วันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

Review: Chanel - Chance Parfum

Chanel - Chance Parfum

ถ้าพูดถึงกลิ่นอายสไตล์ Chanel ปิ๊งแว้บแรกก็ต้องเป็นกลิ่นแนว Chanel No 5 ที่มาแบบฟุ้งๆ Aldehydes เต็มๆ ที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน เพียงแต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยน เทรนด์กลิ่นก็เปลี่ยนไปด้วย
 การสร้างสรรค์กลิ่นอายใหม่ๆที่จะต้องตอบโจทย์ผู้ใช้งานสาวๆ ใน Generation อื่นๆ ก็เลยต้องมี แต่ยังต้องอยู่ในลักษณะที่คุม Concept สไตล์แบรนด์ได้อยู่เช่นเดิม เช่นนั้น Chanel Chance จึงได้เกิดขึ้นมา และทำหน้าที่ในการนำเสนอกลิ่นอายในอีกรูปแบบที่ประสบความสำเร็จอย่างมากและกวาดเอาผู้ใช้ใน Gen อื่นๆ เข้ามาหาแบรนด์แบบชิลล์ๆ กันเลยทีเดียว 

เปรียบเอาเข้าจริงๆ Chance เองก็เหมือนผู้หญิงในยุค 2000 เป็นต้นไปที่มีความทันสมัย พร้อมกับความหรูหรา มีระดับตามการเป็น Chanel ได้อย่างไม่ผิดเพี้ยน จนทำให้ออกมาหลายรุ่นในสายนี้เลยทีเดียว แน่นอนก็ได้รับความนิยมกันให้เต็มที่ แต่มีอยู่รุ่นหนึ่งที่มาแบบเงียบๆ แต่ก็มีดีที่การยืนอยู่จุดสูงสุดของความเข้มข้นแบบที่ให้ความชัดเจนเน้นๆ ซึ่งนั่นก็คือ Chance Parfum ที่มาในความเข้มข้นระดับ Pure Parfum กันเลยทีเดียว กับขนาดเดียว คือ 7.5 ml ที่ราคาคือๆ กับตัว EDP ปกติ แบบ 100 ml เลย เช่นนั้น เมื่อได้มาเจอกับ Chance ก็ขอข้ามช็อตมาที่ตัวเข้มสุดเลยดีกว่า ว่าจะออกมาในลักษณะไหน 

บอกก่อน - จะไม่ได้มีการเปรียบเทียบกับ Chanel Chance ในรุ่นปกติว่ากลิ่นแตกต่างหรือเข้มขึ้นขนาดไหน เพราะเนื่องจากผ่านการลอง Chance ต่างๆ มาผิวเผินมาก เลยขอมาเจาะที่รุ่น Parfum เพื่อถ่ายทอดกลิ่นออกมาแทนเน้นๆ 

เปิดตัวด้วยกลิ่นอายโทน Citrus ที่มีลูกเล่นของโทน Spicy ติดอะโรม่าของพริกไทยสีชมพู ที่มีกลิ่นโทนกุหลาบเจือเผ็ดนวลเจือฝาดอ่อนๆ คลออยู่ในนั้น เลยทำให้กลิ่นที่ได้รับจะมีความสดชื่นเจือหวานปนปร่าเผ็ดนวล และที่สำคัญโทนกลิ่นของมะลิติดแป้งนวลในช่วงกลางก็ค่อยๆ เปิดตัวออกมา แกมแอบมีกลิ่นพิมเสนหน่อยๆ ร่วมผสมผสานด้วย เลยทำให้ช่วงต้นจะชัดเจนมากับการเป็นน้ำหอมผู้หญิงสาย Modern ที่ให้อารมณ์สีออกทางสีส้มอมชมพูอ่อนๆ มีความหวานปนสดชื่นเจือมีเสน่ห์ดึงดูดแบบสว่างๆ และมีความชัดเจนของกลิ่นที่ผสมผสานมาเป็นอย่างดีตั้งแต่แรกเริ่มเลย

เมื่อกลิ่นโทน Citrus เริ่มเบาลง มาในระดับหนึ่ง โดยที่กลิ่นโทนกึ่งกุหลาบกึ่งเผ็ดนวลของพริกไทยสีชมพูยังคงอยู่ชัดเจน ก็ได้เวลาของการเปลี่ยนเป็นโทนแป้งหอมดอกไม้มากขึ้นซึ่งในช่วงนี้จะจับต้องได้ถึงกลิ่นมะลิผสมโทน White Musk ปนแป้งนวลที่มีอารมณ์คล้ากลิ่นดอกไอริส ผสานไปด้วยความอวลอุ่นหน่อยๆ ค่อนไปทางติดวานิลลา ซึ่งกลิ่นในช่วงนี้เรียกว่าเป็นช่วงแป้งคุมโทนทั้งหมดเลยก็ว่าได้ กลิ่นจะมีความหนาขึ้นในระดับหนึ่ง ความสดชื่นของ Citrus จะบางๆ ประปราย แต่พริกไทยสีชมพูเคล้าพิมเสนที่บางๆ จะยังคงให้อารมณ์ปร่าๆ ในความเป็นโทนแป้งอยู่แบบกำลังดี สร้างมิติกลิ่นให้ได้ได้ข้นเกินไปมาก ซึ่งช่วงนี้ถือว่าเป็นไฮไลท์ของตัว Parfum เลยก็ว่าได้ เพราะกลิ่นโทนแป้งดอกไม้ขาวกึ่งนวลกึ่งโปร่งหวานที่มีเสน่ห์แบบผู้หญิงทันสมัยไม่พอ ยังมีลักษณะติดผู้ดีกึ่งกรุยกรายเนียนๆ ตามสไตล์ของ Chanel ได้ไม่มีผิดเพี้ยน แล้วเมื่อผ่านไม่ซักระยะโทนกลิ่นเริ่มมีความนวลอุ่นขึ้นมาอีกหน่อย และมีความอวลมากขึ้นแต่ไม่ได้หนักมากให้ความกลางๆ ที่สมดุลย์ โดยผู้เล่นหลักในช่วงนี้จะเป็นวานิลลาสายแป้งอบอุ่นเป็นตัวเดินกลิ่น ซึ่งจะมีความก้ำกึ่งหน่อยๆ ที่ค่อนไปติดขนมเล็กๆ แต่เพราะมีโทน White Muskกับมะลิที่ยังมีอยู่ เลยจะไม่ได้ถึงกับหวานเลี่ยนขนมจ๋า รวมถึงยังมีกลิ่นไม้แห้งๆ ติด Earthy ของพิมเสนที่บางๆ ระเรื่อๆ มีเสน่ห์เข้ามาร่วมด้วย เลยเป็นความสมดุลย์ของกลิ่นที่ให้ความเป็นแป้งหอมมีเสน่ห์กำลังดี มีความอบอุ่นแต่ไม่หนักหน่วง ไล่เลเยอร์กลิ่นสมดุลย์มากจากช่วงต้นที่มีความสดชื่นเจือหวาน มาแป้งดอกมะลิหอมนวลปร่า และปิดท้ายด้วยความเป็นแป้งนวลอบอุ่นที่มีเสน่ห์ติดกรุยกรายเนียนๆ ครบเครื่องกันเลยทีเดียว 

เหมาะสำหรับ - ผู้หญิงทุกเพศวัยทำงานเป็นต้นไป เอาจริงๆ น้องๆ มหาลัยก็ใส่ได้อยู่ สร้างความเป็นผู้หญิงมั่นใจและมีเสน่ห์ที่วางตัวดีได้ ซึ่งสามารถใช้ได้ในหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันไม่ว่าจะทางการหรือทั่วๆ ไป กลิ่นค่อนข้างครอบคลุมการใช้งานยามกลางวันได้ดีมาก จะยกเว้นก็แต่การใส่เพื่อออกกำลังกายและกิจกรรมกลางแจ้งลุยๆ ที่ไม่ได้เข้าทางเท่าไหร่ และตัว Pure Parfum มันแพงนะ จะฉีดให้เปลืองทำไมกัน ส่วนยามค่ำคืนเข้าทางการใส่ออกงาน ดินเนอร์ ออกเดท ทั่วๆ ไปได้เลย ใส่ไปท่องราตรีแบบหรูๆ หน่อยก็ยังได้เลย 

ความทน - เป็น Pure Parfum ซึ่งเข้มข้นเต็มที่อยู่แล้วเช่นนั้น ความทนยาวไปจ้าที่ 15 ชม. สบายมาก อาบน้ำแล้วกลิ่นยังติดผิวอยู่เลย 

การกระจาย - การเป็น Pure Parfum มันจะมีลักษณะที่กลิ่นจมบ้าง เพราะตัวทำการกระจายของแอลกอฮอล์ไม่ได้เยอะเท่าพวก EDC - EDP แต่เน้นที่ความเข้มข้นสารหอมมากกว่า Chance Parfum เลยจะกระจายดีในช่วงต้น แล้วจะค่อยๆ ผ่อนลงมาที่ปานกลางซักพัก แล้วจะคงตัวที่ออร่ารอบๆ ตัวยาวไป พอพ้นซัก 12 ชม. ค่อนลดลงเป้น Skin Scent ตามลำดับ 

สรุป - Chance เป็นอีกหนึ่งทิศทางของ Chanel ที่เอาความเป็นลายเซ็นของแบรนด์ที่ออกทางติดแป้งกรุยกรายมาต่อยอดได้ดีโดยที่ไม่ต้องมี Aldehydes ฟุ้งๆ คมๆ มาเกี่ยวข้อง ที่สำคัญอันนี้ต้องยอมเขาล่ะ เพราะกลิ่นตัว Parfum มีความชัดเจนจริงๆ ในแต่ละช่วงกลิ่นที่สื่อสารความดีงามที่ควรจะเป็นตามขนบน้ำหอมผู้หญิงสายทันสมัย มีระดับ และหรูหราได้ครบเครื่องมากอีกหนึ่งกลิ่น ส่วนราคาและขนาด อันนี้ก็ตัวใครตัวเผือกเนาะ 

หมายเหตุ: 
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ นอกเหนือจากนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ

Photo Credithttps://www.chanel.com/us/fragrance/p/126050/chance-parfum/


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น