Creed - Viking
หลังจากที่ Aventus ประสบความสำเร็จมหาศาลมาก จนทำให้ Creed เป็นที่รู้จักและเป็นที่นิยมมากๆ ในผู้ผู้ใช้น้ำหอมทั้งใหม่และเก่า จนเรียกว่ากลายเป็นหนึ่งในกลิ่นอายมหาชนที่มีตัวคล้ายเกิดขึ้นเพื่อเจริญรอยตามความสำเร็จอย่างมากมาย และแม้ว่า Creed จะออกน้ำหอมชายมาใหม่อีกกี่รุ่นตามหลังก็ไม่สามารถขึ้นไปยืนเทียบเท่า Aventus ได้ง่ายๆ เลย และได้มาถึงน้ำหอมชายรุ่นล่าสุดอย่าง Viking ที่เกิดกระแสขึ้นอย่างมากก่อนจะออกใหม่ว่าจะเป็นหนึ่งในตัวหลักของแบรนด์ได้หรือไม่ในด้านของกลิ่น เช่นนั้นเมื่อวางจำหน่ายตั้งแต่ปี 2017 และได้ทดลองใช้มาพอสมควร ในด้านของกลิ่นก็สามารถเล่าออกมาได้แบบนี้ว่า
เปิดต้นกลิ่นมาด้วยความเป็นโทน Citrus ที่ติดสว่างปนกลิ่นอายเย็นๆ กันก่อนเลย ซึ่งกลิ่นของเลมอนที่ให้ความเปรี้ยวสว่างและติดหวานปลายกลิ่นจะเป็นตัวหลักในการเดินกลิ่นก่อนใครเพื่อน แต่กลิ่นจะไม่ได้แหลมคมแต่อย่างใด เพราะในเนื้อกลิ่นจะมีความเปรี้ยวขมปนเขียวติดโทนแห้งที่มีโทนปร่าอ่อนๆ ติด Spicy ตามขนบโทนกลิ่นมะกรูดฝรั่ง (Bergamot) และจะมีความเป็นโทนอะโรม่าเจือความปร่าอ่อนๆ เย็นๆ ติดโทนกุหลาบ รวมถึงจับต้องความเป็นโทนสมุนไพรอ่อนๆ ที่สร้างความอะโรม่ากำลังดี ทำให้กลิ่นเปิดจะเป็นโทนสดชื่นติดเรียบหรูปนสะอาดที่มีระดับกันก่อนเลย รวมถึงสื่อสารได้ชัดถึงกลิ่นอายแบบสุภาพบุรุษที่คาบเกี่ยวระหว่างโทน Classic กับ Modern และค่อนไปทางสาย Barber Shop Scent ชัดเจน แต่ไม่ใช่แค่นั้น เพราะจะจับต้องได้ถึงกลิ่นอายติดโทนเค็มๆ ติดอวลไม้หอมแห้งๆ หน่อยๆ ที่แฝงในเนื้อกลิ่นในสไตล์ของโทนกลิ่นของสารหอม Ambroxan แต่ไม่ได้โดดหรือเด่นออกมาจนโจ่งแจ้ง ซึ่งตรงนี้ถือว่าเป็นการสร้างอัตลักษณ์ได้ดีในการบอกถึงการเป็น Viking ที่มีความเกี่ยวข้องกับทะเลได้อยู่
เพียงไม่นานกลิ่นจะเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนแต่เชื่อมต่อทอเป็นผืนเดียวกันกับช่วงต้นได้เป็นอย่างดี โดยที่ผู้เล่นหลักจะเปลี่ยนเป็นโทน Icy เย็นๆ ซ้อนกับกลิ่นนวลปร่านุ่มปนกลิ่นออกทางทะเล แต่ยังมีความอะโรม่าปนสดชื่นสะอาดที่สร้างความเป็นสุภาพบุรุษในเนื้อกลิ่น ซึ่งโทน Citrus ตอนต้นจะยังตามมาแต่ผ่อนลงมากลายเป็นผู้สนับสนุนรองที่สร้างความสดชื่นเรียบหรูอยู่ในกลิ่นต่อเพียงแต่ความเป็นเลมอนจะหายไปคงเหลือแต่ Bergamot ที่ชัดเจนและเป็นตัวเชื่อมโทนที่ดีมากกับสาย Fresh Spicy เย็นๆ ที่มาจากมินต์ที่จะมีทั้งความเขียวปร่าโล่งจมูกในสายสมุนไพรที่เด่นขึ้นมาพร้อมกับความปร่านุ่มของโทนพริกไทยที่เป็นตัวรองพื้นสร้างออร่าความสะอาดนวลปร่าแต่ไม่แน่นปนกับความปร่าอวลไม้หอมแห้งและโทน Ambroxan ที่ให้ความเค็มนวลบางๆ ในกลิ่นสร้างความเป็นโทนคล้ายผิวกายติดเค็มอ่อนๆ ตามธรรมชาติได้เป็นอย่างดี โดยที่จะมีตัวสร้างอะโรม่าให้เนื้อกลิ่นจากกลิ่นกุหลาบที่ไม่ได้มาแบบแห้งๆ หรือว่าใสหวาน แต่จะคุมโทนออกทางสบู่ติดกุหลาบนวลอ่อนเจือโทนนวลค่อนไปกึ่งสมุนไพรปนอะโรม่าของลาเวนเดอร์ที่เนียนๆ อยู่ในกลิ่น และเมื่อลาเวนเดอร์เจอกับพริกไทยและ Citrus จะได้ลักษณะโทนกลิ่นที่บางวูบเป็นทะเลหน่อยๆ เข้ามาด้วย ซึ่งช่วงกลางนี้จะได้ภาพรวมของกลิ่นออกทาง Icy ติดทะเลเย็นๆ กับความเป็นสุภาพบุรุษสะอาดมีระดับเรียบหรูร่วมสมัยได้ชัดเจนมากและจะยาวไปจนถึงช่วงท้ายกลิ่นที่จะเริ่มเป็นกลิ่นอายสายไม้หอมที่มีความสะอาดนวลและมีความแห้งในระดับหนึ่งที่มาจากไม้จันทน์หอมและหญ้าแฝก คุมโทนกลิ่นด้วยโทนอวล Ambroxan อ่อนๆ และมีความเป็นโทนสดชื่นจากสายสมุนไพรที่ให้ความเขียวสะอาดกลางๆ กำลังดี โดยจะจับต้องได้ถึงกลิ่นลาเวนเดอร์และพิมเสนที่ให้ออร่าติดโทน Classic สุภาพบุรุษให้กับเนื้อกลิ่น ทำให้เลเยอร์การรับกลิ่นจะผสมผสานกันจับต้องได้ถึงความสะอาดติดสดชื่นอ่อนๆ ไปสู่กลิ่นอายนวลไม้หอมติดเค็มผิวกายบางๆ โดยกลิ่นอายจะมีโทนเย็น Icy ประปรายแบบลงตัว มีระดับ และคุมโทนสุภาพบุรุษได้ดีตั้งแต่ต้นยันท้ายได้อย่างสมดุลย์เลยทีเดียว
เหมาะสำหรับ - ผู้ชายทุกเพศวัยเรียนมหาลัยขึ้นไปก็สามารถใช้ได้แล้ว เพียงแต่กลิ่นจะไม่ได้มาสายเรียกเรตติ้งแบบ Aventus แน่นอน ออกแนวมาสายคุณชายสุภาพบุรุษมีความเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาหน่อย ที่เรียบหรูกำลังดีเสียมากกว่า แบบหวีผมเรียบแปล้ด้วย Pomade แต่ตัวเรียบร้อยดูสะอาดสะอ้าน แต่มีกิมมิคจากกลิ่นแนว Icy ทะเลอ่อนๆ อะไรประมาณนี้ ซึ่งใส่ได้แบบกวาดหมดเสียด้วยในทุกสถานการณ์ยามกลางวัน เพราะกลิ่นมีโทนที่ครอบคลุมการใช้งานได้ดีมาก ขนาดใส่ออกกำลังกายยังได้เลย (แต่มันแพงนะ เปลือง) ส่วนยามค่ำคืนเน้นใส่เพื่อออกงานหรือทั่วๆ ไปจะดีกว่า ตัดทิ้งการใส่ไปท่องราตรีเต้นรากแตกได้เลย โดนกลบแน่นอน
ความทน - ลงตัวที่ 8 ชม. เป็นพื้นฐาน ส่วนจะมากกว่านี้หรือไม่ ก็ว่ากันที่จำนวนสเปรย์และสภาพผิวด้วยส่วนหนึ่ง
การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้น แล้วจะลดลงมาปานกลางซักระยะก่อนเป็นออร่ารอบๆ ตัวแบบยาวไป คุมโทนกลิ่นอายสุภาพบุรุษได้เป็นอย่างดีเลย
สรุป - ถ้าเอา Viking มาเปรียบเทียบเรื่องความหอมกระชากใจและมีความว้าวหรือไม่กับ Aventus บอกเลย ยังไง Viking ก็แพ้ ซึ่งถ้าคาดหวังจะให้ปังและโดดเด่นจัดๆ ก็คงจะผิดหวังกันไป แต่ถ้ามองพิศและมองลึกลงไป กลิ่นนี้มีความเป็น Creed ที่ร่วมสมัยที่มีดีในตัวเองสูง โดยแฝงเอาโทนกลิ่นที่เป็นเทรนด์ของน้ำหอมยุคนี้อย่าง Ambroxan มาผสมผสานเนียนๆ และคุมโทนมีระดับและความเป็นผู้ดีในเนื้อกลิ่นที่เจริญรอยตามกลิ่นอายสายสุภาพบุรุษแนวเดียวกับ Green Irish Tweed หรือตัว Unisex อย่าง Royal Water ก็ยังได้เลย เช่นนั้น “ไม่ใช่ Viking ไม่ดี” แต่แค่ไม่ได้มาในรูปแบบที่ปังและเอาใจคนชอบสไตล์ Aventus ก็เท่านั้นเอง
หมายเหตุ:
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ นอกเหนือจากนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ”
Photo Credit - https://www.fragrantica.com/news/Creed-Viking-9928.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น