วันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

Review: Von Eusersdorff - Classic Vetiver

Von Eusersdorff - Classic Vetiver

Von Eusersdorff เป็นแบรนด์จาก USA ที่ชื่อแบรนด์มีความเป็นดัทช์กันอย่างชัดเจนมาก เพราะเจ้าของที่ชื่อเดียวกับแบรนด์เป็นผู้อพยพจากเดนมาร์กมายัง USA ในช่วงศตวรรษที่ 15 ซึ่งก็มาตั้งตัวกับการทำทำธุรกิจเกี่ยวกับความหอมเช่น Raw Materials หายากต่างๆ ในการทำน้ำหอม เครื่องเทศและสมุนไพรที่เกี่ยวกับความหอมแล้วค่อยๆ แผ่วลงไปตามการเวลา จนเมื่อปี 2010 ที่ผ่านมา จึงได้มีก
ารบุกเบิกขึ้นมาใหม่โดยสร้างเป็นแบรนด์น้ำหอมขึ้นมาโดยผู้สืบทอดของตระกูลอย่าง Camille Henfling-Von Eusersdorff ซึ่งก็ได้สร้างสรรค์ Collection - Classic ขึ้นมา 4 กลิ่นก่อน แล้วค่อยๆ มีออกมาเพิ่มเติมอีก 2 รุ่น ในปีต่อๆ มา 

เช่นนั้น มาเจอกับแบรนด์นี้ก็ต้องมาสัมผัสความ Classic กันหน่อย โดยขอมาที่กลิ่นอายสไตล์หญ้าแฝกของแบรนด์นี้กันหน่อยว่าจะมาในลักษณะแบบไหน 

เปิดต้นกลิ่นมาอย่างแรกเลย คือ คุ้นจัง และคุ้นมาก เพราะกลิ่นเปิดจะเป็น Citrus ติดแปร่งเปรี้ยวปนขม มีความเขียวหน่อยๆ กลิ่นคมแบบกำลังดี ไม่ได้บาดพุ่ง และมีความเป็นธรรมชาติในเนื้อกลิ่นพอสมควร โดยโทน Citrus จะเด่นชัดจัดเต็มเลยกับโทนเกรปฟรุต ที่ให้ความเปรี้ยวติดแปร่งสว่างๆ ในเนื้อกลิ่นเด่นออกมา แต่มีความหวานเจือขมปลายกลิ่นหน่อยๆ ที่ทำให้รู้สึกได้ว่าต้องมีโทน Citrus อย่างเลมอนอยู่ด้วย แต่สิ่งที่ค่อยๆ ตีคู่ออกมาทีละหน่อยอย่างหญ้าแฝกที่เป็นตัวเอกของน้ำหอมตัวนี้ จะค่อยๆ เนียนขึ้นมาแบบทีละหน่อยพร้อมกับเอาพรรคพวกต่างโทนอย่างพริกไทยที่ให้ความเผ็ดนุ่มสะอาดเสริมขึ้นมาด้วย โดยจะเป็นเสมือนฉากหลังให้กลิ่นโทน Citrus เป็นผู้เล่นหลักไปก่อน ซึ่งเพียงแค่นี้ก็ชี้ชัดได้ในระดับหนึ่งในความคุ้นได้เลยว่าเป็นกลิ่นอายที่คล้ายและใกล้เคียงความเป็น Terre d’Hermes มากเลยทีเดียว เพียงแต่กลิ่นไม่ได้คมเท่า

เมื่อโทนกลิ่นสาย Citrus เริ่มเบาลง และแตะมือเปลี่ยนตัวผู้เล่นหลักมาเป็นกลิ่นโทนเผ็ดนุ่มของพริกไทย เจือกลิ่นอายไม้หอมแห้งๆ มีความติดถั่วหน่อยๆ ของหญ้าแฝก ก็เป็นการเข้าสู่ช่วงกลางของน้ำหอมที่จะเป็นโทน Woody Spicy แบบโปร่งๆ ซึ่งพริกไทยจะให้ความเผ็ดปนสะอาด และหญ้าแฝกจะให้ความติดถั่วอ่อนๆ เขียวแต่เคล้าความเป็นโทนไม้แห้งๆ พอสมควร โดยที่กลิ่นอายโทน Citrus ช่วงต้นจะยังอยู่โดยเฉพาะเกรปฟรุตที่ให้ความเปรี้ยวติดแปร่งกำลังดี โดยที่จะมีกลิ่นโทนติดเขียวเจือเปรี้ยวกึ่งกุหลาบอ่อนๆ ซึ่งเป็นลักษณะของดอกเจอเรเนียมที่ทำให้กลิ่นในช่วงกลางมีมิติกลิ่นที่ส่งเสริมและสอดรับไปในทิศทางเดียวกัน ไล่เรียงจากความเป็นโทนเผ็ดนุ่มติดสดชื่นแห้งๆ มีความเขียว ไล่เรียงลงมาเป็นกลิ่นโทนไม้หอมเจือยางไม้หน่อย มีความติดเข้มแต่ไม่ได้ข้นหนามาก ซึ่งได้ความสะอาด สบาย สดชื่น ชัดเจน Cool สุภาพ และมีความหรูหรากำลังดีไปเรื่อยๆ จนเข้าสู่ช่วงท้าย ที่ผู้เล่นหลักจะเปลี่ยนตัวอีกครั้งกลายเป็นหญ้าแฝก ที่ให้ลักษณะติด Earthy หน่อยๆ มีความเป็นโทนไม้แห้งกำลังดี Smoky อ่อนๆ ซึ่งเนื้อกลิ่นจะมีกลิ่นอายไม้หอมโปร่งๆ มาตัดทอนอย่างไม้ซีดาร์ ทำให้กลิ่นไม่ลึกหรือดาร์กเกินไป ยังคุมโทนสว่างได้อยู่ แต่ก็ยังไม่วายมีกลิ่นอายติดดาร์กอ่อนๆ ที่มาสร้างความน่าค้นหาหน่อยๆ ในแบบกลิ่นอายพิมเสนที่มีความหวานเบาๆ ดาร์กบางๆ ให้ความ Earthy ติดดินๆ ซึ่งช่วงนี้กลิ่นโทน Citrus จะจางไปเสียเกือบหมดแล้ว เหลือเพียงความขมแบบติดเปลือกเกรปฟรุตหรือเลมอนหน่อยๆ ให้พอรู้สึกได้นิดหน่อย ทำให้ช่วงท้ายจะได้ความเป็นโทนไม้หอมแห้งๆ ที่กลางๆ ไม่สว่างไป ไม่ดาร์กไป มีความเย้ายวนเนียนๆ และความสุภาพที่ควบคู่กันไปได้ดีเลยทีเดียว และแน่นอนความเป็น Terre d’ Hermes ยังมีให้รู้สึกได้ตลอด เพียงแต่กลิ่นจะสว่างกว่าและเบากว่า โดยที่ยังคุมโทนความชัดเจนของกลิ่นได้ดีเสมอต้นเสมอปลายนั่นเอง 

เหมาะสำหรับ - กลิ่นตราไว้ว่า Unisex ซึ่งก็พอได้อยู่ แต่จะค่อนไปทางผู้ชายเสีย 80% ได้เลย ซึ่งถ้าผู้หญิงจะใช้ก็ไม่ได้ผิดอะไร แต่จะมีความ Cool ติด Smoky อ่อนๆ แมนๆ บอยๆ เสริมลุคก็เท่านั้นเอง ซึ่งสามารถใช้ได้ในทุกสถานการณ์ยามกลางวันเลย กวาดหมด ใช้เถอะยังไงก็รอดได้ดีมาก แถมเสริมความเรียบหรู สุภาพ ติด Cool สว่างๆ ได้ดีเชียว ส่วนยามค่ำคืนเน้นใส่แบบออกงานหรือทั่วๆ ไปจะดีกว่า เพราะแม้จะใส่ไปท่องราตรีได้ แต่อาจจะโดนกลบจากสายหวานแน่นทั้งหลายได้เลยล่ะ 

ความทน - ดีมาก เกินคาดเสียด้วย เพราะคิดว่ากลิ่นมาสายสว่างและไม่ได้เข้มมากอาจจะไม่ค่อยเอาดีทางนี้ แต่ที่ไหนได้ กลิ่นลากยาวไปที่ 15 ชม. ได้เลย ในการใช้ที่ 6 สเปรย์ ซึ่งถ้าเอาค่าเฉลี่ย ยังไงก็เกิน 8 ชม. ได้สบายมาก 

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีตอนต้น แต่ไม่คมเกินไป แล้วจะลดลงมากระจายปานกลางไปเรื่อยๆ ยาวๆ ไปจนถึงช่วงท้ายเลย พอพ้นไปซัก 8 ชม. ถึงจะเป็นออร่ารอบๆ ตัวยาวไป ซึ่งถือว่าทำได้ดีจริงๆ ในเรื่องนี้ 

สรุป - ให้คำจำกัดความสั้นๆ ได้ว่า มันคือ Terre d’Hermes แบบ Lite Version” ที่กลิ่นชัดเจนไปตลอดตั้งแต่ต้นยันจบ ทุกอย่างสมดุลย์ในการเป็นน้ำหอมโทนหญ้าแฝกที่สร้างออร่าสุภาพ สดชื่น และแอบน่าค้นหาเนียนๆ ได้อย่างลงตัว ซึ่งถ้าให้เรียงความเข้มก็สามารถเอามาวางเรียงกลิ่นอายจากเบาไปหนักได้แบบนี้เลย 

Von Eusersdorff - Classic Vetiver --> Terre d’Hermes --> Montale - Red Vetiver ซึ่งใครใคร่อันไหนก็จัดไป 

หมายเหตุ: 
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ นอกเหนือจากนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ

Photo Credithttps://cigarmust.com/it/profumi/1107-von-eusersdorff-classic-vetiver.html



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น