Christian Dior - Eau Sauvage Cologne
ว่ากันด้วยความคลาสสิคของกลิ่นหอมฝั่งน้ำหอมผู้ชายของแบรนด์ Dior ที่หลายคนจะนึกถึงสาย Fahrenheit ที่เอาอยู่แบบมาดแมนเหลือทนในช่วงปลายยุค 80 และยาวนานจนถึงปัจจุบันแล้ว ยังมีคลาสสิคย้อนกลับไปมากกว่านั้นที่ยังอยู่ยืนยงมาจนถึงทุกวันนี้ตั้งแต่ช่วงยุค 60 จนถึงทุกวันนี้ด้วยเช่นกันกับกลิ่นอายสายสดชิ่นคลาสสิคมีระดับแบบสุภาพบุรุษนั่นก็คือสาย Eau Sauvage ซึ่งได้มีการแตกไลน์มีลูกหลานออกมาครั้งแรกก็ช่วงยุค 80 และข้ามมาอีกทีก็ช่วงปี 2000 ที่มีการต่อยอดออกมาอีกหลายรุ่นเลยทีเดียวจนถึงปัจจุบัน
และเมื่อได้มีโอกาสได้มาเจอสายนี้ ก็ยังไม่ใช่ตัวต้นตระกูล แต่จะมาเจอกับรุ่นหลานแทนที่จะมาในลักษณะกลิ่นอายสไตล์ Cologne ของความเป็น Eau Sauvage ในการตีความความคลาสสิคที่มีความร่วมสมัยมากขึ้น โดยการวางจำหน่ายในปี 2015 เป็นต้นมา เช่นนั้นได้เวลาพิสูจน์ว่ากลิ่นอายจะมาในลักษณะใด
บอกก่อน - เนื่องจากเคยผ่านการใช้ Eau Sauvage ตัวต้นตระกูลเพียงผิวเผิน เลยจะไม่ได้เล่าความเชื่อมโยงอะไรที่อาจจะชัดเจนนัก แต่จะเล่ากลิ่นที่การเป็น Eau Sauvage Cologne เป็นสำคัญ
เพียงแค่เปิดตัวขึ้นมาความเป็นโทนกลิ่นแนว Citrus Aromatic จะชัดเจนมากเลยทีเดียวกับกลิ่นอายโทนเปรี้ยวสดชื่นเจอความเขียวคมๆ รองพื้นที่ให้อารมณ์ติด Classic Traditional Cologne หรือลักษณะ Barber Shop Scent แบบเป็นวูบๆ ที่ไม่ได้หนักหน่วงคมปรี๊ดมากนัก แต่ให้ความเป็นตัวรองพื้นที่ดีที่เหมือนเป็นการส่งต่อจากกาลเวลาของกลิ่นหอมแนวสดชื่นคลาสสิคให้มาเจอกับความสดชื่นสว่างๆ ของสาย Citrus ที่มีความเป็นธรรมชาติดีเลยทีเดียว ซึ่งต้องยอมรับเลยว่าเป็นการไล่เลเยอร์กลิ่น Citrus ได้ดีมาก เพราะจะได้อารมณ์เปรี้ยวติดแปร่งสว่างๆ ของเกรปฟรุตเด่นออกมาตามด้วยความเป็นกลิ่นโทนส้มที่ติดหวานหน่อยๆ ของส้มจีน แต่จะมีกลิ่นอายเปรี้ยวติดขมปนเขียวปร่า Spicy หน่อยๆ ที่ล้อมๆ กลิ่นสร้างบรรยากาศอยู่ตลอดของมะกรูดฝรั่ง (Bergamot) ร่วมอยู่ด้วย โดยที่กลิ่นอายติดเขียวเปรี้ยวสดชื่นแบบคมหน่อยๆ จะรองพื้นอยู่ด้านหลังให้ความรู้สึกสดชื่นเต็มที่เลยทีเดียว
เมื่อกลิ่นเริ่มลดทอนความเป็น Citrus ในช่วงแรกลงมาบ้าง แต่ก็ยังคงชัดเจนอยู่ คราวนี้กลิ่นโทนเขียวติด Citrus จะกลายเป็นผู้เล่นที่ตีคู่ขึ้นมาเคล้ากับ Citrus อย่างเต็มตัว ซึ่งความเด่นจะมาจากกลิ่นเขียวคมๆ ของยางไม้อย่าง Galbanum ที่ให้ความเขียวพุ่งๆ เพียงแต่พุ่งคมแบบกำลังดีเสียมากเพราะมีกลิ่นของกิ่งก้านส้ม (Petitgrain) มาช่วยทำให้กลิ่นเขียวมีค่อนไปทางกึ่งดอกส้มติดเขียวเปรี้ยวอ่อนๆ หน่อยๆ รวมถึงมีกลิ่นของโทนออกทางมะลิติดหวานใสสบายๆ เคล้ากับโทนกุหลาบติดปร่านวลฝาดอ่อนๆ ที่น่าจะมีจากพริกไทยสีชมพู ทำให้กลิ่นให้ช่วงกลางจะเริ่มจากคมนิดนึงเคล้า Citrus แล้วค่อยๆ ปรับเป็นเขียวเจือ Citrus ที่ให้ความรื่นรมย์ปนสดชื่น โดยยังคุมโทนความเป็น Cologne สไตล์ติดคลาสสิคได้ดีไม่พอ กลิ่นยังมีความสะอาดและสบายๆ ติดเขียวเจือดอกไม้อ่อนๆ ที่มาเจอกันอย่างลงตัวทำให้คุมโทนความร่วมสมัยได้ดีและให้ความเป็นกลิ่นอายสไตล์สุภาพบุรุษที่มีความ Cool เคล้าคลาสสิคได้ดี จนเมื่อกลิ่นเริ่มมีโทนออกทางหญ้าแฝกที่ให้กลิ่นไม้แห้งๆ ติดขมเสริมขึ้นมาทีละหน่อยและมีโทน Earthy ติดหวานเย้าอ่อนๆ เนียนๆ อ้อยอิ่งที่เนียนเข้ามาด้วย ก็เริ่มปูทางเข้าสู่ช่วงท้ายของน้ำหอมที่เป็นกลิ่นอายหญ้าแฝกเด่นนำทางเพียงแต่จะไม่ได้เป็นสายดาร์กเลย กลิ่นมาแบบ Lite Version สว่างๆ ให้ความรู้สึกกึ่ง Earthy ติดดินเคล้าไม้แห้งๆ และมีกลิ่นโทน Musky อ่อนๆ สะอาดๆ ที่ซ่อนอยู่เนียนๆ เป็นโทนหลักของช่วงนี้ โดยที่กลิ่นในช่วงกลางอย่างโทนดอกไม้อ่อนๆ เคล้า Citrus ติดเขียวยังตามมาในช่วงนี้แบบเบาๆ สบายๆ ทำให้กลิ่นจะมีความรื่นรมย์ปนสะอาดเจือเขียวที่สมดุลย์กำลังดีเข้าทางสไตล์ Cologne กลิ่นอายสุภาพบุรุษที่มีระดับและกึ่งคลาสสิคกึ่งร่วมสมัย ได้อารมณ์แบบผู้ชายแต่งตัวแบบสะอาดสะอ้านติด Cool เรียบหรูได้ชัดเจนมากจริงๆ
เหมาะสำหรับ - ผู้ชายทุกเพศวัยทำงานขึ้นไปก็สามารถใช้ตัวนี้ได้สบายมาก ได้หมดถ้าสดชื่นและติดคลาสสิคหน่อยๆ ได้ดีเลยทีเดียว ซึ่งกลิ่นจะให้ความเป็นสุภาพบุรุษสดชื่นแบบที่ไม่ได้ถึงกับต้องเนี้ยบเรียบแปล้อะไรมากก็เอาอยู่และ Cool ได้อย่างสบายๆ โดยสามารถจัดได้หมดทุกสถานการณ์ยามกลางวันเลย ยังไงก็รอดและเรียบหรูได้สบายมาก ส่วนยามค่ำคืนเน้นใส่แบบทั่วๆ ไปให้ความสดชื่นในวันอากาศร้อนๆ หรืออากาศสบายๆ จะดีกว่า เพราะกลิ่นไม่เข้าทางกับการใส่ไปเที่ยวผับบาร์เท่าไหร่ แต่ถ้าใส่ไปจิบๆ อะไรนิดหน่อยอันนี้ได้อยู
ความทน - เกินคาดมาก เพราะโดยทั่วไปการเป็น Citrus Aromatic มักจะไม่ได้ถึงกับทนจัดนัก แต่ตัวนี้บอกเลยว่าสูงสุดที่เจอคือ 12 ชม. แบบชิลล์ๆ เลย ซึ่งค่าเฉลี่ยรวมๆ ทุกสภาพผิวน่าจะอยู่ที่ราวๆ 8 ชม. ได้ไม่ยาก
การกระจาย - กลิ่นกระจายดีมากในตอนต้น แล้วจะค่อยๆ ลดลงมากระจายดีซักระยะ ก่อนเป็นปานกลางยาวๆ ไป จนเมื่อเข้าช่วงท้ายจะเป็นออร่าสดชื่นไปเรื่อยๆ ซึ่งอันนี้ยอมเขาเลย ทำได้ดีจริงๆ
สรุป - อีกหนึ่งกลิ่นอายสดชื่นสไตล์สุภาพบุรุษที่ร่วมสมัยแตะได้ทั้งความคลาสสิคและทันสมัยได้หมด และยังมีความเรียบหรูกึ่งสบายๆ ให้ความ Cool กำลังดีไปตลอด ยอมมม กลิ่นเข้าดีจริงๆ
หมายเหตุ:
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ นอกเหนือจากนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ”
Photo Credit - https://www.myer.com.au/p/dior-eau-sauvage-cologne-50ml-288111070-288122950
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น