Jo Malone - Lime Basil & Mandarin
จากที่เห็นใน List - Best Seller จากแบรนด์ Jo
Malone ของในไทยและในหลายๆ ประเทศ มักจะเห็น Lime Basil
& Mandarin เป็นหนึ่งในนั้น ซึ่งเมื่อค้นหาข้อมูลจนเห็นปีที่วางจำหน่ายคือ 1999
ก็ใช่เลยรุ่นนี้ Jo Malone ลงมือปรุงเอง
เช่นนั้น ได้โอกาสก็ต้องลองและซึมซับกลิ่นอายสาย Citrus Aromatic กันจนเต็มที่
ก็สามารถเล่าออกมาได้แบบนี้เลย
อะโรม่าและกลิ่นอายสไตล์
Traditional Cologne แนวสดชื่นกึ่ง
Classic เป็นหัวใจหลักของน้ำหอมกลิ่นนี้ ซึ่งความเป็น Lime
(มะนาว) กับ Mandarin (ส้มแมนดาริน)
จะมาเพียงช่วงต้นที่สร้างกลิ่นอายอะโรม่าเปรี้ยวสดชื่นกันเต็มๆ
ในช่วงแรก โดยเลเยอร์กลิ่นในช่วงต้นมีความน่าสนใจมากเพราะความเป็น Citrus
ที่แม้ใกล้เคียงกันเรื่องความเปรี้ยว แต่มันมีความต่างให้จมูกทำงานได้ดีพอสมควร
โดยจะได้กลิ่นมะนาวเปรี้ยวมาในวูบแรกต่อเนื่องด้วยโทนเปรี้ยวติดขมปร่าของมะกรูดฝรั่ง
(Bergamot) ตามด้วยกลิ่นติดหวานอมเปรี้ยวปลายๆ
กลิ่นกึ่งชื้นๆ หน่อยของส้มที่ไม่ได้ฉ่ำเกินไป ยัง ยังไม่พอเพราะกลิ่นไม่ได้มีแค่นี้
เพราะตัวเอกอีกตัวอย่างโหระพา (Basil) ก็จะเป็นอีกหนึ่งโทนที่เข้ามาร่วมด้วยในสาย
Herbal สมุนไพรที่มีกลิ่นโทนเขียวปร่านวลเคล้ากับกลิ่นของ
Thyme ที่จะให้ความเป็นโทนเขียวอวลปร่าติดโทนหนังชื้นหน่อยๆ
ทำให้ช่วงต้นมันคือการแบ่งเค้กกันแบบ 70:30 ระหว่าง Citrus:Herbal
โดยให้เลเยอร์การรับกลิ่นที่มีมิติเรียงกันไปจากสดชื่นสู่เขียวติดนวลตุ่นหน่อยๆ
ที่มีความเป็นธรรมชาติเลยทีเดียว
เมื่อโทน Citrus ที่สดชื่นในตอนต้นเริ่มที่จะมีความแห้งมากขึ้นตามลำดับและไม่นานก็เปลี่ยนเข้าสู่ช่วงกลางของน้ำหอมที่คราวนี้โหระพาจะกลายเป็นตัวเด่นแล้ว
ซึ่งยังคงให้ความอะโรม่าเขียวปร่านวลกำลังดีโดยที่ Thyme ก็ยังอยู่เพียงแต่จะลดความตุ่นลงมาเป็นโทนสมุนไพรเคล้า Citrus สดชื่นอยู่ประปรายแต่จะมีกลิ่นโทนสายดอกไม้ติดชื้นๆ
หวานเบาๆ ปนสะอาด ปนกลิ่น Airy แบบแป้งบางๆ
เข้ามาสมทบแต่ก็เป็นโทนเบาๆ สร้างมิติกลิ่นให้มีอะไรมากกว่าสมุนไพรสดชื่นเพียวๆ
เพราะให้อารมณ์สะอาดสบายๆ กำลังดี จนเริ่มจับต้องได้ถึงโทนกลิ่นสไตล์ Classic จาก 3 ประสานอย่าง
พิมเสน หญ้าแฝก และกลิ่นแนวๆ Moss เบาๆ
ซึ่งกลิ่นจะมีความขมติดเขียวปนกลิ่นอาย Earthy แบบโทนกลิ่นติดดินหน่อยๆ
แต่ยังมีความปร่าๆ สดชื่นสไตล์สมุนไพรกึ่งโทนสะอาดคลอไปอยู่ด้วย
ซึ่งเป็นกลิ่นสไตล์สดชื่น Classic ที่มีความเรียบหรูมีระดับและเหนือกาลเวลาแบบที่ให้อารมณ์ผู้ดีอังกฤษมาเลยทีเดียว
ที่สำคัญจากต้นสู่ปลาย กลิ่นคุมโทนความอะโรม่าได้ดีตลอดจริงๆ
เหมาะสำหรับ -
ทุกเพศเลย เพราะ Unsiex ขั้นสุด
กลิ่นมาสายอะโรม่ากันอย่างชัดเจน ก่อนปิดท้ายด้วยการเป็นกลิ่นอายสายผู้ดีติด
Classic ที่เข้าได้หมดทั้งหญิงและชายตั้งแต่มหาลัยเป็นต้นไปก็ใช้งานได้สบายมาก
ซึ่งตอบโจทย์หมดในการใช้งานยามกลางวันแบบครอบจักรวาล ใครใคร่ใส่ ก็ใส่ได้เลย
แต่จะมีช่วงกลางคืนที่จะไม่ได้เข้าทางกับการใช้งานเพื่อท่องราตรี
เพราะกลิ่นไม่ได้หนัก โดนชาวบ้านกลบมิดแน่นอน
ความทน -
เกินคาด เพราะมาในสาย Citrus กับสมุนไพรสไตล์อะโรม่าที่กลิ่นมักไม่ได้อยู่กับเราได้นานเท่าไหร่
“แต่” กลับกลายเป็นตัวนี้ทำได้ดีมากในเรื่องความทนเพราะ
8 ชม. แล้วกลิ่นยังคงมีอยู่ ลามไปจนถึง 12 ชม. เลยด้วยซ้ำถ้าจำนวนสเปรย์เหมาะสม
การกระจาย -
กลิ่นกระจายดีในช่วงแรก อาจจะมีความเปรี้ยวติดตุ่นสมุนไพรเจือกลิ่นอายคล้ายหนังซักครู่
แล้วที่เหลือคือความอะโรม่ากับเรียบหรูคลาสสิคยาวๆ ไปแบบเน้นออร่ารอบๆ ตัว
เมื่อพ้น 6-8 ชม. แล้วก็ยิงยาว Skin
Scent
สรุป -
เป็นสายอะโรม่ากันแบบเต็มๆ และคาบเกี่ยวความคลาสสิคแบบผู้ดีอังกฤษได้ดีมาก
กลิ่นอาจจะไม่ได้ทันสมัยเว่อร์ๆ อะไรนัก แต่เรื่องความเหนือกาลเวลาอันนี้ต้องยกให้เขาล่ะ
เพราะทำได้ดีมากจริงๆ
หมายเหตุ:
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้
ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!!
ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ นอกเหนือจากนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้
ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว
ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ
ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ”
Photo Credit - https://cf.shopee.co.th/file/4bc91b460124e0936e75ebaebb549ce5
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น