วันอาทิตย์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2562

Review: Naomi Goodsir - Nuit de Bakelite

Naomi Goodsir - Nuit de Bakelite 

เดิมทีรู้จักแบรนด์ Naomi Goodsir ผ่านการส่องหาน้ำหอมใหม่ๆ และน้ำหอม Niche ที่อยากจะเอามาเข้าคลังของตัวเอง รวมถึงได้ผ่านการดมบางรุ่นอย่าง Bois d’Ascese แบบผ่านๆ มาก่อน แต่ก็ผลัดมาเรื่อยๆ เพราะโดนลากไปสอยแบรนด์อื่นเสียหมดทำได้แค่เล็งไว้ก่อนนะ จนกระทั่งเมื่อได้เห็นว่าน้ำหอมรุ่นส่าสุดที่ออกมาวางจำหน่ายปลายปี 2017 อย่าง Nuit de Bakelite ได้กระทำการแฮตทริกกวาดรางวัลทางด้านน้ำหอมมาครบจาก 3 แห่งเลย คือ 

1. Art & Olfaction Awards 2018 - Winner of Independent Category 
2. FIFI Awards 2018 - Expert Awards - Best Fragrance of an Independent Niche Brand 
3. Olfactorama Paris 2018 - Prix de l’Emotion 

เรียกว่าเห็นแบบนี้ ทำแค่เล็งไม่ได้แล้ว ต้องเอามาครอบครองให้ได้ ซึ่งก็ได้มาสมใจอยากแบบพยายามทุกช่องทางจริงๆ ที่จะเอารุ่นนี้มาครอบครอง (เข้าสู่สายล่าน้ำหอมรางวัลก็งานนี้) และหลังจากที่ได้ดื่มด่ำกลิ่นอายที่กวาดรางวัลนี้จนเต็มที่ก็ได้เวลาในการเล่ากลิ่นกันหน่อยแล้วว่าจะออกมาในลักษณะไหน 

ช่วงเปิด คือ ที่สุดของแจ้เพราะความแรง ความฟุ้ง การกระจาย และพลังของกลิ่นพุ่งทะยานแบบสุดๆ เลยทีเดียวด้วยการนำของกลิ่นโทนสมุนไพรสดชื่นเคล้ากับยางไม้สายเขียวคมพุ่ง นั่นก็คือ ต้นโสมตังกุย (Angelica) ที่ให้ความปร่าคมฟุ้งสมุนไพรอารมณ์เจือกลิ่นโสมและยางไม้ Galbanum ที่ให้ความเขียวคมติดเรซิ่นยางๆ อารมณ์เหมือนยางไม้ที่ติดเปรี้ยวเขียวคมที่กลิ่นแหลมเฟี้ยว รวมถึงมีกลิ่นคล้ายๆ เหล้าหมักที่เขียวปั๊ดๆ อย่าง Absinth ที่หมักจากโกฐจุฬาลัมพา (Artemisia) เข้ามาร่วมด้วย ซึ่งบอกเลยว่ามีความเป็น Sillage Monster สูงมาก เพราะเพียงแค่สเปรย์เดียวก็ทำเอาฟุ้งกระจายทั่วห้องได้ในทันทีแบบไม่มีอะไรมาหยุดได้ ซึ่งนอกจากความเขียวที่มาแบบจัดเต็มไม่สนใครหน้าไหน สิ่งที่ซ้อนเป็นเลเยอร์ในความเขียวคือ กลิ่นออกทางพลาสติคเบกาไลค์ (พลาสติคทนความร้อนชนิดหนึ่งที่มาจากการใช้ความร้อนและความดันอัดกระดาษหรือผ้า จนก่อให้เกิดพลาสติคขึ้นมา มักใช้กับเครื่องใช้ไปฟ้าหรือพวกฉนวนกันไฟฟ้า) แต่ไม่ได้มาแบบอุ่นร้อนแบบพลาสติคหลอม เพราะกลิ่นคุมโทนความเขียวปร่าติดเย็นได้ชัดมาก และมีโทนหอมครีมบางๆ ของดอกซ่อนกลิ่นที่เบลนด์ไปกับกลิ่นเขียวได้ดี ทำให้ช่วงต้นมีมิติที่ครบถ้วนแบบแปลก เก๋ ไม่เหมือนใครในความเขียว สมุนไพร พลาสติค ที่คมแปร่งแปลก แต่ติดหวานปลายกลิ่นที่ทำให้ผู้ใช้ที่ไม่คุ้นอาจจะขอตัวไปอาบน้ำล้างกลิ่นได้ในทันที เพราะรู้สึกว่าอาจจะไม่เป็นมิตรเท่าไหร่ แต่ถ้าใครรู้สึกถึงความ Unique และความเก๋ การติดตามการเดินทางของกลิ่นต่อเป็นเรื่องที่สนุกมากและจะเจอความงามซ่อนอยู่ได้เลยทีเดียวในหลังจากนี้ 

เมื่อโทนกลิ่นพลาสติคเริ่มจางลงและความเขียวเริ่มลดทอนลงมาในระดับหนึ่ง แต่แน่นอนความ Strong ยังคงชัดเจนทุกเม็ด กลิ่นที่เริ่มแทรกตัวออกมายืนหนึ่งเลย คือ ดอกซ่อนกลิ่น แต่สิ่งที่แตกต่างจากการเป็นซ่อนกลิ่นที่มักเจอในน้ำหอมต่างๆ คือ โทนกลิ่นจะให้ความเขียวมากกว่าครีมมี่ ความเย้ายวนจะมีความต่างเป็นเขียวเด่นซ้อนด้วยความดึงดูดแบบครีมมี่บางๆ แต่เนียนกริบในเนื้อกลิ่นเลยทีเดียว แต่ก็ไม่ได้มีเพียงแค่นี้ เพราะจะจับได้ถึงโทนเย้ายวนและดึงดูดของสายดอกไม้ขาวที่ให้ความนัวเย้าแนวๆ ดอกไม้กลางคืนที่ส่งกลิ่นลอยตามลม กับกลิ่นอายดอกไม้สายยั่วแบบมีจริตอย่างกระดังงาที่เป็นตัวเสริมความเป็นโทนดอกไม้สาวเย้ายวนในความเขียวได้เลย ในเนื้อกลิ่นจะมีลักษณะแบบกลิ่นโทน Indolic ที่ให้ความตุ่ยๆ ตามธรรมชาติของดอกไม้และกลิ่นออกทาง Smoky หน่อยๆ ซึ่งสร้างมิติความ Dirty ในกลิ่นแบบบางๆ เร้าใจแบบเนียนๆ ได้เป็นอย่างดี ซ้อนเลเยอร์กลิ่นแบบโทนแป้งอับๆ หน่อยๆ จากกลิ่นคล้ายโทนหัวเหง้าไอริสหรือจะมาจากเมล็ดแครอทก็ได้ ทำให้กลิ่นมีจริตแตะความ Vintage กรุยกรายก็ได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งช่วงกลางนี้จะเป็นการปล่อยพลังทางกลิ่นที่แทรกความเย้ายวนของโทนดอกไม้เคล้าความเขียวเจือกลิ่นพลาสติคอ่อนๆ ได้อย่างดีงามและมีจริตที่กรุยกรายปนมาดมั่นได้ดีมากจนลืมความทรงพลังคมๆ ในตอนต้นไปเลย 

การส่งต่อทางโทนกลิ่นเริ่มชัดเจนขึ้นตามลำดับเมื่อผ่านไปในระยะหนึ่ง เพราะกลิ่นหนังจะเริ่มเนียนแทรกเข้ามาพร้อมกับกลิ่นโทน Smoky ปนไม้หอมติดเผ็ด Spicy ที่ชัดขึ้นจากช่วงกลาง และมีกลิ่นอายสายสะอาดอย่างโทน Musky ติดสอยห้อยตามมาด้วย ก็เป็นการเปลี่ยนช่วงมาเป็นช่วงท้ายของน้ำหอมที่เริ่มมีลักษณะแตะความ Vintage และ Timeless ชัดเจนมากขึ้น แต่ยังมีลักษณะของโทนกลิ่นแบบ Modern ติดทางเย้ายวนอยู่ ความเขียวที่ตามมาจากตอนต้นเริ่มมาเป็นทางสายกลางที่ไม่หนักหน่วงเกินไปเคล้าไปกับกลิ่นโทนดอกไม้ขาวที่ให้โทนเจือสะอาดกำลังดีไปเรื่อยๆ มีความปร่าอ่อนๆ ปนโทนแป้งให้จับต้องได้เป็นมิติที่ให้ความสว่างครีมนวลแอบนัวได้อย่างน่าสนใจ เพียงแต่กลิ่นไม่ได้มีแค่นี้ เพราะโทนหนังเริ่มกลายเป็นผู้เล่นหลักแทนที่ให้ความดาร์กปนลุ่มลึกของโทนยางไม้ที่ติดควันไอปนอบอุ่น สร้างออร่าความดาร์กมืดกำลังดีตีคู่กันไปกับโทนสว่างครีมเสียด้วย และที่สำคัญกลิ่นอายพลาสติคที่คิดว่าน่าจะจางลงไป แต่กลับยังคงอยู่เบาๆ เลยทำให้อารมณ์กลิ่นในตอนนี้ให้ความรู้สึกแบบสีครีมนวลในความดาร์กมืดที่ดึงดูดกันอย่างชัดเจนและคงตัวยาวไปแบบเสถียรทางการปล่อยพลังเลยทีเดียว 

เหมาะสำหรับ - Unisex ที่ค่อนไปทางผู้หญิงมากกว่าหน่อยราวๆ 65-70% แต่เพราะกลิ่นอายมันออกแนวสภาพแวดล้อมด้วยส่วนหนึ่ง ผู้ชายเลยใช้ได้ไม่ยาก แต่จะยากตรงที่พลังของกลิ่นที่มาเต็มมาแรงไม่อ่อนข้อให้ใครนี่แหละ ซึ่งสามารถใส่ได้ในหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวัน แบบจำนวนสเปรย์ต้องเหมาะสมหน่อย ไม่หนักมือเกินไป อย่างดี 2-3 สเปรย์ก็อาจจะจุกได้แล้ว กลิ่นอาจจะไม่เหมาะกับงานทางการจัดๆ จัด เน้นใส่แบบทั่วๆ ไป ไม่ว่าจะทำงานหรือชิลล์ๆ อย่างมีสไตล์จะดีกว่า ตัดการใส่เพื่อกิจกรรมกลางแจ้งและออกกำลังกายไปได้เลย กลิ่นจะจุกคอหอยทั้งตัวเองและคนอื่นๆ รอบทิศกันได้ ส่วนยามค่ำคืนเอาจริงๆ ถ้าแน่ก็ใส่ไปท่องราตรีได้สบายมาก เน้นความ Unique ที่แปลกแต่มีชั้นเชิงได้เลยและสามารถแย่งซีนได้หมด แม้กระทั่งใครจะกลิ่นแน่นหวานเยิ้มมาก็ตาม 

ความทน - ที่สุดของแจ้อีกดอก เพราะกลิ่นทนจัดมากกกกกก แบบที่ 15 ชม. แล้ว กลิ่นยังปล่อยพลังอยู่ แถมอาบน้ำล้างตัวแล้วก่อนนอนกลิ่นยังโดยออกมาอยู่ แถมข้ามวันแบบนอนตื่นมากลิ่นก็ยังติดอยู่ คือ ยอมใจ ทนไปอี๊กกกกก!

การกระจาย - Beast Mode ชัดเจน มาเต็ม มาแรง มาชัด ข่มทุกสิ่งอย่างรอบข้าง ปล่อยพลังกระจายดีขั้นสุดและที่สุดของแจ้กันเลย แล้วจะลดลงมากระจายดีคงตัวยาวไปเรื่อยๆ จนเมื่อพ้นซัก 5-6 ชม. จะลดลงมากระจายปานกลางที่ยังคงชัดเจนและผู้คนรอบตัวได้กลิ่นอยู่ ซึ่งชัดเจนเลยว่าตัวจริง แบบที่ถ้าใครใช้ไปเกิน 3-4 สเปรย์แล้วยังบอกว่าตัวนี้เป็น Safe Scent หรือไม่ได้กลิ่น ขออันเชิญคนนั้นไปทำบุญกรวดน้ำให้จมูกได้เลย จมูกคงตายไปจากโลกนี้แล้ว 

สรุป - กลิ่นนี้สร้างภาพในหัวออกมาได้เลยถึง ผู้หญิงที่เย้ายวนในห้องที่ปูผนังด้วยพลาสติคเบกาไลท์แต่ปิดไฟสลัว กับกลิ่นอายดอกไม้ขาวเจือกลิ่นหนังที่ดึงดูดเร้าใจปนเขียวคมรายล้อม โดยนางกำลังมีความสุขและเคลิบเคลิ้มราวกับเสพติดบางอย่างอยู่นี่แหละชัดเจนกับความเป็น Nuit de Bakelite 

ปล. จากรูปซ้ายเป็นขวดรุ่นใหม่ที่ปรับราคาขึ้นแล้ว ส่วนขวาเป็นขวดรุ่นเก่า

หมายเหตุ: 
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ นอกเหนือจากนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ

Photo Credit - https://www.naomigoodsir.com/en/e-boutique/nuit-de-bakelite และhttps://www.woodberg.de/en/naomi-goodsir-parfums-nuit-de-bakelite-eau-de-parfum.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น