Salvatore Ferragamo - Convivio (2013)
จากที่ได้ผ่านกลิ่นอายแบบเทศกาลเก็บองุ่นที่แคว้น Tuscany ประเทศอิตาลีในรุ่น Vendemmia หนึ่งใน Collection - Tuscan Soul Quintessential ที่มีน้ำหอม 8 รุ่น กับการถ่ายทอดกลิ่นอายความเป็น Tuscany มาสื่อสารในรูปแบบกลิ่นต่างๆ ในสาย Exclusive ของแบรนด์ Salvatore Ferragamo ในรูปแบบความเข้มข้นแบบ Eau de Toilette (ที่เลิกผลิต ไปแล้ว แต่ก็ Upgrade เป็น EDP ที่เพิ่มราคาไปด้วยในทุกวันนี้) เมื่อโอกาสก็ได้กลับมาเจอกับอีกหนึ่งรุ่นที่มีโอกาสได้การเก็บสอยมาทันก่อนจะหมดไปจากตลาด ก็ต้องไม่พลาดที่จะมาเล่ากลิ่นกันหน่อยว่าจะถ่ายทอดความเป็นแคว้นชื่อดังนี้ออกมาในลักษณะไหน
ที่มาที่ไปของการสร้างสรรค์กลิ่น มาจากประโยคที่ทรงคุณค่าเลยก็ว่าได้นั่นคือ Legacy of Tuscany ที่เป็นมรดกที่ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นถึงปัจจุบัน โดยยังมีความรุ่งโรจน์ในอดีตที่ส่องสว่างมาให้รับได้เสมอจากยุคเรเนซองส์ในอดีตที่ยังคงความคลาสสิคจนถึงทุกวันนี้ รวมถึงแคว้นนี้ยังเป็นการผสมผสานระหว่างอดีตกับปัจจุบันได้อย่างลงตัวมาก เช่นนั้น Convivio จึงเป็นหนึ่งในน้ำหอมที่แบรนด์จะสื่อสารถึงกลิ่นอายของการเฉลิมฉลองความเป็น Tuscany ที่งดงามและส่องสว่างออกมานั่นเอง
เปิดตัวด้วยกลิ่นอายที่เป็นโทน Citrus แต่จะรองพื้นด้วยความอวลๆ กึ่งโทนแป้งปนไม้หอมนวลๆ ซึ่งจะจับต้องได้เต็มๆ เลยคือ กลิ่นของเกรปฟรุตที่จะให้โทนสว่างติดสดชื่นมีความเปรี้ยวแต่ไม่ได้ออกทางแปร่งๆ แบบกลิ่นแบบติดผิวเปลือกผลนัก ซึ่งจะเป็นตัวหลักเลยใช่ช่วงต้น โดยที่จะมีสายสนับสนุนอย่างโทนติดอวลแป้งหน่อยๆ ซึ่งมีลักษณะคล้ายกลิ่นโทนแป้งที่เป็นลักษณะติดอับอวลอ่อนๆ ปนดินหน่อยๆ แบบโทนดอกไอริสติดดินๆ ซึ่งก็เป็นลักษณะของเมล็ดแครอทที่ให้โทนแบบนี้ รวมถึงจะจับต้องได้ถึงกลิ่นไม้หอมแนวๆ ติดหวานปนเขียวปร่าอ่อนๆ แบบไม้สนไซเปรสที่จะเริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ทำให้ช่วงแรกจะได้ความเป็น Citrus ติดนวลอวลๆ กำลังดี สดชื่นค่อนไปทางนวลหอมไม้ที่ลงตัวมากและมีความร่วมสมัยในเนื้อกลิ่นได้ดีเลยทีเดียว
และไม้สนไซเปรสนี่แหละ จะเปลี่ยนตัวเองกลายเป็นตัวเอกหลักเมื่อกลิ่นเข้าสู่ช่วงกลาง ซึ่งกลิ่นเริ่มจะเป็นลักษณะติดโทนแป้งโปร่งๆ นวลเจือหวาน มีความอวลมากขึ้น ซึ่งจะเริ่มจับต้องได้ถึงกลิ่นอายแบบดอกไวโอเล็ตที่ให้โทนแป้งเขียวเจือหวานโปร่งๆ กับกลิ่นออกทางนวลมะลิเข้ามาร่วมด้วย รวมถึงกลิ่นอาย Citrus ของเกรปฟรุตในช่วงแรกจะเบาลงมาหน่อย แต่ยังให้ความสว่างปนสดชื่นในเนื้อกลิ่นได้ดี ซึ่งเสริมให้กลิ่นอายช่วงกลางมีมิติของความเป็นไม้หอมติดหวานเจือเขียวปร่านวลและมีความสดชื่นประปรายในเนื้อกลิ่นได้ชัดมากขึ้นซักพัก แล้วจะเริ่มรู้สึกได้ทีละหน่อยว่ากลิ่นมีความอุ่นและอวลรุมๆ ขึ้นตามลำดับ จนทำให้โทนเกรปฟรุตเริ่มเหลือเพียงเบาบาง กลิ่นจึงเริ่มเปลี่ยนเป็นโทน Musky Woody มากขึ้นเรื่อยๆ โดยมีกลิ่นแป้งนวลอ่อนๆ เป็นลูกคู่สร้างความนวลอวลในกลิ่นเข้าไปอีก แต่สิ่งที่ดีคือ กลิ่นไม่ได้ข้นหนักเกินไปนัก ยังมีความสมดุลย์มากพอที่สร้างความกลางๆ ที่ยังเป็นไม้หอมนวลเจือสดชื่นติดปลายหวานได้รื่นรมย์ หรูหรา และลงตัว แล้วจึงค่อยๆ มีการเปลี่ยนแปลงทีละหน่อยๆ จนเข้าสู่ช่วงท้ายที่จะเริ่มจับต้องได้ชัดเจนถึงกลิ่นโทนอบอุ่นกำลังดีปนกลิ่นอาย Musky เจือไม้หอมอวลๆ ซึ่งจะเป็นส่วนผสมของกลิ่นอายสาย Modern อย่าง Ambroxan ที่จะให้โทนอบอุ่นเจือติดเค็มอ่อนๆ กับโทน Cashmeran ที่จะให้ความอุ่นนัวที่เป็นลูกผสมของ Amber ไม้หอม และโทน Musky ที่ให้ความนวลเย้าดึงดูด อารมณ์เหมือนมีกลิ่นหนังกลับหน่อยๆ ซึ่งทำให้ให้ความอวลปนนัวรุมๆ ในเนื้อกลิ่นที่ชัดเจนไม่น้อย เพียงแต่การคุมความสมดุลย์ของกลิ่นที่กลางๆ กำลังดี ทำให้กลิ่นไม่ได้ไปสายอวลหนักและอุ่นนัวเกินไป เพราะว่ากลิ่นอายของโทนสนไซเปรสติดปร่าปนเขียวที่ยังตามมาอยู่ และอิทธิพลที่ทิ้งรอยทางเอาไว้ของโทน Citrus ยังมีบางๆ เลยทำให้กลิ่นจะนวลๆ อวลๆ แต่มีความสะอาดและติดไม้ปร่าหอม โดยที่ยังมีความเป็นโทนสว่างแบบมีระดับไปเรื่อยๆ นั่นเอง
เหมาะสำหรับ - Unisex ชัดเจน เพราะเป็นโทนกลิ่นอายที่ออกแนวเล่าเรื่องราวกึ่งสื่อบรรยากาศเลยจะไม่ได้เจาะจงไปที่ความเป็นเพศ ซึ่งสามารถใส่ได้ในหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวัน ไม่ว่าจะทางการหรือทั่วๆ ไปแบบที่ไม่ได้ออกแนวลุยๆ อะไรนัก เพราะกลิ่นให้ความสว่างและวางตัวดีเสียมากกว่า ไล่เรียงจากความสดชื่นอยู่ความนวลหรูสว่างๆ ส่วนยามค่ำคืนถ้าใส่ออกงานนี่จัดไป เพราะลงตัวมาก สร้างออร่ามาดหรูหราได้ดีเลย ส่วนการไปท่องราตรีตัดกลิ่นนี้ไปได้เลย ไม่เข้าทางทุกประการ
ความทน - กลิ่นทนดีงามเลยทีเดียวกับ 8 ชม. เป็นสำคัญ ซึ่งสามารถไปต่อได้อีกว่ากันที่จำนวนสเปรย์และสภาพผิวกายที่เอื้ออำนวยด้วย ซึ่งส่วนตัวเจอไปที่ 12 ชม. เป็นเรื่องปกติกับการใช้ที่ 6 สเปรย์
การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้นแบบสายสดชื่นติดนวลรองพื้น แล้วจะลดลงมาที่กระจายปานกลางแบบยาวๆ ไปจนถึงช่วงท้าย พอพ้นซัก 6 ชม. จะค่อยๆ ลดลงมาเป็นออร่ารอบๆ ตัวแบบยาวไป
สรุป - Convivio (2013) เป็นการสื่อสารที่ตีคู่กันได้เป็นอย่างดีระหว่างโทนสไตล์คลาสสิค ร่วมสมัย และทันสมัย ที่ไล่เรียงกันไปได้อย่างมีระดับ ซึ่งทุกอย่างตรงตาม Concept ในการสร้างสรรค์น้ำหอมได้เป็นอย่างดีมาก ที่สำคัญให้ออร่าความเป็นโทนหรูสว่างนวลได้ดีมากจริงๆ
หมายเหตุ:
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ นอกเหนือจากนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ”
Photo Credit - https://www.poshnpose.com/shop/salvatore-ferragamo/fragrance/ferragamo-convivio-edt-75ml-women/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น