Parfumerie Naturelle - Ararat
จากที่ได้ท่องเที่ยวผ่านกลิ่นกับรุ่น Sunset over Santorini แล้วมีความประทับใจมากจนกลายมาเป็นหนึ่งในตัวที่รักมาหเมื่อปี 2017 ก็ได้เวลาของการมาลองกับอีก 1 กลิ่นของแบรนด์
Parfumerie Naturelle ที่แบรนด์ฺ Niche จากฝรั่งเศสที่ตอนนี้หายไปจากตลาดแล้ว (เป็น Rare
Itemแล้วสินะ) เช่นนั้นว่ากันที่อีกหนึ่งรุ่นดีกว่าว่าจะเป็นอย่างไร กับรุ่นนี้เลย Ararat
บอกก่อน -
ไม่มีข้อมูลการอ้างอิงใดๆ ว่าน้ำหอมรุ่นนี้มีแรงบันดาลใจการสร้างสรรค์กลิ่นมาจากสถานที่แห่งใด
และ Ararat ที่ก็มีหลายที่มากทั้งตุรกี USA
และ Australia รวมถึงเป็นสถานที่ในคัมภีร์ไบเบิ้ลด้วย
เช่นนั้นว่ากันที่กลิ่นล้วนๆ เลย
เปิดตัวกันที่ความเป็นโทน
Citrus กลั้วผลไม้ติดเปรี้ยวอย่างแอปเปิ้ลเขียวกันก่อนเลย
แต่ในเนื้อกลิ่นจะแอบจับได้ถึงกลิ่นสับปะรดที่นัวๆ เย้าๆ ของเม็ดกระวานที่เสริมโทนหวานนัวปน
Spicy ติดโปร่งหน่อยๆ ทำให้กลิ่นในช่วงแรกจะเป็นลักษณะของกลิ่นหอมติดเปรี้ยวอมหวานที่จับต้องได้ถึงกลิ่นอายแบบแอปเปิ้ลเขียวและสับปะรด
เจือเปรี้ยวปลายของโทน Citrus ที่มีความนัวกำลังดี
ได้อารมณ์ของความฉ่ำหน่อยๆ ก็ได้ ความหอมแบบสับปะรดกรอบหน่อยๆ ก็สามารถ
และกลิ่นโทนสับปะรดนี่แหละที่จะเริ่มกลายเป็นตัวนำโทนทั้งหมดและมีความชัดเจนมากในช่วงกลางและจะเป็นตัวเอกหลักของน้ำหอมรุ่นนี้แบบยาวไปจนถึงช่วงท้าย
โดยที่จะให้กลิ่นสับปะรดติดหวานโปร่ง มีกลิ่นโทนติดเปรี้ยวหน่อยๆ เจือดอกไม้ติดเขียวอ่อนๆ เป็นตัวเสริมทำให้สับปะรดยังมีความสดชื่น
เสริมด้วยที่มีกลิ่นอายติดไม้หอมโทนสว่างๆ ที่ลักษณะใกล้เคียงกับไม้ซีดาร์
ซึ่งอาจจะมาจากสารหอมอย่าง ISO E Super ที่ให้ความโปร่งสบายในกลิ่น ช่วงนี้เลยจะได้ความเป็นโทน Fruity Aromatic ให้ความอะโรม่าเด่นที่ความเป็นสับปะรดหวานอมเปรี้ยวสบายๆ
และรื่นรมย์มากเลยทีเดียว
เมื่อผ่านไปซักระยะกลิ่นจะเริ่มมีลักษณะติดโทนนวลปนครีมมี่ค่อยๆ
เปิดตัวออกมาผสมผสานกับกลิ่นสับปะรด และเริ่มลดทอนความเป็นโทนผลไม้ลงไปพอสมควรในช่วงท้าย
แต่กลิ่นสับปะรดไม่ได้หายไปทั้งหมด เพราะจะให้ความหวานอมเปรี้ยวเจือในเนื้อกลิ่นอยู่แบบอ้อยอิิ่งกำลังดี
แต่กลิ่นไม้หอมสว่างๆ โปร่งๆ จะยังคงชัดเจนอยู่ โดยจะมีกลิ่นอายสไตล์ถั่วตองก้าที่ให้ความเป็นโทนนวลๆ
ติดแป้งอ่อนๆ เคล้ากับกลิ่นออกทางติดเค็มคล้ายผิวกายนวลนัวๆ บางๆ
เป็นตัวเสริมโทนให้กลิ่นมีความนวลเคล้าความหวานอมเปรี้ยวอ่อนๆ ที่มีเสน่ห์ขึ้นมาอีกระดับ
ซึ่งภาพรวมของกลิ่นจะให้ความรู้สึกแบบหวานอมเปรี้ยวปลอดโปร่ง
หอมอะโรม่าสับปะรดที่ลงตัว ได้ความรู้สึกคล้ายพักผ่อนติดรื่นรมย์ก็ได้
ได้ความสบายๆ เข้าถึงง่ายมากก็ดี และได้ความดึงดูดแบบที่ใครได้กลิ่นก็รู้สึกหอมได้ไม่ยากนั่นเอง
เหมาะสำหรับ -
กลิ่นนี้ลงไว้ว่า Unisex แต่เอาเข้าจริงไพล่ไปทางผู้ชายมากกว่าซัก
70% ได้ แต่เพราะกลิ่นโทน Fruity ของสับปะรดก็เข้ากับฝั่งผู้หญิงได้อยู่
เช่นนั้นสาวๆ ใส่ได้ ไม่มีปัญหา ซึ่งกลิ่นจะเข้ากับแทบทุกสถานการณ์ยามกลางวัน
ไม่ว่าจะเป็นทางการหรือทั่วๆ ไป รวมถึงสามารถใช้กับกิจกรรมกลางแจ้งได้สบายมาก
เพียงแต่ถ้าใส่ไปออกกำลังกาย แม้จะได้อยู่แต่รอช่วงท้ายๆ จะดีกว่า ส่วนยามค่ำคืนถ้าเป็นการใส่ทั่วๆ ไปหรือว่าออกงานได้หมด
แต่ถ้าจะเอาไปท่องราตรี อัดสเปรย์หน่อยก็พอไปได้อยู่
ความทน - ดีงาม 8 ชม. คือพื้นฐานของน้ำหอมรุ่นนี้เลย
และมากกว่านั้นได้สบายๆ ซึ่งอิงตามจำนวนสเปรย์เป็นสำคัญ ส่วนตัวเจอไปที่ 12
ชม. ถือว่า ยกนิ้วให้เลยจริงๆ
การกระจาย -
กลิ่นกระจายดีมากในตอนต้น แล้วจะค่อยๆ ลดลงมาเป็นปานกลาง
ก่อนจะปิดท้ายที่ออร่ารอบๆ ตัว พอพ้นไปซัก 8 ชม. กลิ่นจะเริ่มเป็น Skin Scent
ทิ้งท้าย -
เททิ้งสิ่งที่เคยอ่านเกี่ยวกับตัวนี้ว่าเหมือน Creed Aventus ไปได้เลย
จะเหมือนก็แค่กลิ่นสับปะรด แต่นอกนั้นมีความรื่นรมย์เป็นเอกเทศเฉพาะตัวมากเลยทีเดียว
และอีกอย่างถ้า Paco Rabanne - Black XS L’Exces ปรับโทนทะเลกับความนัวออกไป ใส่ความเป็นธรรมชาติและความเป็นผลไม้มากขึ้น
สามารถกลายเป็นตัวนี้ได้เลยล่ะ
หมายเหตุ:
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้
ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!!
ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ นอกเหนือจากนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้
ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว
ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ
ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ”
Photo Credit - เข็มขัดสั้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น