Parfum Prissana - Apsarah
เพียงแค่ชื่อรุ่นก็บอกได้กลายๆ ว่ากลิ่นอายน้ำหอมรุ่นนี้จาก Parfum Prissana จะต้องมาในลักษณะที่คาบเกี่ยวกับกลิ่นอายสไตล์ดอกไม้ไทยและ Tribute กลิ่นอายโทน Vinatge แน่ๆ แต่สิ่งที่เรียกว่ามีความเกินคาดไปพอสมควรดันกลายเป็นว่ากลิ่นนี้มีความ Timeless
หรือเหลือกาลเวลามากกว่าที่คิด เพราะ
Apsarah มีลักษณะแบบคาบเกี่ยวความ
Modern ก็ได้ Vintage ก็ดี
เป็นโทนที่บ่งบอกถึงสไตล์ความเป็นกลิ่นอายเชิงวัฒนธรรมแถบเอเซียก็ได้
หรือกลิ่นอายสไตล์ตะวันตกที่มีความหรูหราเคล้าความเย้ายวนดึงดูดก็สามารถ
ซึ่งโทนกลิ่นหลักจะเน้นที่ความเป็นดอกไม้ขาวเป็นหลักที่ให้ความรู้สึกทั้งนวล
ละมุน เย้ายวน และดึงดูดแบบชัดเจนในทุกๆ ช่วงของการปล่อยออร่าทางกลิ่นออกมา
กลิ่นอายเด่นหลักจัดเต็มจะมาจากดอกพุด สายน้ำผึ้งและซ่อนกลิ่น (Tuberose)
ที่เป็นตัวเดินเรื่องหลักทางฝั่งดอกไม้ขาว
เคล้าความเย้ายวนดึงดูดของกลิ่นกระดังงาและดอกลำดวนที่เป็นโซนดอกไม้เหลือง
รองพื้นด้วยกลิ่นอายไม้หอมครีมนวลที่เป็นเสมือน Center Notes หรือกลิ่นหลักที่อยู่ตั้งแต่ต้นยันจบ โดยช่วงเปิดจะมีความอวลหอมหวานเย็นๆ
จากดอกไม้ขาวที่ชัดเจนปนความปร่าจางๆ ซึ่งกลิ่นที่เด่นออกมาเลยจะเป็นดอกพุดที่ให้ความหวานติดนวลกำลังดี
เคล้ากลิ่นอายเย็นๆ ของดอกลีลาวดี ซึ่งในเนื้อกลิ่นจะสัมผัสได้ถึงลักษณะแบบดอกไม้ขาวอื่นๆ
อีกด้วย เพราะจะจับได้ถึงลักษณะกลิ่นอายมะลิกับดอกไม้ไทยตอนกลางคืนที่หอมรัญจวนกลิ่นเย็นๆ แต่มีความเด่นและแรงในระดับหนึ่งเจืออยู่
ไม่พอกลิ่นยังมีโทนดอกไม้ที่เสริมมิติความรัญจวนเข้าไปอีกจากกระดังงา
โดยที่มีเลเยอร์ให้กลิ่นมีความชัดและฟุ้งมากขึ้นจากโทนเผ็ดปร่าที่มาแบบเบาๆ
ของกานพลูเสียด้วย
จนเมื่อกลิ่นเริ่มมีความเป็นเปลี่ยนแปลงให้พอรับรู้ได้ โดยยังคุมโทนความเป็นลักษณะของกลิ่นอายดอกไม้ขาวนวลยังคงเด่นที่ดอกพุดเคล้ากลิ่นหอมเย็นๆ
ผสมผสานกับกระดังงาก็จริง แต่จะมีกลิ่นโทนครีมมี่นวลหวานรัญจวนของซ่อนกลิ่นและหวานเจือน้ำผึ้งของดอกสายน้ำผึ้งที่ไม่ได้มาหนักหน่วงเกินไปเสริมเข้ามาพร้อมกับกลิ่นอายดอกลำดวนที่ให้ความหอมอวลๆ
เจือกลิ่นหอมเย็นชื่นใจปนไม้หอมของเปลือกชะลูด สิ่งที่รู้สึกได้ในช่วงนี้นอกเหนือจากกลิ่นดอกไม้นวลครีมและหอมเย็นๆ
คือกลิ่นลักษณะที่เป็นลักษณะคล้ายแป้งหอมดอกไม้ที่มีการอบร่ำปนไม้หอมครีมมี่ของจันทน์หอมอยู่พอสมควร
ซึ่งทำให้กลิ่นมีลักษณะที่ระเรื่อๆ แบบคล้ายดอกไม้นวลๆ ครีมมี่ติดผิวกายได้ทั้งความเย้ายวนแบบนวลไปตลอดจนไปจนถึงช่วงท้าย
โดยกลิ่นโทนดอกไม้จะเริ่มลดโทนลงมาในระดับหนึ่งให้ความนวลครีมมี่หอมนวลกำลังดี
แต่จะมีโทนอบอุ่นเจือขึ้นมาแบบผิวกายอบอุ่นนุ่มๆ ของ Musk ผสมผสารกับวานิลลาแบบ Lite
Version ที่มารับช่วงให้ความนวลหอมดอกไม้ติดผิวกายเคล้ากลิ่นไม้จันทน์หอมสว่างๆ
โดยที่มีกลิ่นอายของ Oak Moss ที่ให้กลิ่นออกทางติดหนังบางๆ
มาให้ความน่าค้นหาติดคลาสสิคกำลังดี ซึ่งกลิ่นในช่วงท้ายนี้จะมาแนวระเรื่อๆ
มีจริตแบบไม่โจ่งแจ้งแต่มีความหรูหราปนนวลละมุนไปตลอดให้ความรู้สึกละเมียดละไมปนหรูหราเคล้าความเย้ายวนบางๆ
ที่ให้ความรู้สึกแบบของผู้หญิงในโซนเอเซียใต้และตะวันออกเฉียงใต้ที่มีความ
Vintage แต่งามอย่างมีระดับสมชื่อรุ่นว่า Apsarah
ได้ชัดเจนมาก เพราะกลิ่นดอกไม้ต่างๆ ที่อยู่ในกลิ่นนี้จะมีความหอมเย้ายวนกำลังดีไม่เปิดเผยโจ่งแจ้งมากนัก
แถมด้วยความเป็นกุลสตรีที่เข้ากับดอกไม้ขาวแบบแทรกซึมให้มีจริตแบบไม่โจ่งแจ้ง
ซึ่งทำให้นึกถึงหญิงไทยชาววังสูงศักดิ์โบราณก็ได้ด้วย
หรือบางมุมก็นึกถึงกุลสตรีไทยในชุดขาวมีระดับและวางตัวดีก็สามารถ
รวมถึงมีความเสน่ห์ความเป็นผู้หญิงหรูหรามีระดับและสูงศักดิ์วางตัวดีเข้าทางผู้ดีสไตล์ตะวันตกได้ชัดเจนมากด้วยเช่นกัน
ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งกลิ่นที่มีความเหนือกาลเวลาสูงมาก
และเข้าได้กับทุกยุคทุกสมัยได้ไม่ยากเลยทีเดียว
เหมาะสำหรับ -
ผู้หญิงทุกเพศวัยทำงานขึ้นไป และชอบกลิ่นอายสไตล์ดอกไม้ขาวเป็นทุนเดิม
รวมถึงชอบกลิ่นอายดอกไม้ไทยๆ ก็จะเข้าถึงกลิ่นนี้ได้แบบง่ายสบายมาก
ซึ่งกลิ่นให้ทั้งความนวลสว่างเรียบร้อยก็ได้ เย้ายวนแบบไม่โจ้งแจ้งก็สามารถ
หรูหรามีระดับและสง่างามนางพญาก็เข้าทาง จึงเหมาะหลายๆ
สถานการณ์ยามกลางวันแบบทางการก็ได้ ทั่วๆ ไปก็อาจจะเลือกนิดนึงเพราะพื้นฐานกลิ่นละเมียดละไม
จะไม่เหมาะกับการใส่แล้ววี้ดว้ายกระตู้วู้ รวมถึงการใส่ออกกิจกรรมกลางแจ้งและออกกำลังกายนัก
ส่วนยามค่ำคืนใส่ออกงานหรูได้สบายมากได้ความหอมนวลอย่างมีชั้นเชิงและหรูหรา
ซึ่งให้ความเป็นกลิ่นอายดอกไม้ที่มีความอะโรม่าได้ดีเลยทีเดียว
ความทน -
ดีงามสมกับการเป็น Extrait de Parfum หรือ Pure Parfum เพราะเฉลี่ยที่ราวๆ 8 ชม. แต่ส่วนตัวเจอไป 15 ชม. กับจำนวนสเปรย์เพียง 4
สเปรย์
การกระจาย -
ข้อดีมากอย่างนึงของกลิ่นนี้คือไม่ได้ถึงกับปล่อยพลังรอบทิศ
แต่มาแบบกระจายดีในตอนต้น แล้วจะลดลงมาปานกลางค่อนไปทางออร่ารอบๆ ตัว
แล้วจบที่ออร่ารอบๆ ตัวแบบเบาๆ กำลังดีไปตลอด ให้ความรู้สึกแบบกำลังดี
คงความสง่างามแบบไม่หนักหน่วงไปตลอด
ทิ้งท้าย -
เป็นอีกหนึ่งกลิ่นที่ได้ความรู้สึกละเมียดละไม มีความอ่อนโยนก็ได้
จริตเย้ายวนก็สามารถ แตะความรู้สึกได้หลากหลายตามแต่ละประสบการณ์ของผู้ที่ได้ดม
เป็นอีกหนึ่งโทนกลิ่นที่สร้างภาพให้เห็นการเปลี่ยนถ่ายของเวลาที่ปรับเอาความ
Vintage ที่เราคุ้นชินของดอกไม้ไทย
มาสู่ความเป็นโทน Modern ที่สร้างความสง่างามได้ดีมากจริงๆ
หมายเหตุ:
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้
ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!!
ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ นอกจากแบรนด์ Parfum Prissana และสุคนธกรผู้ปรุง นอกเหนือจากนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้
ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว
ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ
ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ”
Photo Credit - Parfum Prissana’s Website --> https://parfumprissana.com/products/apsarah
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น