วันอังคารที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2562

Review: Christian Dior - Midnight Poison (2011)

Christian Dior - Midnight Poison (2011) 

Midnight Poison เป็นหนึ่งใน Masterpiece สาย Poison ของ Christian Dior ที่อยู่ดีๆ ให้ความหอมตั้งแต่ปี 2007 มาปรับสูตรกันซักหน่อยในปี 2011 พอปี 2013 ก็หายแซ่บหายสอยเลิกผลิตไปซะงั้น เรียกว่าทำเอาคนรักกลิ่นนี้ต่างก็งงและเรียกร้องให้ Dior เอากลับมาผลิตใหม่เสียที ของดีๆ ทำไมเลิกผลิตกันจัง เช่นนัั้นกลิ่นนี้มีดีจริงแบบไหน ก็ต้องมาเล่ากลิ่นกันหน่อย

บอกก่อน - ก่อนหน้าที่บอกว่ารุ่นนี้มี 2 ช่วง คือ Original ตอนปี 2007 และปรับสูตรตอนปี 2011 ที่ขวดเองก็มีการปรับสีตัวอักษรและโลหะรอบคอขวดให้จากเดิมเป็นสีเงินให้เป็นสีทอง ซึ่งส่วนตัวไม่เคยได้ลองรุ่น Original มาก่อน เช่นนั้นในการเล่ากลิ่นครั้งนี้จะเน้นที่รุ่นปรับสูตรปี 2011 เป็นสำคัญ 

เริ่ม Start กันด้วยความเป็นโทนกลิ่นอาย Citrus เคล้าไปกับความโดดเด่นของพิมเสนที่มีความ Smooth as Silk กันตั้งแต่แรกเริ่ม ซึ่งกลิ่นของ Citrus จะมีความแห้งเจือความเป็นโทน Spicy ติดขมบางๆ มีความซ่าเบาๆ ซึ่งจับได้ไม่ยากว่าเป็นลักษณะของมะกรูดฝรั่ง (Bergamot) ที่เปิดตัวตีคู่กับกลิ่นพิมเสนที่ให้ความสะอาดๆ มีความหวานเจือดาร์กน่าค้นหาและอวลกำลังดี เปิดทางการเป็นโทนดึงดูดตั้งแต่แรกเริ่มกันเลย

เพียงไม่นานกลิ่นโทนกุหลาบจะแทรกเข้ามาไวพอสมควร พร้อมกับความอบอุ่นนวลนัวกำลังดีที่เป็นสายสนับสนุนอยู่ฉากหลัง ก็ปูทางเข้าสู่ช่วงกลางที่โทนกลิ่นจะเป็นการตีคู่เคล้าคลอกลั้วไปมากันอย่างน่าดูชมและดมกลิ่นของกุหลาบและพิมเสนที่มีความเย้ายวน ดึงดูด มั่นใจ กรุยกรายมีจริตนางพญากำลังดี Modern หวานลึก และดาร์กแบบลึกลับน่าค้นหา โดยกุหลาบแม้จะมาแบบติดโทนแห้ง แต่ไม่ได้ไพล่ไปทางสายคลาสสิคนัก ทำให้กลิ่นมีความอวลเย้ากึ่งโรแมนติคก็ได้ ลึกลับก็ลงตัว ซึ่งโทน Citrus ในตอนต้นจะเบาลงไปแต่ยังพอมีให้รู้สึกได้ถึงความขมปน Spicy แห้งๆ ซ่าบางๆ อ้อยอิ่งอยู่ ซึ่งกลิ่นจะดำเนินไประยะหนึ่ง ก็จะมีความอุ่นเข้ามาให้สัมผัสมากขึ้นจะเริ่มจับต้องได้ถึงกลิ่นโทนแอมเบอร์เคล้าไปกับกลิ่นโทนวานิลลาที่ค่อยๆ เปิดตัวมาทีละหน่อยจนเต็มที่ในช่วงท้าย ซึ่งจะกลายเป็น 3 โทนกลิ่นผสมผสานกันได้อย่างลงตัวมากระหว่างพิมเสนที่ให้ความดาร์กดึงดูด กุหลาบที่ให้ความหวานเย้ายวน และแอมเบอร์เคล้าวานิลลาที่ให้ความอบอุ่นอวลกรุ่นไปตลอด โดยจะมีลักษณะของโทนไม้หอมเคล้ากับกลิ่นโทน Musk ให้จับต้องได้อยู่ในลักษณะรองพื้นกลิ่นไว้ไม่ได้ออกเป็นตัวเอกที่ทำให้กลิ่นมีความนวลพลิ้วเจือเซ็กซี่ระเรื่อๆ เสริมให้กลิ่นกลายเป็นกุหลาบพิมเสนเคล้าความอบอุ่นนวลเนียนไปกับผิวกายที่มีเสน่ห์ดึงดูดที่ลงตัวและดีงามมากเลยทีเดียว 

เหมาะสำหรับ - ผู้หญิงทุกเพศวัยทำงานขึ้นไป กลิ่นมีมุมของน้ำหอมผู้หญิงที่ทั้งมั่นใจ ลึกลับ น่าค้นหา มีจริตนางพญา และมีความเซ็กซี่เย้ายวนแบบที่ไม่ดูพยายาม รวมถึงมีคลาสมีระดับครบเลยในขวดเดียว ซึ่งสามารถใส่ได้ในหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวัน ได้ทั้งทางการ (แบบจำนวนสเปรย์เหมาะสม) และทั่วๆ ไปที่เน้นสร้างลุคมั่นใจและมีเสน่ห์เป็นหลัก ยิ่งถ้าใส่กับชุดสีโทนเข้มๆ กลิ่นจะเข้ากันได้อย่างดีมาก แต่ให้ตัดการใส่เพื่อกิจกรรมลุยๆ กลางแจ้งต่างๆ รวมถึงออกกำลังกายไปได้เลย เดี๋ยวกลิ่นตีขึ้นจนจุกเสียก่อน ส่วนยามค่ำคืน ไม่ว่าจะออกงาน ปาร์ตี้ หรือท่องราตรี จัดไปได้เลย นางพญาชัดๆ บอกเลย 

ความทน - มีความจัดจ้านในย่านนี้ เพราะทนลากยาวไปที่ 12 ชม. ได้สบายมาก 

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีมากในช่วงต้น แล้วจะลดลงมากระจายดีในช่วงกลาง คงความเสถียรไปเรื่อยๆ จนถึงช่วงท้ายที่จะกระจายปานกลางซักระยะ ถึงปรับเป็นออร่ารอบๆ ตัวเมื่อผ่านไปซัก 6 - 8 ชม. ยาวไป 

ทิ้งท้าย - ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคนเขาถึงเสียดายรุ่นนี้กัน เพราะกลิ่นลงตัวและดีงามในการเป็นน้ำหอมผู้หญิงที่สร้างออร่านางพญาที่มีเสน่ห์มาก เช่นนั้นก็ขอเป็นหนึ่งที่อยากให้รุ่นนี้กลับมาทำใหม่โดยไม่ได้ปรับสูตรจนเพี้ยนไปจากเดิมด้วยอีกคนนึง เพราะของดีแบบนี้ไม่ควรหายไปเลยจริงๆ 

หมายเหตุ: 
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ นอกเหนือจากนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ

Photo Credit - https://christiandiorperfumebottles.blogspot.com/2015/04/midnight-poison-by-christian-dior-c2007.html

2 ความคิดเห็น: