Memo Paris - Oriental Leather
ถ้าจะไปเที่ยวประเทศโอมาน
สิ่งที่ไม่ควรพลาดที่ต้องไปเยือนเลยคือ Wahiba Sands เขตทะเลทรายของโอมาน โดยเฉพาะการพักค้างคืนในแคมป์กลางทะเลทรายนั่งชมดาวอารมณ์โรแมนติคเจ้าชายและเจ้าหญิงอาหรับท่องทะเลทรายจะมาเต็มๆ แล้วต่อเนื่องไปที่โอเอซิสกลางทะเลทรายอย่าง Wadi
Shab ที่มีธารน้ำสีเขียวมรกตสวยงามลัดเลาะตามหน้าผ้าและชั้นหินให้ซึมซับความสวยงามเข้าไปอีก แต่
เพราะไม่ได้มาสาย
Blue Planet รีวิวการท่องเที่ยว
จึงมาเน้นกลิ่นของน้ำหอมเสียมากกว่า เช่นนั้น เมื่อ Memo Paris ได้เปิดตัวน้ำหอมใหม่ล่าสุดในปี 2019 นี้กับรุ่น
Oriental Leather ที่ถอดเอาความเป็นกลิ่นอายสไตล์ประเทศโอมานและการท่องเที่ยวในเขตทะเลทราย
Wahiba Sands ตั้งแต่ยามค่ำคืนสู่ยามกลางวัน
มีหรือที่จะไม่ลอง เช่นนั้นก็ได้เวลาของการบอกเล่าของดีโอมานผ่านกลิ่นกันหน่อยแล้วว่าจะเป็นอย่างไร
สิ่งแรกที่ต้องยอมให้เขาเลยคือ
การเอาจุดเด่นของประเทศโอมานมารวมในกลิ่นและสร้างอัตลักษณ์ของความเป็นกลิ่นโทน
Oriental เครื่องเทศต่างๆ
เคล้ากับความแห้งสไตล์กลิ่นอายทะเลทรายได้ดีมาก ซึ่งกลิ่นจะเปิดตัวกันเต็มๆ กับโทนเครื่องเทศแห้งๆ ที่มีความร้อนแรงกันพอสมควรอย่างกลิ่นของพริก
Pimento ที่อารมณ์พริกชี้ฟ้าที่เผ็ดร้อนหน่อย
แต่เท่าที่เห็น Note ไม่ได้มาจากพริกตรงๆ แต่มาจากใบ
เลยทำให้กลิ่นจะไม่ได้เผ็ดจ๋ามาก เคล้ากับโทนเม็ดผักชีที่ปร่าคมๆ
เผ็ดซ่าๆ ซึ่งเนื้อกลิ่นจะไม่ได้คมจัดเผ็ดขึ้นจมูกอะไรมากนักเพราะจะให้ความเป็นโทนแห้งๆ
เสียมาก และกลิ่นมีติดเผ็ดหวานอุ่นปนไม้หอมหน่อยๆ ของอบเชยมาสร้างความเป็นโทน Oriental ที่ติดอบอุ่นในเนื้อกลิ่นเข้าไป
เลยจะเป็นการตัดทอนให้ได้ออร่าความ Fresh Spicy แบบเครื่องเทศโทนเผ็ดปร่าที่ฟุ้งอวลกำลังดีแทนคมบาดพุ่งปรี๊ด
เคล้ากับโทนเผ็ดหวานอุ่น Oriental กำลังดี
และที่สำคัญมีความนวลแห้งอะโรม่าของลาเวนเดอร์เนียนๆ ในเนื้อกลิ่นด้วย
ทุกอย่างเลยคุมโทนความสมดุลย์ในการเป็นสายเครื่องเทศที่สื่อถึงความเป็นโอมานได้ดีเพราะกลิ่นต่างๆ
ในสภาพแวดล้อมหรือกลิ่นกายคนมักจะมีเครื่องเทศเจือด้วยเสมอ
เมื่อกลิ่นเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง
เพราะจะมีกลิ่นติดเขียวเจือกุหลาบอ่อนๆ แต่ค่อนไปทางแห้งๆ
ของใบเจอราเนียมค่อยๆ เสริมเข้ามาตีคู่กับโทนเครื่องเทศ
พร้อมกับเอาพรรคพวกอย่าง Anise หรือเม็ดเทียนสัตตบุษย์ที่จะให้ความหอมกึ่งๆ
ชะเอมอวลๆ แต่ไม่ได้ไปสายไม้หอมเข้ามาร่วมด้วย รวมถึงกลิ่นโทนพิมเสนแห้งๆ
ที่สร้างลักษณะค่อนไปทางดาร์กนิดๆ ปนเย็นๆ ติด Cool หน่อยๆ
เข้ามา ทำให้กลิ่นช่วงนี้จะมีความหยินหยางกันในระดับหนึ่ง
เพราะเครื่องเทศทั้งหมดที่ผสมผสานกันจะให้อารมณ์สภาพบรรยากาศติดทะเลทรายที่เป็นสายโทนร้อน
ส่วนลาเวนเดอร์และเจอราเนียมจะให้ความเขียวกึ่งสมุนไพรอ่อนๆ เจือแห้งๆ
ของบรรยากาศ และพิมเสนจะให้ความดาร์กเย็นๆ แห้งๆ แบบอากาศยามค่ำคืน
จะเป็นสายโทนเย็นๆ กลิ่นเลยจะได้ทั้งความอบอุ่นและเย็นๆ ตีคู่กันไป
ที่วำคัญในช่วงนี้จะมีกลิ่นหนังเนียนๆ เข้ามาร่วมด้วยทำให้กลิ่นมีความอบอวลกำลังดี
ได้ความเป็นบรรยากาศทะเลทรายยามค่ำคืนได้น่าสนใจมาก
การเข้าสู่ช่วงท้ายของน้ำหอมจะมีกลิ่นหนังเป็นตัวพาไปที่ชัดเจนในระดับหนึ่ง
แต่ไม่ได้ถึงกับเด่น ให้อารมณ์แบบเป็นพื้นหลังเสียมากกว่า
โดนสายเครื่องเทศต่างๆ ที่ตามมาตั้งแต่ช่วงต้น จะยังคงมีอยู่ประปรายให้รู้สึกได้
ความนวลปนเขียวกึ่งกุหลาบแห้งก็ยังมีระเรื่อๆ ส่วนพิมเสนจะบางๆ พอสมควร
แต่จะเปิดตัวให้กลิ่นโทนอบอุ่นอย่างกำยาน Benzoin
ที่ให้โทนกึ่งยางไม้กึ่งวานิลลาติดหวานแหลมเข้ามาเสริมกับโทนหนัง
กลิ่นจะเริ่มเปลี่ยนความรู้สึกเป็นโทนสว่างขึ้นมาหน่อย โดยยังมีมิติซ้อนเลเยอร์กันๆได้ดีของเครื่องเทศ
เขียวสมุนไพรกึ่งดอกไม้แห้งอ่อนๆ ที่เป็นสายสนับสนุนให้กลิ่นหนังเคล้ากำยานไม่ได้ไปสายข้นหนักมากเกินไป
กลิ่นให้ความเท่ห์แห้งๆ มีระดับติดค่อนมาทางนวลเจือโปร่งกำลังดี
ซึ่งถ้าไล่เรียงจากช่วงต้นสู่ท้าย อารมณ์กลิ่นจะได้ลักษณะจากหัวค่ำสู่รุ่งเช้าในแบบสไตล์ทะเลทรายได้เลย
ซึ่งสื่อสารได้ครบถ้วนผ่านขวดนี้จริงๆ
เหมาะสำหรับ -
กลิ่นลงไว้ว่า Unisex แต่มันติดไปโทนผู้ชายมากกว่านิดนึง
แต่ก็ไม่ได้เป็นนัยยะสำคัญอะไร ยังไงผู้หญิงก็ใช้ได้ กลิ่นเข้ากับหลายๆ
สถานการณ์ยามกลางวันแบบจำนวนสเปรย์เหมาะสม และสภาพอากาศต้องไม่ร้อนรุ่มระอุอะไรนัก
ไม่เช่นนั้นกระจายรอบทิศจนจุกเอาได้ ซึ่งถ้าอากาศร้อนๆ จะใช้ตัวนี้
จำนวนสเปรย์ต้องคุมดีๆ หน่อย โดยสามารถใส่ได้ในหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันทั้งทางการและทั่วๆ
ไป แบบจำนวนสเปรย์เหมาะสม ส่วนออกกำลังกายบอกเลยตัดออกไปเถอะ
เพื่อความสดชื่นในการเสียเหงื่อ จะได้ไม่มึนไม่เมาไปเสียก่อน
ส่วนยามค่ำคืนสามารถใส่ออกท่องราตรีได้เลย กลิ่นสู้คนอื่นได้สบายมาก
และไม่เหมือนใครอีกด้วย
ความทน - ยอมมม 12 ชม. กลิ่นยังคงมีอยู่ และลากไปที่ 15
ชม. เลยจากที่เจอในการใช้งานทุกครั้ง ซึ่งถ้ามองเป็่นค่าเฉลี่ย
ก็อยู่ที่ 8 ชม. ขึ้นไปได้สบายมาก
การกระจาย -
กลิ่นกระจายดีมากในตอนต้น แต่ไม่ได้ถึงกับคมนัก เพียงแต่อวลเครื่องเทศเต็มๆ มากกว่า แล้วจะค่อยๆ ลดลงมาตามลำดับจนกลายเป็นออร่ารอบๆ
ตัวในช่วงท้ายที่ยาวไปเรื่อยๆ ไม่จบซักที จนกว่าจะอาบน้ำได้เลย
สรุป -
ถอดกลิ่นอายสภาพบรรยากาศทะเลทรายจากหัวค่ำสู่รุ่งเช้า
โดยมีไฮไลท์ที่การเป็นค่ำคืนกลางทะเลทรายได้ดีมาก ถือเป็นการมาเจอกันตรงกลางอย่างลงตัวของสายเครื่องเทศ
Oriental Spicy และ Leather
ได้ดีมาก
หมายเหตุ:
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้
ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!!
ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ นอกเหนือจากนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้
ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว
ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ
ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ”
Photo Credit - https://abanuc.com/collections/memo-paris/products/eau-de-parfum-oriental-leather-un-perfume-de-memo-paris
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น