วันศุกร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2562

Review: Miller Harris - Rose En Noir

Miller Harris - Rose En Noir 

เริ่มต้นจากการเป็น Exclusive เฉพาะห้าง Liberty ที่ลอนดอน แต่เพราะกลิ่นอายที่สร้างออร่าความเป็นกุหลาบดำได้อย่างมีชั้นเชิงและมีเสน่ห์ของ Rose En Noir ที่ทำให้ Miller Harris นำเอาน้ำหอมรุ่นนี้มาสู่ Collection ปกติในเวลาต่อมาและก็เลิกผลิตเป็นที่เรียบร้อย เช่นนั้นเมื่อมีความพิเศษแบบนี้ก็ต้องลองและเล่ากลิ่นกันซักหน่อยว่า แบรนด์ Niche จาก UK แบรนด์นี้จะสื่อสารความเป
็นกุหลาบดำออกมาในลักษณะไหนบ้าง 

เปิดตัวด้วยความชัดเจนของโทนเครื่องเทศที่มีทั้งความปร่าซ่าของเม็ดผักชี โทน Animalic ติดสาบอ่อนๆ ตามธรรมชาติที่มีความนัวของยี่หร่า และโทน Effect บางอย่างที่ทำให้รู้สึกถึงกลิ่นอายโทนแยมติดเบอร์รี่ปนเปรี้ยวเขียวหน่อยๆ แต่กลิ่นไม่ได้จัดจ้านจ๋าฟรุตตี้อะไรนักออกทางลึกๆ และแฝงอยู่ให้รู้สึกได้ แต่ให้ความหวานหน่อยๆ ออกทางสีแดงเข้มเสียมาก แต่มันไม่ได้มีแค่นี้ เพราะกลิ่นที่รองพื้นและเป็นเหมือนพี่ใหญ่คุมโทนกลิ่นนั่นก็คือ กุหลาบ ซึ่งทุกโทนกลิ่นในช่วงนี้ที่ล้อมรอบความเป็นกุหลาบจะสร้างออร่าออกทางติดดาร์ก ปร่า และกึ่ง Velvet กำมะหยี่ที่มีมิติซ้อนกันของกลิ่นได้อย่างน่าสนใจมากโดยไล่จาก ปร่าเผ็ดคมกำลังดี สาบปลุกเร้าแต่ติดหวานแยมนัวๆ และกุหลาบลุ่มลึก ทุกอย่างสร้างอัตลักษณ์ของการเป็นกุหลาบสีเข้มในที่มืดติด Spicy ได้อย่างน่าสนใจมาก 

แล้วเมื่อความอวลปร่าคมๆ ในช่วงแรกเริ่มจางลงไป สิ่งที่จับต้องได้ในช่วงต้นเริ่มที่จะมีการเปลี่ยนแปลงเพราะกุหลาบแดงกำมะหยี่ในที่มืดในช่วงต้น จะเริ่มแปรสภาพความรู้สึกจากกุหลาบแดงเข้มเป็นกุหลาบดำเจือสีเหลื่อมม่วงมากขึ้น เพราะออร่าความดาร์กของกลิ่นเริ่มจะชัดขึ้นตามลำดับ โดยที่โทนคมๆ ติดเครื่องเทศปน Animalic จะเบาลงไปเหลือเพียงอ้อยอิ่ง ซึ่งจะมีกลิ่นของยาสูบติดแห้งหวานที่เข้ามาให้ความดาร์กโปร่งเคล้ากับกลิ่นปร่านุ่มของพริกไทยเสริมเข้ามาและมีกลิ่นอายออกทางเขียวเจือหวานติดชื้นเล็กๆ ของใบไวโอเล็ตที่ทำให้กลิ่นได้ลักษณะออกทางกำมะหยี่เข้ามาด้วย ทำให้ช่วงกลางคือการผสมผสานที่ลงตัวมากระหว่างการเป็นกุหลาบกับยาสูบที่มีความนุ่มปนกำมะหยี่กับบรรยากาศโปร่งๆ เจือหวานติดปร่าหน่อยๆ ซึ่งถือเป็นไฮไลท์ของน้ำหอมรุ่นนี้เลยทีเดียว เพราะสื่อถึงคำว่า Rose En Noir ได้ชัดเจนมาก จนเมื่อความเป็นยาสูบเริ่มเป็นตัวหลักในการเดินกลิ่น และมีโทน Musky ติดออกทางโปร่งปนเมทัลลิคติดเขียวบางๆ แทรกตัวเนียนขึ้นมา ก็เป็นการเป็นเข้าสู่ช่วงท้ายของน้ำหอม ซึ่งจะมีเลเยอร์กลิ่นแบ่งมิติเป็น 3 ส่วนคือ กลิ่นอายโทนยาสูบที่ออกทางแห้งมีความดาร์กโปร่งๆ ปนหวานระเรื่ออยู่ด้านบนสุด ไล่ลงมาตรงกลางที่กลิ่นออกทางแป้งหอมกุหลาบติดปร่าอ่อนๆ นิ่งๆ มีระดับและไม่โฉ่งฉ่าง แล้วปิดท้ายด้วยกลิ่นพิมเสนที่ให้ความหวานติดดินๆ Earthy หน่อยๆ ดึงดูดเย้าจมูกคลอไปกับกลิ่นอายโทน Musk โปร่งๆ ติดเขียวเมทัลลิคที่มาจาก Ambrette (เป็นพืชชนิดหนึ่งที่ให้กลิ่นโทน Musky แต่ไม่ได้ถึงกับนุ่มแบบ Musk ที่มาจากสัตว์ ซึ่งกลิ่นจะมีความโปร่งมากกว่านวล แต่ยังคุมโทนลักษณะแบบ Musk ที่จะติดผักกึ่งเมทัลลิคบางๆ) ซึ่งนอกจากที่กลิ่นจะมีมิติในการดมแล้ว ยังส่งเสริมกันและผสมผสานกันเป็นอย่างดีมาก โดยที่ยังคุมโทนกลิ่นอายดาร์กปนกุหลาบในอีกอารมณ์หนึ่งเข้ามาแทน นั่นคือ กลิ่นมีความนิ่งเรียบหรูเคล้าออร่าความดาร์กดึงดูดมีเสน่ห์แบบโปร่งกำลังดี เนียนกำลังงาม และไม่ธรรมดาในการสร้างภาพลักษณ์ของกลิ่นที่มีอะไรให้น่าค้นหาไปตลอดเลยทีเดียว 

เหมาะสำหรับ - ผู้หญิงทุกเพศวัยทำงานเป็นต้นไป ซึ่งถ้าใครชอบกุหลาบเป็นทุนเดิมเรียกว่าจะได้มิติในการดมกุหลาบที่แตกต่างไปอีกด้านที่เป็นโทนดาร์กโปร่งๆ ได้เลยทีเดียว ซึ่งสามารถใส่ได้ในหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวัน แบบจำนวนสเปรย์เหมาะสม เพราะมากไปเดี๋ยวช่วงแรกๆ จะตึ้บเพราะกลิ่นเครื่องเทศไปเสียก่อนที่จะได้สัมผัสความงามของกลิ่นสร้างอัตลักษณ์ของกุหลาบดำกำมะหยี่ของน้ำหอมรุ่นนี้ จะมีก็แต่การใส่เพื่อออกกำลังกายที่ไม่เข้าทางแต่อย่างใด ส่วนยามค่ำคืนบอกเลยจัดไป กลิ่นมีเสน่ห์ดึงดูดและเย้ายวนแบบโปร่งๆ ได้ดีและน่าสนใจมากจริงๆ ส่วนคุณผู้ชายเอาจริงๆ ใส่ตัวนี้ได้สบายมาก เพราะว่ากลิ่นไม่ได้ออกทางสาวจ๋าๆ เกินไป กลิ่นมีความขรึมและสุขุมไม่น้อย แถมช่วงท้ายของกลิ่นมีความ Unisex มากเสียด้วย 

ความทน - ดีงาม เจอสูงสุดที่ 12 ชม. ได้เลย ซึ่งถ้าเฉลี่ยก็ราวๆ 8 ชม. เป็นพื้นฐาน 

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีมากในตอนต้น (เลยให้ยั้งๆ สเปรย์บ้างเดี๋ยวตึ้บไปเสียก่อน) แล้วจะลดลงมากระจายดีไปเรื่อยๆ พอพ้นซัก 4 ชม. ถึงจะค่อยๆ ลงมาเรื่อยๆ จนเมื่อผ่านไปซัก 8 ชม. ถึงเป็นออร่ารอบๆ ตัวไปเรื่อยๆ จนกว่าจะจางไป

สรุป - กุหลาบในความมืด ที่สามารถสัมผัสได้ และทำให้เรานึกถึงกุหลาบสีแดงเข้มจนกลายเป็นสีดำเหลือบม่วงในความมืดมีบรรยากาศโปร่งๆ แต่ดึงดูดและเย้ายวนเนียนๆ นี่แหละ Rose En Noir ของ Miller Harris ที่ตอนนี้กลายเป็นน้ำหอมที่เลิกผลิตไปเสียแล้ว 

หมายเหตุ: 
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ นอกเหนือจากนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ

Photo Credit https://www.pinterest.com/pin/215258057164236544/


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น