วันอังคารที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2563

Review: Diesel - Only the Brave Street


Diesel - Only the Brave Street

ห่างหายจากขวดรูปทรงกำปั้นของแบรนด์ Diesel มานานมากเลยทีเดียว ซึ่งถ้านับดูจริงๆ แล้วก็ไม่ได้มีโอกาสลองทุกตัวของสายนี้เท่าไหร่นัก นอกจากรุ่นต้นตระกูล ตามด้วย Wild และ Tattoo เพราะสายนี้ออกมากันถี่ๆ มากจนขอหมอบยาวๆ และเมื่อได้มีโอกาสกลับมาชะเง้อชำเลืองมองว่ามีอะไรมาใหม่บ้างของรุ่นนี้ ก็สะดุดตากับขวดกำปั้นสีปูนเปลือยที่ชื่อรุ่นลงท้ายด้วยคำว่า Street ไม่น้อย เพราะมีความ Hip Hop อย่างบอกไม่ถูก และก็เป็นไปตามคาด เพราะ

Only the Brave Street มีแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์กลิ่นมาจากวัฒนธรรม Hip Hop ที่เป็นสาย Street Dance ซึ่งในเมื่อมาสายนี้ ก็ต้องลองกันหน่อยแล้วว่าความเป็น Hip Hop ผ่านกลิ่นที่แบรนด์นำเสนอนั้นจะเป็นอย่างไร

Top Notes ถือเป็นการเปิดตัวแบบที่มีลักษณะกลิ่นออกทาง Bad Boy ปนอบอวลค่อนข้างชัด ซึ่งจะเป็นการผสมผสานกลิ่นโทนมะกรูดฝรั่ง (Bergamot) และสายเครื่องเทศอวลปร่าเผ็ดเย้าอย่างกระวานที่ค่อนข้างชัดมาตั้งแต่เริ่มต้น เพียงแต่กลิ่นจะไม่ได้อวลจัดเกินไปและไม่ได้เป็น Bad Boy จ๋าๆ นัก (ซึ่งถ้ามีลาเวนเดอร์มาร่วมด้วย จะกลายเป็นโทน Bad Boy จัดเต็มแน่ๆ) เลยทำให้กลิ่นค่อนข้างอวลแบบกำลังดีมีความแมนเย้า แถมด้วยการแทคทีมของกลิ่นนวลปร่าอ่อนๆ ของโหระพาและกลิ่นโทน Fruity ติดเปรี้ยวนิดๆ ของแอปเปิ้ลเขียว เลยทำให้กลิ่นมีลูกผสมกึ่งกลางระหว่าง Bad Boy ก็ได้ จะเท่ห์แมนอวลๆ ติดหวานปลายกลิ่นก็ดี ซึ่งก็ได้อารมณ์แบบผู้ชายสาStreet Hip Hop ที่ดูแลตัวเองและมีความ Cool และกลิ่นเปิดมีความทันสมัยแบบน้ำหอมยุคใหม่แนวๆ เดียวกับพวก Azzaro Wanted หรือ Paco Rabanne Invictus Intense อยู่พอสมควร

เพียงไม่นานกลิ่นอายความอวลจะเริ่มเบาลง แต่จะมีกลิ่นไม้หอมติดสมุนไพรเจือหวานเสริมเข้ามาเรื่อยๆ จนจับกลิ่นได้เลยว่าเป็นกลิ่นชะเอม ก็จะเป็นการเข้าสู่ Middle Notes ซึ่งกลิ่นจะผสมผสานกับโทนกลิ่นในช่วงต้นทำให้ได้โทนกลิ่นเป็นโทนไม้หอมเจืออวลเครื่องเทศกำลังดี มีความหวานเครื่องเทศเคล้าเนื้อไม้ตามลักษณะของชะเอมแบบที่มีกลิ่นกระวานเป็นตัวรับลูกพร้อมกับกลิ่นในช่วงต้นที่ยังตามมาในช่วงนี้ ซึ่งทำให้กลิ่นยังคุมโทนกลิ่นแบบแมนๆ อวลๆ ติดเท่ห์ที่เบาลงมา แต่มีความหวานติดปลายกลิ่นที่ชัดขึ้น โดยที่ไม่ได้หนักหน่วงหรือคมบาดแต่อย่างใด และเพียงไม่นานจะเริ่มจับต้องความอบอุ่นของโทนวานิลลาที่เนียนแทรกเข้ามาตามลำดับ กลิ่นในช่วงนี้เลยจะแบ่งภาคกันพอสมควรเพราะจะได้ทั้งโทนสมุนไพรแบบไม้หอมเครื่องเทศหวานเย้าเคล้ากลิ่นวานิลลาเนียนๆ ซึ่งถือว่าเป็นไฮไลท์กลิ่นเลยก็ว่าได้ เพราะมันจะไม่ใช่ Bad Boy จ๋าๆ แล้ว แต่จะเป็นโทนกลิ่นอวลมีเสน่ห์ติดเท่ห์ที่มีความคูลเจือหวานเฉพาะตัวจนเมื่อเริ่มสัมผัสถึงกลิ่นไม้หอมโปร่งขรึมๆ ปนไม้แห้งๆ ที่มาจา่กไม้ซีดาร์และหญ้าแฝก สถานะช่วงของกลิ่นเลยเปลี่ยนแปลงเป็น Base Note ที่จะเป็นช่วงไม้หอมเด่นคลอด้วยวานิลลาที่ติดอวลอุ่นกำลังดี และยังคงเสริมโทนด้วยกลิ่นนวลหวานปลายกลิ่นออกทางเครื่องเทศที่เหลือเพียงเบาบางและประปราย กลิ่นจะได้ความอวลอุ่นอ่อนๆ สบายๆ เรื่อยๆ ลุค Cool อยู่เช่นเดิมตั้งแต่ต้นยันปลาย ซึ่งแน่นอนว่าภาพรวมของกลิ่นถือว่าสื่อสารความเป็นโทนสาย Hip Hop ที่ไม่ได้ดูทะมึนมากเกินไป มีความโปร่งมากพอเข้ากับสไตล์แบบ Street Hip Hop ในที่แจ้งได้ดีเลยทีเดียว

เหมาะสำหรับ - ผู้ชายทุกเพศวัยเรียน ม.ปลาย ขึ้นไปก็ใช้ตัวนี้ได้สบายมาก เพราะกลิ่นมาสายทันสมัย เข้าทางแมนๆ มีความ Hip Hop ที่ไม่หนักหน่วง ยิ่งถ้าใครพื้นเพเป็นสาย Hip Hop อยู่เดิม ใส่ตัวนี้เสริมออร่า Hip Hop ได้เลย ซึ่งกลิ่นจะเข้ากับหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันแบบทั่วไป ซึ่งเอาจริงๆ ก็ใส่ทางการได้อยู่ แต่กะจำนวนสเปรย์ให้เหมาะสมจะดีที่สุด รวมถึงสามารถใส่ออกกิจกรรมกลางแจ้งหรือออกกำลังกาย (ที่รอช่วงท้ายๆ จะดีกว่า) ได้ด้วย ตลอดจนสามารถใช้ยามค่ำคืนที่เพิ่มจำนวนสเปรย์หน่อยก็ออกลุยได้แล้ว เรียกว่าครอบจักรวาลพอสมควร เพียงแต่ไม่ได้ทางการจ๋าๆ นักก็เท่านั้นเอง

ความทน - อยู่ที่ประมาณ 6 - 8 ชม. อิงตามจำนวนสเปรย์และสภาพผิวกายผู้ใช้ด้วยส่วนหนึ่ง โดยส่วนตัวเจอที่ีราวๆ 10 ชม. ได้เลย กับการใช้ที่ 6 สเปรย์

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีมากในช่วงต้น เปิดมาด้วยความอบอวลกันอย่างแท้ทรู แต่พอเข้าช่วงกลางจะลดทอนลงมาปานกลางไวหน่อย ก่อนค่อยๆ ผ่อนลงไปที่ออร่ารอบๆ ตัว พอพ้นซัก 6 ชม. ก็เริ่มเข้าโซน Skin Scent กันยาวๆ ไป

สรุป - ต้องบอกว่ากลิ่นช่วงเปิดอาจจะจำเจและไม่หวือหวานัก เพราะกลิ่นอายสายแมนๆ ในช่วงปลายยุค 2010 มักจะมาในโทนที่ใกล้ๆ กันแบบนี้ แต่สิ่งที่แตกต่างและฉีกออกมาได้ดี คือการเอาความเป็นชะเอมที่ให้ความเป็นเครื่องเทศสมุนไพรติดหวานปนกลิ่นเนื้อไม้นี่แหละ ที่ทำให้กลิ่นนี้มีความ Cool และเข้าทางลักษณะ Hip Hop ได้ดี โดยไม่ได้ดูร้าย Bad Boy เกินไป ซึ่งแน่นอนว่าใช้งานไม่ยาก รวมถึงยังมีความเป็นกลิ่นอายสมัยนิยมที่ยังไงก็ไม่ตกยุคไปอีกยาวๆ

หมายเหตุ:
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ นอกเหนือจากนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ”

Photo Credithttps://www.chemistwarehouse.com.au/buy/89418/diesel-only-the-brave-street-eau-de-toilette-75ml-spray


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น