Parfums Dusita - Oudh Infini
โดยส่วนใหญ่ในสายน้ำหอม Oud หรือไม้กฤษณา
เรามักจะได้กลิ่นแล้วไปทางสายตะวันออกกลาง หรือไม่ก็เป็นสายลูกครึ่งที่มีทั้งความเป็นโทนแขกเคล้ากับไปความ Modern แบบตะวันตก
ซึ่งแน่นอนมันมีเสน่ห์เฉพาะตัวอย่างมาก ซึ่งหลายๆ ครั้งเรามักจะเจอโทน Oud ที่มักจะไปในทิศทางที่ใกล้เคียงกัน
และมีโครงสร้างกลิ่นพื้นฐานที่ไม่ได้ต่างกันมากนัก น้อยครั้งที่จะเจอ Oud ในลักษณะอื่นๆ ที่น่าสนใจและมีมิติอื่นๆ ให้จับต้องได้
แต่ในความน้อยครั้งนี่แหละ
ที่ทำให้ได้เจออีกหนึ่งเพชรเม็ดงามสาย Oud
ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะและมีลูกเล่นมิติกลิ่นที่แปลกและแตกต่างอย่างมีความดีงาม
หรูหรา และมีระดับมากด้วยการสร้างสรรค์ของแบรนด์ Parfums Dusita เช่นนั้นเมื่อซึมซับกลิ่นต่างๆ จนสุกงอมก็ได้เวลาของการเล่ากลิ่นแล้วว่าทิศทางความเป็น
Oud ที่แตกต่างนี้จะเป็นในลักษณะไหน กับรุ่นนี้เลย Oudh
Infini
เสน่ห์อย่างหนึ่งของกลิ่นที่แม้ว่าจะมาจากวัตถุดิบประเภทเดียวกัน
แต่ต่างสถานที่ในการเติบโต กลิ่นก็จะแตกต่างกันไปด้วย เพียงแต่กลิ่นเมนหลักที่ควรจะเป็นยังคงมีตามธรรมชาติอยู่
ซึ่ง Oud หรือไม้กฤษณาก็เช่นกัน
และ Oudh Infini ก็เป็นการสื่อสารถึง Laotian Oud หรือไม้กฤษณาที่มาจากประเทศลาว ซึ่งจะมีความพิเศษอย่างหนึ่งคือ
กลิ่นอายโทน Cheese ที่จะเจืออยู่ในความเป็น Oud และกลิ่นนี้แหละที่เปิดตัวตั้งแต่แรกเริ่มเลยกับการเป็นโทน Oud
ที่มีความลุ่มลึกอวลกำลังดีปนโทนกลิ่นแนวๆ Cheese ที่จะมีมิติซ้อนเข้ามาจากโทน Animalic ติดสาปหน่อยๆ
ที่มาจากชะมดหรือ Civet ทำให้กลิ่นที่ผสมผสานกันออกมาจะมีลักษณะที่เหมือนเราอุ้มแพะอยู่ในระดับหนึ่ง
แต่ไม่ได้ไปสายสาปสัตว์จ๋ามากขนาดนั้น เพราะสิ่งที่มาตัดทอนคือ กุหลาบ
ที่ไม่ได้มาสไตล์แบบแห้งๆ แต่มีความกำลังดี มีความสดชื่นปนหวานโรแมนติค และมีความเข้มกำลังดี ที่เป็นลูกคู่ในการทำหน้าที่กล่อมเกลากลิ่นให้มีความนวลและมีมิติของโทนดอกไม้เข้ามาเสริม
ทำให้ภาพรวมในช่วงต้นจะมีความ Unique ที่มีลูกเล่นกลิ่นทั้งความอวล Oud ติด Cheese
หน่อยๆ เค็มนิดๆ ความติดสาปเร้าดึงดูดแบบแปลกเก๋
และความรื่นรมย์จากกุหลาบที่เกลาให้กลิ่นมีเสน่ห์เฉพาะตัวได้อย่างดีงามได้เลยทีเดียว
ที่สำคัญกลิ่นในช่วงนี้จะอยู่ยาวพอสมควรเสียด้วยกว่าจะเข้าช่วงกลางของกลิ่น
และเมื่อเริ่มมีกลิ่นอายโทนไม้หอมติดนวลครีมอ่อนๆ
จากโทนกลิ่นของไม้จันทน์หอมเสริมขึ้นมา กลิ่นเริ่มจะมีการเปลี่ยนแปลงนิดหน่อย
เพราะกลิ่นโทน Animalic กับ Oud
ติด Cheese ในช่วงต้นจะเริ่มลดทอนลงมาในระดับหนึ่ง
และมาสอดรับไปกับกลิ่นโทนไม้หอมติดครีม มีความนวลสว่างๆ
รวมถึงมีความอวลของโทนกำยาน Benzoin ที่ให้กลิ่นค่อนไปทางวานิลลาหน่อยๆ
ซึ่งจะเป็นกลิ่นหลักที่มีมิติของไม้หอมปนโทน Animalic ติดกรุยกรายเบาๆ
แบบมีระดับเป็นพื้นฐาน ซึ่งจะมีกลิ่นอายโทนดอกไม้ที่นำโดยกุหลาบและมีความสะอาดติดเปรี้ยวปลายอ่อนๆ
ของดอกส้มคลอเคลียอ้อยอิ่งให้กลิ่นในช่วงกลางมีมิติที่มีระดับ ลุ่มลึก
และหรูหรามีเสน่ห์ดึงดูด แต่ยังคงความแตกต่างและมีเสน่ห์เฉพาะตัวของโทน Oud
ที่มีมิติกลิ่นอายอื่นๆ มาผสมผสานได้อย่างลงตัวและอยู่อย่างยาวนานเลยทีเดียว
การเปลี่ยนแปลงแบบค่อยเป็นค่อยไปในการเข้าสู่ช่วงท้ายของน้ำหอมจะเริ่มชัดเจนมากขึ้น
โดยกลิ่นอายของวานิลลาที่เข้าโทนแป้งติดอบอุ่นพร้อมกับกลิ่นอายโทน Musky ที่ให้ความนุ่มในกลิ่นเป็นตัวสนับสนุนเสริมเข้ามา
กลิ่นโทน Oud จะดรอปลงไปเหลือเพียงเบาบางอ้อยอิ่ง
แต่ความ Animalic ยังคงอยู่ เพียงแต่โดนเกลากลิ่นจนกลายเป็นนวลนุ่มที่เย้ายวนอย่างติดเซ็กซี่มีระดับและมีจริตกำลังดีพอเหมาะ
แต่จะมีความเค็มนิดๆ แบบผิวกายตามธรรมชาติเสริมอยู่ด้วย
ซึ่งจะได้ลักษณะกลิ่นอายเป็นโทนแป้งนวลกึ่ง Musk ชัดเจน
โดยจะมีความเป็นโทนกึ่งธูปอ่อนๆ เคล้าไปกับกลิ่นไม้จันทน์หอมเสริมให้กลิ่นมีความน่าค้นหา
คลอไปกับกลิ่นดอกไม้บางๆ ที่ยังพอให้รับรู้ได้ให้ความรื่นรมย์กำลังดีไปเรื่อยๆ
โดยคุมโทนความหรูหรามีระดับและมีลูกล่อลูกชนอย่างยอดเยี่ยมมากไปตลอดนั่นเอง
เหมาะสำหรับ - Unisex ได้ทุกเพศเพราะกลิ่นอายมีความเป็นกลางๆ
กำลังดี อาจจะมีค่อนไปทางผู้หญิงบ้างนิดหน่อย เพราะว่าโทนดอกไม้ค่อนข้างชัด
แต่ยังไงผู้ชายก็ใส่ได้สบายมาก ซึ่งกลิ่นนี้จะค่อนข้างมีความ Unique
พอสมควรในการใช้งาน ซึ่งอาจจะอยู่ที่จำนวนสเปรย์ด้วยว่าจะให้ชัดหรือกำลังดี
ซึ่งถ้ากลิ่นนี้เข้ากับผู้ใส่ มันจะมีพลังและความน่าค้นหาปนเย้ายวนได้อย่างมีระดับมากจริงๆ
แต่ให้ตัดการใส่เพื่อออกกำลังกายหรือว่ากิจกรรมกลางแจ้งไปได้เลย
ส่วนยามค่ำคืนกลิ่นนี้จะเข้าทางกับการออกงานเพื่อสร้างออร่าความน่าค้นหา
มีคลาส หรูหรากรุยกรายแบบพอเหมาะพอดี (แต่อาจจะผ่านช่วงต้นไปหน่อยก่อนถึงค่อยออกไปงาน
ในกรณีถ้าเป็นเมืองไทย) หรือว่าจะใส่มาตลอดวันแล้วไปต่อกลางคืนแบบมีระดับหน่อยก็ได้เลย
ความทน -
บอกเลยว่ามาก เพราะกลิ่นทนจัดจริงๆ 12 ชม. กลิ่นยังตีขึ้นให้รับรู้ตลอด และลากยาวไปที่ 15 ชม. ได้สบายๆ อาบน้ำแล้วกลิ่นยังติดผิวอ่อนๆ อยู่ด้วยซ้ำ
การกระจาย -
กลิ่นกระจายดีมากในตอนต้น เรียกว่ามาเต็มและชัดเจนมากในความ Unique ของกลิ่น แล้วจะลดลงมากระจายดีไปเรื่อยๆ
ระยะหนึ่ง ก่อนจะเป็นปานกลางแบบยาวไปถึงช่วงท้าย พอพ้นซัก 8 ชม. กลิ่นจะเริ่มเป้นออร่ารอบๆ ตัวแบบยาวไป
ทิ้งท้าย -
นี่ไม่ใช่ Oud แบบขนบที่เวลาเจอกุหลาบแล้วจะต้องอวลจะต้องแขก
แต่เป็นโทนกลิ่นที่มีลูกล่อลูกชนและวางตัวเอาดีมากในความแตกต่างอย่างมีระดับและไม่ธรรมดา
ซึ่งแน่นอนกลิ่นในช่วงนี้ถ้าคนที่ไม่ได้พิสมัยในความเป็น Oud อยู่แล้ว แถมไม่ได้อินกับโทน Animalic มีแนวโน้มที่จะมองผ่านและข้ามรุ่นนี้ไปสูงมาก
แต่ถ้าลองติดตามต่อมีสิทธิ์ที่จะเจอความดีงามที่เราหลงรักกลิ่นอายแบบนี้ไปตลอดก็ย่อมได้
หมายเหตุ:
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้
ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!!
ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ นอกเหนือจากนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้
ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว
ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ
ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ”
Photo Credit - https://www.lessenteurs.com/products/oudh-infini
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น