วันศุกร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

Review: DI SER - Akanesasu

DI SER - Akanesasu

เมื่อได้เห็นชื่อรุ่นของ DI SER อย่าง Akanesasu เป็นครั้งแรก คำว่า ดินแดนอาทิตย์อุทัยก็เด้งขึ้นมาเลย เพราะเมื่อรวมเอาคำว่า Akane และ Sasu เข้าด้วยกัน จะแปลออกมาได้เลยว่า แสงอาทิตย์ส่องประกายซึ่งเพียงแค่นี้ก็ทำให้เกิดความน่าสนใจอย่างมากเลยทีเดียวกับกลิ่นอายที่สื่อสารถึงช่วงเวลาที่แสงอาทิตย์ส่องประกายแรกสุดบนท้องฟ้าในสไตล์แบบญี่ปุ่น เพราะดวงอาทิตย์ถือเป็น 1 ในสิ่งที่มีความผูกพันทางด้านความเชื่อและวัฒนธรรมของญี่ปุ่นเลยทีเดียว เช่นนั้น ก็ต้องลองกันหน่อยว่ากลิ่นอายจะเป็นธรรมชาติและส่องประกายอย่างไรบ้าง 

Akanesasu จะเป็นตัวด้วยกลิ่นอายที่สดชื่นของบรรยากาศในลักษณะยามเช้าที่แสงแดดเริ่มส่องประกายชัดเจนมาก โดยการนำเอากลิ่นอายโทนสดชื่นติดสว่างอย่างส้มเป็นตัวชูโรง ซึ่งกลิ่นส้มจะมาแบบติดเปรี้ยวสดชื่น ไม่ถึงกับฉ่ำหรือแห้งเกินไป และมีโทนสดชื่นติด Spicy ขมปนเขียวหน่อยๆ ของมะกรูดฝรั่ง (Bergamot) เข้ามาเสริมโทนสร้างบรรยากาศติดเย็นๆ สดชื่นตอนเช้าได้อย่างชัดเจนมาก กลิ่นจะมีความเป็นธรรมชาติมากในการสื่อสารความรู้สึก เพราะทำให้ได้บรรยากาศกลิ่นอายตอนเช้ามืดและแสงอาทิตย์ที่สร้างความรื่นรมย์ยามเช้าได้เป็นอย่างดีมาก เพียงแค่แรกฉีดเลยทีเดียว 

ความสดชื่นของกลิ่นส้มจะยังไม่ได้ไปไหน ยังอยู่ยาวไปต่อที่ช่วงกลางที่จะมีกลิ่นมะลิเข้ามาเสริมแบบเบาๆ สบายๆ ทำให้เป็นช่วงที่เป็นส้มเจือมะลิที่ให้ความเป็นสีออกทางท้องฟ้าที่เมฆต้องแสงอาทิตย์แล้วมีมีออกทางส้มเจือครีมนวลมากขึ้น มีการพัฒนาเป็นไปตามช่วงเวลาจากเช้าตรู่มาสู่ช่วงเช้าที่แสงแดดเจิดจ้ามากขึ้น กลิ่นจะไม่ได้ซับซ้อนแต่อย่างใดมีความเรียบง่ายที่เป็นธรรมชาติแบบไม่ต้องเยอะสิ่งแบบมินิมัลเลย แบบท้องฟ้าก้นเมฆและบรรยากาศช่วงนั้นเป็นอย่างไร ถอดออกมาได้หมดแบบไม่ต้องใส่ทุกสิ่งทุกอย่างให้ดูเว่อร์วังและพยายามแต่อย่างใด ซึ่งกลิ่นจะดำเนินไปซักระยะจนเมื่อโทน Citrus เริ่มเบาบาง กลิ่นมะลิจะไปเจอกับหญ้าแฝกที่สะอาดๆ เรียบๆ อารมณ์ไม้แห้งๆ สะอาดๆ สว่าง และเป็นโทนเบาๆ Airy แบบบรรยากาศเวลาแดดต้องกลิ่นไม้อ่อนๆ บางๆ ให้เราได้รับรู้เวลาเดินผ่าน ซึ่งแน่นอนยังคุมโทนความเรียบง่ายเรื่อยๆ มาเรียงๆ อย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่มีความซับซ้อนแต่อย่างใด มีความตรงไปตรงมาที่เรียบง่ายและงดงาม 

เหมาะสำหรับ - ทุกเพศเลย ใช้ได้ทุกวัย (ยกเว้นเด็กน้อยมากๆ) เพราะกลิ่นสร้างโทนบรรยากาศที่เข้าถึงได้ง่ายไม่พอ ยังมีความเป็นธรรมชาติที่เรียบง่ายแต่สร้างความสุขในการได้รับกลิ่นได้ไม่ยากอีกด้วย ซึ่งกวาดหมดในทุกๆ สถานการณ์ยามกลางวัน แม้กระทั่งใส่ออกกำลังกายยังได้เลย (ถ้าไม่กลัวเปลือง) ส่วนยามค่ำคืนเน้นใส่เพื่อสร้างอะโรม่าความสดชื่นเวลาอากศร้อนๆ จะดีมาก แต่ตัดทิ้งการใส่เพื่อไปท่องราตรีได้เลย หายแซ่บหายสอยโดนกลบมิดแน่นอน 

ความทน - เพราะคุณภาพกลิ่นที่ยอดเยี่ยมและเป็นสาย Natural Perfumery ต้องทำใจก่อนเลยว่าจะไม่ทนมากแม้จะความเข้มข้นระดับ Eau de Parfum ก็ตาม ซึ่งจากที่ได้ใช้จริงอยู่ระหว่าง 2 - 3 ชม. เป็นสำคัญ อาจจะมีไปตะ 4 ชม. ได้บ้างเวลาอยู่ในห้องแอร์ตลอด ก็ว่ากันตามสภาพอากาศด้วยส่วนหนึ่ง 

การกระจาย - กลิ่นกระจายปานกลางในตอนต้น เรียกว่าให้ความผ่อนคลายกับตัวเองหรือคนที่อยู่ใกล้ๆ เราเป็นหลัก แล้วจะลดลงเรื่อยๆ มาที่ออร่ารอบๆ ตัว แล้ว Skin Scent จนจางไปตามเวลาในที่สุด 

สรุป - Sunrise in the Bottle ได้เลย เพราะเป็นกลิ่นยามเช้าอากาศเย็นๆ ที่สื่อสารทางกลิ่น โดยให้ภาพไล่เรียงความเป็นแสงแดดส่องประกายตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่ --> เช้า --> เช้าค่อนไปแตะยามสาย ได้ธรรมชาติและดีงามมากจริง 

หมายเหตุ: 

1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ นอกเหนือจากนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ

Photo Credit - https://www.gents.com/di-ser-akanesasu-parfum-33-ml

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น