วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2562

Review: Sospiro - Wardasina / Xerjoff - Velvet Collection: Wardasina

Sospiro - Wardasina / Xerjoff - Velvet Collection: Wardasina

Sospiro เปิดตัวออกมาครั้งแรกในปี 2011 กับการเป็นแบรนด์ Niche Perfume ใหม่ที่อยู่ภายใต้การดูแลของแบรนด์ Niche Perfumery หรูชื่อดังอย่าง Xerjoff กับการนำเสนอความเป็นศิลปะที่ถ่ายทอดออกมาทางกลิ่นอายต่างๆ แบบสไตล์อิตาเลี่ยนและเมดิเตอร์เรเนียนก็จริง แต่ไม่ได้ซ้ำกับแบรนด์ใหญ่อย่าง Xerjoff เพราะมุ่งมาที่การถ่ายทอดความเป็นกลิ่นอายต่างๆ ท
ี่มีแรงบัลดาลใจมากจากดนตรีคลาสสิคและละครโอเปร่าแทน กับรูปทรงขวดที่หุ้มด้วยกำมะหยี่หรูหราหมาเห่าที่สุดของแจ้มาแต่ไกล รวมถึงราคาเองก็สมฐานะการเป็นสาย Luxury ที่เห็นแล้วก็ ขนลุกไปอี๊กกกก!

Sospiro เดินทางมาจนถึงปี 2018 ก็เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างเกิดขึ้น เพราะแบรนด์เองก็สลัดภาพของ Xerjoff ไม่หลุดไม่พอยังไม่ค่อยได้รับความนิยมเท่าที่ควร ในปี 2019 จึงได้เกิดการควบรวม โดย Sospiro ได้เปลี่ยนสภาพมาเป็นหนึ่งใน Collection หนึ่งของแบรนด์ใหญ่แทนอย่าง Xerjoff - Velvet Collection แต่จะปิดฉากแบรนด์ Sospiro ยาวเลยไหมก็ว่ากันอีกที ซึ่งหลายๆ รุ่นของ Sospiro ก็ได้มาประจำการกับการเป็น Xerjoff โดยไม่ได้มีการปรับสูตรแต่อย่างใด ซึ่งรวมถึงรุ่นที่กำลังจะเล่ากลิ่นในครั้งนี้ด้วยอย่าง Wardasina ที่มาแดงแรงฤทธิ์เพียง 1 เดียวของไลน์นี้กับการนำเสนอความเป็นโทนกุหลาบซึ่งจะไม่ธรรมดาแค่ไหน ก็ว่ากันได้ตามนี้เลย 

Wardasina เป็นน้ำหอมกลิ่นกุหลาบที่เรียกว่ามีความโดดเด่น 3 กลิ่นหลักเลย คือ กุหลาบ หญ้าฝรั่น และยาสูบ ที่แต่ละโทนต่างก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีและผสมผสานสอดรับกันเป็นอย่างดีที่สร้างลักษณะลึกลับน่าค้นหาแบบนิ่งๆ แต่มีความซับซ้อนซ่อนอยู่ได้อย่างน่าสนใจและงดงามมากเลยทีเดียว ซึ่งกลิ่นจะเปิดตัวกันที่ความสดชื่นติดนิ่งๆ แต่ไม่ธรรมดา เพราะการเล่นโทนสมุนไพรติดเขียวๆ ที่ควรจะเป็นโทนสดชื่นแบบสายคลาสสิค แต่ปรับให้กลิ่นมีความลึกลับกันตั้งแต่แรกด้วยโทนติดดาร์กแต่ไม่สากดิบเกินไปของพิมเสน ที่ให้ความระเรื่อแบบเขียวปร่าซ่าหวานลึกแบบหรูหรากำลังดีที่เกลากลิ่นมาอย่างงาม ตีคู่กับความเป็นสมุนไพรติดเขียวปร่าอ่อนๆ แต่เพียงชั่วขณะตัวเอกของเราก็มา นั่นคื กุหลาบ ที่จะให้ความติดฝาดหวานขรึมเสริมเข้ามาแบบกำลังดี ไม่ได้ดูเป็นกุหลาบแห้งแดงฟุ้งๆ แบบสายกุหลาบคลาสสิค และไม่ได้ใสจ๋าแบบน้ำกุหลาบสดชื่นอะไรแบบนั้น ทำให้ช่วงต้นจะสร้างออร่าที่ชัดเจนถึงการเป็นกลิ่นอายสายลึกลับติดขรึมวางตัวมีระดับกันตั้งแต่แรกเริ่มเลยทีเดียว 

กุหลาบจะเป็นตัวเอกหลักที่จะสร้างความเป็นกุหลาบแดงแบบเย้าลึกน่าค้นหากันอย่างชัดเจนมากขึ้นในช่วงกลาง เพราะหญ้าฝรั่นจะเปิดตัวออกมาและเป็นตัวที่สร้างความลึกอวลน่าค้นหาของกลิ่น ทำให้กลิ่นที่ตามมาจากช่วงต้นจะผสมผสานกับกลิ่นในช่วงกลางนี้ ในลักษณะแบบกุหลาบ หญ้าฝรั่น และพิมเสนที่แท็คทีมกันได้ดีมากในการสร้างลักษณะความลึกลับเย้ายวนและดึงดูด อารมณ์จะไม่ได้ยั่วยวนอะไรโต้งๆ โจ่งแจ้งนัก แต่จะให้ความมีระดับและมีความสูงศักดิ์หรูหราแบบนิ่งๆ ขรึมๆ กึ่งเย็นชาหน่อยที่สร้างอัตลักษณ์ทางกลิ่นที่น่าค้นหาเป็นตัวตั้ง ที่สำคัญไม่ได้มีเพียงแค่ 3 โทนข้างต้น กลิ่นจะยังมีโทนไม้หอมที่ Smoky อ่อนๆ เข้ามาเสริมจากไม้ซีดาร์อีกด้วย ทำให้ทุกอย่างจะครบถ้วนกับการเป็นโทนอวลลึกดึงดูดมีระดับเข้าไปอีกแบบที่จะสัมผัสกลิ่นกุหลาบติดฝาดหวานระเรื่อปนอวลหวานปนขมลึกของหญ้าฝรั่น เสริมออร่าความดาร์กลึกลับด้วยพิมเสนกับโทนไม้หอมปนควันอ่อนๆ ดึงดูดโปร่งๆ ของไม้ซีดาร์ ที่ทำให้เห็นภาพออกมาเป็นช่อกุหลาบแดงกลีบกำมะหยี่ที่มี Spotlight ส่องลงมาท่ามกลางความสลัวที่รายรอบ มันโดดเด่นน่าสนใจขนาดไหนก็แบบนั้นเลย 

และไม่นานกลิ่นโทนยาสูบจะค่อยๆ เนียนเข้ามาสร้างความ Aromatic เจือหวานเฉพาะที่ติดควันอ่อนๆ จนเปิดทางเข้าสู่ช่วงท้ายของน้ำหอมที่กลิ่นโทนกุหลาบและหญ้าฝรั่นจะเริ่มเบาลงไปเป็นผู้สนับสนุนรองเสริมให้กลิ่นยาสูบเป็นตัวเดินกลิ่นหลัก เพียงแต่จะไม่ได้เป็นยาสูบที่มาสายอะโรม่า เพราะจะให้ความเป็นยาสูบติดขรึมปนลึกอวลน่าค้นหาแทน โดยกุหลาบจะให้ความหอมนวลปนฝาดบางๆ และหญ้าฝรั่นยังคงให้โทนลึกอวลปนขมหวานกรุยกรายหน่อยๆ อยู่ ที่สำคัญกลิ่นจะมีตัวรองพื้นชั้นดีอย่างวานิลลาอ่อนๆ แบบ Lite Version ผสมผสานกับ Musk เจือกลิ่นออกแนวสาบปลุกเร้า Animalic หน่อยๆ แต่ไม่ได้ชัดเจนมากจนเป็นนัยยะสำคัญของทิศทางกลิ่นนัก ซึ่งทำให้กลิ่นที่ได้จะเป็นหอมยาสูบติดควันหน่อยๆ ขรึมๆ เคล้าความขมปนหวานอวลลึกอบอุ่นของหญ้าฝรั่นที่สร้างความกรุยกรายมีระดับในเนื้อกลิ่น และมีโทนเย้าของ Musk ที่สร้างความเย้ายวนแบบเนียนๆ ซึ่งกุหลาบจะเหลือเพียงเบาๆ สร้างออร่ากลิ่นโทนออกทางสีแดงประปรายบางๆ อยู่พอสมควรก่อนจะจางไป คงเหลือกลิ่นที่เป็นโทนยาสูบเจือหญ้าฝรั่นหรูหราและ Musk เป็นตัวยืนพื้นแบบยาวๆ สร้างออร่ามีเสน่ห์ สูงศักดิ์ อบอุ่นหน่อยๆ และหรูหราไปเรื่อยๆ จนกว่าน้ำหอมจะพอใจบนผิวกายผู้ใช้นั่นเอง 

เหมาะสำหรับ - กลิ่นอายแม้จะมาสายกุหลาบสูงศักดิ์ หรูหรา ลึกลับและน่าค้นหา แต่ก็ไม่ได้ไปสายผู้หญิงเต็มๆ แต่อย่างใด มีความ Unisex สูงมากแบบที่ผู้หญิงใส่ก็จะดูมีความนางพญา ผู้ชายใส่ก็ดูเป็นคุณชายในโทนน่าค้นหา ซึ่งสามารถใส่ได้ในหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวัน ไม่ว่าจะเป็นทางการหรือทั่วๆ ไปแบบมีมาดหน่อย เพราะมันคุมโทนหรูหรามีระดับแบบนิ่งๆ เลยไม่เข้าทางกับการใส่ไปลั่นล้า กรี๊ดกร๊าดวี้ดว้าย หรือลุยๆ แต่อย่างใด จึงแนะนำให้ตัดการใส่เพื่อกิจกรรมกลางแจ้งหรือออกกำลังกายไปได้เลย ส่วนยามค่ำคืน การใส่ออกงานหรูนี่เข้าทางสุดๆ ส่วนท่องราตรีก็จัดได้เพียงแต่จะไปสายหรูหราวางตัว Cool และ Elegant มากกว่าที่จะปล่อยเสน่ห์เพื่อให้ได้ผัวได้เมียกลับบ้าน ก็มันกลิ่น High-End น่ะนะ 

ความทน - สุดติ่งมาก เพราะ 15 ชม. กลิ่นยังทำงานได้ดีอยู่เสมอต้นเสมอปลายมาก อันนี้ยอมโดดเด่นมากจริงๆ 

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในช่วงต้น และจะลดระดับลงไปเรื่อยๆ จนเมื่อพ้นซัก 6 ชม. ก็ออร่ารอบๆ ตัวไปยาวๆ แบบที่คงตัวและเสถียรมากจริงๆ อันนี้ก็ยอมเพราะคุมความกระจายแบบผู้ดีสูงศักดิ์ได้เป๊ะมาก 

สรุป - หนึ่งในกลิ่นกุหลาบสายหรูหราติดโทนดาร์ก แต่ไม่ได้ดำดิ่งจนหนักหน่วง ทุกอย่างมีความสมดุลย์ที่ลงตัวในการสร้างโทนลึกลับน่าค้นหาแบบไม่ต้องข้นนัว ซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างได้อารมณ์ของกุหลาบแดงกำมะหยี่ท่ามกลาง Spotlight ได้อย่างหรูหรา ไม่ธรรมดา และมีระดับสูงศักดิ์ได้ชัดเจนมากจริงๆ 

หมายเหตุ: 
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ นอกเหนือจากนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ

Photo Credithttps://www.orental.ru/woman/xerjoff/sospiro-wardasina/ และ https://www.eaudeparfum.nu/en_GB/a-42846156/xerjoff-v/xerjoff-v-wardasina-100ml/


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น