย -
กลิ่นกระจายดีในตอนต้น ก่อนจะลดลงไปที่กระจายปานกลางให้คนรอบตัวยังรับรู้ได้
และปิดท้ายที่ออร่ารุมๆ รอบตัวแบบยาวไปในช่วงท้าย
ทิ้งท้าย -
หลังจากที่ไม่ได้สนใจ Carolina Herrera เท่าไหร่นัก เพราะว่าน้ำหอมยุค 2010 ขึ้นไปของแบรนด์ไม่ค่อยมีอะไรที่แปลกใหม่และน่าสนใจนัก แต่ CH Men
Prive ทำให้รู้สึกได้เลยว่าคิดผิด เพราะฝีมือของแบรนด์นี้ยังไม่ตกแต่อย่างใด
หมายเหตุ:
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้
ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!!
ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ นอกเหนือจากนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้
ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว
ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ
ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ”
Photo Credit –
Fragrantica: https://www.fragrantica.com/perfume/Carolina-Herrera/CH-Men-Prive-31508.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น