วันอาทิตย์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2562

Review: Aedes de Venustas - Pelargonium

Aedes de Venustas - Pelargonium 

Aedes ถือเป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่ขายน้ำหอม Niche ที่มีชื่อเสียงมากของ USA โดยจะเน้นน้ำหอมสาย Niche Perfumery ที่หลากหลายทั้ง Niche สไตล์ Luxury และสไตล์ Indie ต่างๆ ก็มากมาย เรียกว่าถ้าฝั่งแคลิฟอร์เนียมี Luckyscent ฝั่งนิวยอร์คก็จะมี Aedes นี่แหละ ซึ่งเมื่อจัดจำหน่ายน้ำหอม Niche มานานก็ได้เข้าสู่การสร้างสรรค์น้ำหอม Niche ที่เป็นแบรนด์ของ Boutique เอง โดยเริ่มมาตั้งแต่ปี 2012 เป็นต้นมากับแบรนด์ที่ชื่อว่า Aedes de Venustas และในเมื่อได้มีโอกาสมาพบกับแบรนด์นี้ ก็ต้องกระทำความ Niche เรียนรู้กลิ่นกับรุ่นแรกที่มีโอกาสได้ลองจนมาสู่เล่ากลิ่นในครั้งนี้ นั่นคือรุ่น Pelargonium

ดอก Pelargonium เรียกว่าเป็นญาติของ Geranium เพราะอยู่ในวงศ์เดียวกันแต่ต่างสกุลและรูปลักษณ์ของดอกที่การจัดเรียงกลีบจะแตกต่าง ซึ่งกลิ่นมีลักษณะโทนเดียวกันยืนพื้นที่ลักษณะโทนกุหลาบติดเขียวมีความสดชื่นติดเปรี้ยวหน่อยๆ เพียงแต่ต่างกันตรงที่ Pelargonium จะค่อนไปทางโทนยางไม้ค่อนทาIncense ส่วน Gerenium จะติดโทนฟรุตตี้มินต์มากกว่า ซึ่งแบรนด์จึงได้นำมาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ขึ้นมา โดยมาในลักษณะของโทน Floral Woody Musk คาบเกี่ยวกับการเป็นโทน Woody Spicy ได้อย่างน่าสนใจมากแบบนี้เล 

เปิดกลิ่นกันที่การเป็นโทน Citrus ติด Fresh Spicy กันก่อนเลย โดยที่กลิ่นอาย Citrus ติดขมแห้งของมะกรูดฝรั่ง (Bergamot) จะเปิดตัวออกมาแบบที่ไม่ได้ติดเปรี้ยวนัก ให้ลักษณะกลิ่นติดขมออกทาง Spicy หน่อยๆ เพราะว่ามีโทนพริกไทยเข้ามาให้ความปร่านวลเผ็ดนุ่มมาตัดทอนทำให้ได้ความสดชื่นติดเผ็ดนุ่มกันอย่างชัดเจน ซึ่งไม่ได้มีเพียงเท่านี้ เพราะจะมีโทนกลิ่นอายออกทางเขียวติดสมุนไพรค่อนไปทางลาเวนเดอร์กึ่งหนังอ่อนๆ ของ Clary Sage แทรกเข้ามาพร้อมกับมีโทนกลิ่นของ Geranium ที่ให้ความกุหลาบติดเขียวที่กำลังดี ไม่ได้มาแบบเป็นตัวเด่นนัก แต่จับต้องได้แบบเป็นตัวล้อมกลิ่นอยู่ตลอด ซึ่งเรียกว่าช่วงเปิดตัวที่ค่อนข้างชัดเจนในการสื่อสารกลิ่นอายความเป็น Geranium ติดกลิ่น Spicy ได้อย่างลงตัวมาก

จนเมื่อเข้าช่วงกลาง กลิ่นโทน Citrus จะลดทอนลงไปเป็นสายสนับสนุนให้โทนยางไม้ติด Incense ปนเครื่องเทศเผ็ดนุ่ม ปนสดชื่นเป็นตัวรับช่วงต่อแทน ซึ่งจะจับต้องได้ถึงกลิ่นอายของยางไม้อย่าง Elemi ที่ให้ความเป็นกึ่ง Lemon กึ่งพริกไทยที่จะเด่นออกมา ตีคู่ไปกับกลิ่นโทนสมุนไพรติดเขียวที่ตามมาตั้งแต่ตอนต้นที่คลอไปกับกลิ่นของ Geranium ที่ยังคงให้โทนติดเขียวเจือกุหลาบ เสริมด้วยความอวลของกลิ่นอย่างโทนแป้งติดอับดินอ่อนๆ ทำให้กลิ่นมีความธรรมชาติกำลังดี ซึ่งช่วงนี้ถือว่าให้ความชัดเจนในการเป็นโทนกลิ่นแนวดอPelargonium จากการผสมผสานโทนกลิ่นที่ค่อนไปทาง Incense ติด Spicy สดชื่นเคล้ากับกลิ่นเขียวเจือกึ่งๆ กุหลาบได้ดีเกินคาด ทำให้ซึมซับความเป็นโทนกลิ่นอายที่สมดุลย์กันอย่างลงตัวแตะคำว่า Aromatic Scent ได้อย่างดีงามเลยทีเดียว 

และเมื่อผ่านไปซักระยะกลิ่นโทนไม้แห้งๆ ติด Smoky จะค่อยๆ เผยตัวออกมาทีละหน่อย จนเริ่มชัดเจนในปลายๆ ช่วงกลาง กลิ่นของโทน Geranium จะค่อยๆ เบาลงเปิดทางเข้าสู่ช่วงท้ายของน้ำหอมที่จะกลายเป็นโทนไม้หอมเต็มตัว โดยที่ยังมีกลิ่นโทน Geranium อ้อยอิ่งให้พอรู้สึกได้อยู่เบาๆ โดยกลิ่นตัวเด่นของฝั่ง Woody ที่ติด Smoky และมีความเป็นกลิ่นติดดินแห้งบางๆ ของหญ้าแฝกจะเป็นตัวเดินกลิ่นในช่วงนี้ซึ่งจะมีโทนสนับสนุนจากกลิ่นอายของไม้ติดกลิ่นไหม้อย่าง Guaiac Wood เสริมด้วยไม้ซีดาร์ที่ให้ความโปร่งติดปร่ากลิ่นเนื้อไม้และโทน Musk ที่ให้ความนุ่มเจือสะอาดทำให้กลิ่นไม่ได้ Smoky จัดจ้านมากนัก รวมถึงจะมีกลิ่นติดดาร์กแห้งๆ เขียวเข้มกึ่งหมึกบางๆ ที่มาจาก Oak Moss เสริมให้กลิ่นโทนไม้หอมในช่วงท้ายกลายเป้นกลิ่นที่สมดุลย์กำลังดี มีทั้งกลิ่นโปร่ง กลิ่นแห้ง กลิ่น Smoky ติดไหม้ กลิ่นดึงดูด และกลิ่นสะอาด โดยที่จะมีกลิ่นของ Geranium อ้อยอิ่งเบาๆ คลอไปตลอด

เหมาะสำหรับ - Unisex เลย กลิ่นค่อนข้างเป็นลักษณะของสภาพแวดล้อมเป็นสำคัญ จึงแตะได้ทุกเพศ แต่จะอินและฟินได้มากขึ้นถ้าผ่านน้ำหอมโทนกลิ่นแนวๆ Geranium ไม้หอม หรือ Incense ยางไม้มาก่อน ซึ่งกลิ่นจะเหมาะกับหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันไม่ว่าจะเป็นช่วงทางการหรือทั่วๆ ไป เพียงแต่จะไม่ได้เข้าทางกับการใส่ไปออกกำลังกายหรือกิจกรรมลั่นล้ากลางแจ้งมากนัก เพราะกลิ่นมีความขรึมสุภาพและมีระดับวางตัวดีพอสมควร ส่วนยามค่ำคืนเน้นใส่เพื่อออกงานหรือว่าใส่เพื่อความผ่อนคลายกับกลิ่นที่สร้างบรรยากาศน่าจะดีกว่า เพราะกลิ่นไม่เข้าทางการใส่ไปท่องราตรีแต่ประการใด 

ความทน - เรียกว่ายอดเยี่ยมมาก เพราะว่า 15 ชม. กลิ่นยังคงอยู่ แม้เหงื่อออกชุ่มๆ กลิ่นยังคงติดและกระจายขึ้นมาให้รับรู้อยู่ตลอด เรียกว่ามีความดีงามมากจริง 

การกระจาย - ในช่วงต้นจะมาในลักษณะโทนกลิ่นแบบคุณหลอกดาวกันก่อน เพราะจะให้ความสดชื่นเบาบางแบบบรรยากาศเสียมากก่อน การกระจายเลยออกแนวออร่ารอบๆ ตัว แต่พอเข้าช่วงกลางกลิ่นจะเปลี่ยนโทนเป็นกระจายดีและคงความเสถียรในการกระจายค่อนข้างดีและลงตัวไปจนถึงช่วงท้ายเลย พอพ้นซัก 6 ชม. ถึงลดลงมากระจายปานกลางผ่อนลงตามลำดับจนเป็นออร่ารอบๆ ตัวยาวไปเรื่อยๆ 

สรุป - หนึ่งในกลิ่นที่ทำออกมาได้อย่างมีชั้นเชิงและมีมิติ โดยยืนพื้นตาม Concept กลิ่นได้อย่างลงตัวมีความ Art และมีระดับตามการเป็น Niche Perfumery ได้อย่างงดงามและมีเสน่ห์มากในการสื่อสารความเป็นดอก Pelargonium และทำให้ได้เรียนรู้กลิ่นอายดีๆ แบบที่ทำให้ประทับใจ เช่นนั้นอนาคตต้องได้เจอกับน้ำหอมของแบรนด์นี้อีกแน่นอ 

หมายเหตุ: 
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ นอกเหนือจากนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ

Photo Credit - https://www.mirror-mirror.nl/beauty-launches-new/2017/9/17/aedes-de-venustas-plargonium

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น