Yves Rocher - Moment de Bonheur
นอกจาก Collection - Comme une Evidence รวมถึงกลิ่นอายสายเบาเข้าถึงง่ายอย่างโซน Naturelle
ที่ได้รับความนิยมมากและสม่ำเสมอจนถึงปัจจุบันของแบรนด์ Yves Rocher ก็ยังมีอีก Collection
ที่มาตีตลาดสายกลิ่นอายเรียบหรูเป็นธรรมชาติและเข้าถึงง่ายมหาชนชอบอย่าง Moment de Bonheur ที่แม้จะมีเพียง
2 รุ่น แต่ก็เป็นอีกสายน้ำหอมที่ได้รับความนิยมไม่ต่างจากสายอื่นเลย
จากที่ผ่านมา
ได้มีการเล่ากลิ่นตัว Flanker ของ
Collection นี้ไปแล้วอย่าง Moment de Bonheur L’Eau สบโอกาสก็ขอมาเจอกับตัวต้นตระกูลของ Collection นี้กันซะหน่อย จากที่เห็นคนเอื้อนเอ่ยอ้างกันว่ากลิ่นมันเป็น Chloe
โบว์ครีมกันนักต่อหนัก เช่นนั้น ก็ต้องพิสูจน์ว่าจะเป็นอย่างไร
จะได้ฟันธงหรือหักธงก็ว่ากันตามนี้
Moment de Bonheur จะมีตัวเอกหลักของน้ำหอมเลยคือ กุหลาบ ที่จะไม่ใช่กุหลายสาย Classic
แบบกุหลาบแดงแห้งจัดเต็มฟุ้งกระจายแบบปลูกกุหลาบแดงไว้เพื่อเธอ
9,999 ดอกแต่อย่างใด แต่จะเน้นที่ความเป็นกุหลาบสดชื่นและมีความเป็นธรรมชาติแบบเรื่อยๆ
มาเรียงๆ เรียบหรูเสียมาก ซึ่งจะเปิดตัวที่ความเป็นโทนเขียวเคล้ากลิ่นกุหลาบแบบอ่อนๆ
ที่มีลูกเล่นที่สร้างความเป็นธรรมชาติในเนื้อกลิ่นด้วยกลิ่นแบบฉ่ำน้ำค้างกันก่อน
อารมณ์แบบเราเดินเข้าไปในสวนที่เปียกฉ่ำน้ำ และมีกลิ่นเขียวๆ ติดเมือกอ่อนๆ
แบบเวลาเราหักกิ่งไม้หรือก้านใบเขียวๆ หรือขยี้ใบไม้ที่เปียกๆ
แล้วจะมีกลิ่นเขียวติดฉ่ำแบบนี้ออกมา เคล้ากับกลิ่นแบบน้ำลอยเกสรกุหลาบกึ่งติดเลมอนซึ่งจะผสมผสานประปรายอยู่ในเนื้อกลิ่น
ซึ่งบอกเลยว่ากลิ่นแบบนี้สามารถตกเอาคนที่ชอบโทน Fresh Floral หรือกลิ่นดอกไม้สดชื่นได้เลยในครั้งแรกที่ดมได้เลยโดยไม่ต้องรอช่วงไหน
และเสียเงินซื้อกันได้เลย เพราะกลิ่นช่วงต้นทำออกมาได้ดีมากจริงๆ ในการสร้างภาพและโทนกลิ่นที่สื่อถึงสภาพแวดล้อมได้ดีและเป็นธรรมชาติ
จนเมื่อกลิ่นโทนเขียวค่อยๆ
ลดบทบาทของตัวเองลงมา คราวนี้ก็เป็นช่วงเวลาของกุหลาบที่จะเป็นตัวเดินกลิ่นหลักในช่วงกลางแล้ว
ซึ่งจะมีกลิ่นแนวๆ สารหอมอย่าง Helional ที่สร้างอะโรม่ากลิ่นโทนฉ่ำน้ำติดเขียวปนดอกไม้อ่อนๆ
มาเป็นลูกคู่พร้อมกับกลิ่นติดเขียวปนปร่าบางๆ อ่อนๆ
ปนกุหลาบติดสดชื่นของเจอราเนียมที่เป็นตัวช่วยทำให้กลิ่นกุหลาบมีความชัดเจนยิ่งขึ้นกับการสร้างออร่าเป็นกลิ่นกุหลาบสดชื่นและรื่นรมย์แบบไม่ซับซ้อนที่มีความโรแมนติคปนสดชื่นได้ดี
โดยไม่หนักหน่วง ไม่จัดหนัก และไม่ได้เน้นปล่อยพลัง ได้ความเบาๆ เรื่อยๆ
มีระดับยาวไปเรื่อยๆ จนเมื่อกลิ่นเริ่มมีความเป็นไม้หอมโปร่งอ่อนๆ
เสริมโทนกุหลาบเข้ามา ก็เปลี่ยนเข้าสู่ช่วงท้ายที่จะเป็นกุหลาบเบาๆ
เคล้ากลิ่นไม้หอมโปร่งสะอาดในโทนสว่าง ในเนื้อกลิ่นมีโทน Musky บางๆ ให้ความนวลสะอาดอ่อนๆ เคล้ากับกลิ่นพิมเสนที่โดนเกลากลิ่นจนเหลือแต่เพียงกลิ่นโปร่งหวานบางๆ
สร้างมิติความหอมที่ดึงดูดแบบเรียบง่ายและเป็นธรรมชาติ โดยที่ยังคงเดิมกับการไม่ปล่อยพลังแต่อย่างใด
มีลักษณะเป็นสไตล์ Whispering Scent ที่ให้ความเบาๆ แต่มีระดับและเรียบหรู สร้างอารมณ์ผ่อนคลายและมีความสุขในทีไปเรื่อยๆ
กับชื่อรุ่นที่แปลออกมาได้ว่า “ช่วงเวลาแห่งความสุข”
นั่นเอง
เหมาะสำหรับ -
ผู้หญิงทุกเพศวัยเรียน ม.ปลาย ขึ้นไปก็สามารถใช้งานตัวนี้ได้สบายมาก
กลิ่นไม่ได้มาสายจัดเต็มปล่อยพลัง แต่สร้างลักษณะแบบธรรมชาติ
อ่อนโยนและโรแมนติคได้ดีในพื้นฐานของการเป็นกลิ่นกุหลาบสดชื่นรื่นรมย์เป็นสำคัญ
ซึ่งสามารถใช้ได้ทุกสถานการณ์ยามกลางวันเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะทางการหรือทั่วๆ
ไป เพราะเป็นอีกหนึ่งกลิ่นที่ยังไงก็รอดตามสไตล์ #ของดีเทคนิคไม่ต้องได้เลยทีเดียว
ขนาดช่วงออกกำลังกายยังใส่ได้เลย เพราะมันมีโทนเขียวๆ สดชื่นอยู่
เพียงแต่ออร่ามันไม่ได้ไปสาย Sport อะไร รอช่วงท้ายๆ
ของกลิ่นแล้วค่อยออกกำลังกายจะดีกว่า ส่วนยามค่ำคืน เน้นใส่แบบสบายๆ โรแมนติค
เรื่อยๆ หรือออกงานแบบสุภาพๆ จะดีที่สุด เพราะไม่เข้าทางกับการท่องราตรีปล่อยเสน่ห์แต่อย่างใด
ส่วนคุณผู้ชาย เอาจริงๆ แม้จะกลิ่นนี้จะเป็นของผู้หญิง
แต่ผู้ชายที่ชอบกลิ่นกุหลาบเป็นทุนเดิมสามารถใช้ได้สบายมาก
เพราะว่ากลิ่นมันเป็นธรรมชาติและไม่ได้มาสายกระจายมากนัก
เช่นนั้นใส่เพื่อความเป็นผู้ชายโรแมนติคเองก็ย่อมได้
ความทน -
เฉลี่ยอยู่ที่ 6 ชม. เป็นสำคัญ
อาจจะมีมากหรือน้อยกว่านี้ก็อิงตามจำนวนสเปรย์และสภาพผิวกายด้วยส่วนหนึ่ง
โดยส่วนตัวกับการใช้ที่ 6 สเปรย์ อยู่ได้ถึงราวๆ 8 ชม.
การกระจาย -
กลิ่นกระจายปานกลางในเบื้องต้น และค่อนข้างคงตัวไปเรื่อยๆ จนถึงช่วงกลาง
แล้วจึงค่อยๆ ผ่อนลงเป็นออร่ากลิ่นกุหลาบสดชื่นรอบๆ ตัว พอเข้าช่วงท้ายก็ Skin Scent แบบเต็มๆ
สรุป -
ถ้าต้องเอาไปเทียบกับ Chloe EDP โบว์ครีม มันก็มีความคล้ายอยู่ในความเป็นโทนกุหลาบสดชื่นอยู่
ซึ่งอันนี้ไม่เถียง แต่ถ้าดมเข้าไปลึกๆ Moment de Bonheur จะไปสายกุหลาบปนเขียวติดฉ่ำที่สร้างออร่าแบบกลิ่นที่ให้ความเรียบหรูติดโรแมนติคตามธรรมชาติมากกว่า
โดยไม่เน้นเรื่องการปล่อยพลังทางกลิ่นสไตล์ Whispering Scent แต่กับ Chloe EDP จะเน้นไปสาย Modern ที่เป็นโทนกุหลาบที่มีความชัดเจนในกลิ่น โดยมีโทนวานิลลาและลิ้นจี่ที่สร้างความเป็นผู้หญิงที่มั่นใจก็ได้
อ่อนโยนน่ารักก็ดี โรแมนติคก็ได้ และหรูหรามีระดับก็สามารถ
แต่ไม่ได้มีโทนที่สร้างความรู้สึกแบบกลิ่นอายสภาพแวดล้อมเขียวฉ่ำสดชื่น
ซึ่งแน่นอนการปล่อยพลังทางกลิ่นชัดเจนกว่า เพราะเป็น Sillage Scent เรียกว่าอยู่ที่ความชอบของการใช้งานและการสื่อสารบุคลิกภาพผ่านกลิ่นเป็นหลักเสียมากว่าผู้ใช้น้ำหอมจะชอบสไตล์ไหนและอยากสื่อสารกลิ่นแบบนี้ออกมาอย่างไง
เพราะไม่มีตัวไหนที่ดีกว่าหรือด้อยกว่า “แต่มีดีคนละอย่างเสียมากกว่าต่างหาก”
หมายเหตุ:
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้
ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!!
ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ นอกเหนือจากนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้
ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว
ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ
ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ”
Photo Credit - https://shopee.com.my/Yves-Rocher-Moment-De-Bonheur-Eau-De-Parfum-(50ml)-i.72318240.1312790862
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น