วันศุกร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2561

Review: Christian Dior - La Collection Privee: Cuir Cannage



Christian Dior - La Collection Privee: Cuir Cannage

เมื่อ Dior ประกาศคว่ำขัน La Collection Privee เข้าสู่การเป็น Maison Christian Dior Collection ก็ทำให้คนตามหาของเก่ามาเก็บกันให้ควั่ก เพราะมีเพียงแค่บางรุ่นที่ได้ไปต่อแบบที่อาจจะปรับสูตรหรือเปลี่ยนสูตรไปเลยแต่ชื่อเดิม นอกนั้นจะเป็น Rare Items ไปในทันที และหนึ่งในนั้นที่แม้ได้ไปต่อ แต่ก็อาจจะไม่เหมือนเดิมก็คือรุ่น Cuir Cannage ที่เป็นหนึ่นกลิ่นอายสายหนังที่ดีงามมากๆ ด้วย เช่นนั้นต้องเล่ากลิ่นกันหน่อยว่าในการเป็น Collection Privee เดิมจะออกมาในลักษณะไหน 

Cuir Cannage ถือเป็นการผสมผสานที่ลงตัวมากระหว่างความเป็นโทนหนัง โทนแป้ง โทนดอกไม้ และโทนไม้หอม Smoky ได้อย่างสมดุลย์และมีระดับมากเลยทีเดียว ซึ่งเปิดต้นทางความเป้นกลิ่นอายโทนหนังตีคู่กับกลิ่นโทนแป้งติดจืดปนอับกำลังดีของดอกไอริสที่ค่อนข้างชัดเจนมาก เพียงแต่กลิ่นที่วูบขึ้นมาแบบแย่งซีนเบาๆ กำลังดีคือ ดอกส้ม ที่มีวูบของโทนสะอาดติดเปรี้ยวบางๆ เคล้ากับกลิ่นออกทางหวานรัญจวนเย้าๆ หอมดอกไม้ของกระดังงาที่รวยรินเย้าไปมาอยู่ในช่วงต้น แต่ในวูบถัดมาสายแย่งซีนก็จะเปลี่ยนกลายเป็นสายสร้างมิติกลิ่นให้โทนหนังมีกลิ่นระเรื่อของความสะอาดปนเย้ายวนกำลังดี ปูทางเข้าช่วงกลางกับการเป็นกลิ่นอายที่เด่นกับการเป็นโทนหนังติดจืดแป้งอวลเคล้ากับกลิ่นอายของโทนดอกไม้ขาวแนวๆ มะลิกับกระดังงาที่นวลๆ ปนหวานกับดอกส้มที่สะอาดเจือเปรี้ยวหอม มิติของโทนดอกไม้จะชัดเจนพอสมควรท่ามกลางความเป็นโทนหนังที่ไม่ได้หนักหน่วงมาก เนื่อกลิ่นให้โทนหนังกลับหน่อยๆ เลยไม่ได้ไปสายสาปปลุกเร้าจัดเต็มแบบหนังเข้มๆ จนน่าตกใจนัก แม้ว่าจะมีกลิ่นออกทาง Smoky ที่เริ่มเสริมขึ้นมาให้รับรู้ได้ก็ตาม ซึ่งกลิ่นจะออกทางรัญจวนปนสะอาดเซ็กซี่อบอวลของดอกไม้ปนแป้งเคล้าโทนหนังที่ติดไม้หอมปนควันถ่านบางๆ ให้ความน่าค้นหาไปเรื่อยๆ จนเข้าสู่ช่วงท้าย กลิ่นอายของโทนดอกไม้อวลๆ ปนหวานจะเริ่มค่อยๆ จางลงไป แล้วกลิ่นโทนหนังจะเริ่มมีความละมุนติดครีมมี่หน่อยๆ ปนโทนไม้หอมที่เด่นขึ้นมาให้ความรู้สึกกลมกล่อมหอมเนื้อไหม้ปนความ Smoky ในช่วงนี้ โดยอารมณ์ของกลิ่นจะมีความ Dirty ติดสาปปลุกเร้า Animalic แบบไม่ได้โจ่งแจ้งแต่จับต้องได้ ซึ่งความเป็นโทนแป้งจะยังคงอยู่เจือแบบเบาๆ ให้ความรู้สึกน่าค้นหาและเย้ายวนผสมผสานกันได้อย่างลงตัว ซึ่งกลิ่นจะยังคงมีความอวลแบบเรื่อยๆ กำลังดีไม่ได้หนักหน่วงมากแต่มีความเท่ห์ผสมความเซ็กซี่แบบมีชั้นเชิงไม่น้อยเลย 

เหมาะสำหรับ - แบรนด์ตราเอาไว้ว่า Unisex ซึ่งก็ถือว่าเป็นไปตามนั้น เพราะสมดุลย์มากเลยทีเดียวระหว่างโทนกลิ่นแมนๆ ของหนังและโทน Smoky กับกลิ่นออกทางดอกไม้ของผู้หญิง ซึ่งสามารถใส่ได้ในหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันแบบจำกัดสเปรย์ ไม่เช่นนั้นเดี๋ยวจะจุกเอาได้เพราะกลิ่นมีความอบอวลและไม่ได้เป็นสายเนื้อเดียวพิมพ์นิยมนัก คนจะมองหน้าด่าในใจเอาได้ถ้าอัดหนัก ซึ่งสามารถใส่ได้ทั้งยามทางการและทั่วๆ ไป แต่ให้ตัดเรื่องการใส่เพื่อกิจกรรมกลางแจ้งและออกกำลังกายไปได้เลย ส่วนยามค่ำคืน กลิ่นนี้บอกเลยว่าเย้ายวนและเท่ห์เชียว ที่สำคัญเรียกร้องความสนใจได้เข้าทีเชียวเพราะรับรองว่าไม่เหมือนใครไม่พอ ยังมีคลาสมากเสียด้วย 

ความทน - เรียกว่าดีงาม เพราะ 12 ชม. กลิ่นยังคงอยู่ ถ้าเอาค่าเฉลี่ยยังไงก็แตะที่ 8 ชม. ได้สบายมาก 

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีมากในตอนต้น ก่อนจะค่อยๆ ลดลงมาปานกลาง แบบที่สร้างความน่าสนใจในกลิ่นได้ไม่ยาก ก่อนจะปิดท้ายด้วยออร่ารอบๆ ตัวที่สร้างเสน่ห์เร้าใจแบบเท่ห์และมีระดับไม่เหมือนใค 

ทิ้งท้าย - ต้องบอกว่ากลิ่นนี้เป็นหนึ่งในกลิ่นทีี่เปิดโลกทัศน์ในการเข้าหาและอินกับกลิ่นหนังได้มากจริง เพราะจากเดิมที่ OK ได้อยู่ แต่ไม่อิน กลายเป็น เฮ้ย! มันมีเสน่ห์และดูชิคปนเรียบหรูได้น่าสนใจจัง เท่านั้นแหละ หามาครอบครองทันที

หมายเหตุ: 
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ นอกเหนือจากนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ

Photo Credit -
http://www.beautyscene.net/wp-content/uploads/2014/06/La-Collection-Priv%C3%A9e-Christian-Dior-Cuir-Cannage.jpg

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น