Juliette
Has a Gun - Citizen Queen
Citizen
Queen เป็นอีกหนึ่งในรุ่นน้ำหอมของ Juliette Has a Gun ที่สร้างสรรค์ขึ้นมาโดยอ้างอิงเรื่องราวของ Romeo & Juliette จากวรรณกรรมของเชคสเปียร์ที่ปรับใหม่ให้มีความ Modern ตามยุคสมัยใหม่อ้างอิงความเป็น Juliette เป็นสำคัญ
(แต่นางถือปืนนะจ้ะ) ซึ่งรุ่นนี้จะ Tribute ความเป็น Juliette
ในแง่มุมไหนที่จะใส่ความเก๋ไก๋เข้าไป ก็เล่าต่อได้แบบนี้เลย
เปิดมาก็มีลูกเล่นที่น่าสนใจมากระหว่างความเป็นโทนสบู่ฟุ้งคมๆ
ของ Aldehydes
ที่มีกลิ่นติดเปรี้ยวเจือขมปร่าของมะกรูดฝรั่ง (Bergamot) ผสมผสานอยู่พุ่งขึ้นมาให้รู้สึกก่อนเป็นสิ่งแรก แล้วจะตามด้วยเลเยอร์ที่ 2
อย่างโทนแป้งที่ได้ลักษณะแบบกลิ่นแป้งติดชื้นๆ อับจืดๆ
ที่เป็นลักษณะของกลิ่นแนวหัวเหง้าออริส (ที่เป็นเหง้าใต้ดินของต้นไอริส)
เคล้ากลิ่นกุหลาบอ่อนๆ กับเลเยอร์ที่ 3 ที่สร้างออร่าดึงดูดและเซ็กซี่เนียนๆ
ในลักษณะของกลิ่นสาบปลุกเร้า Animalic ของโหนหนังที่มาแบบดิบแบบไม่หนักให้อารมณ์เบาๆ
แต่เร้าเย้าไม่ใช่เล่น ทำให้ช่วงแรกเมื่อรวมกันแล้ว
กลิ่นที่ได้รับค่อนข้างจะให้อารมณ์เรียกแขกในการสร้างการฟุ้งกระจาย
และให้อารมณ์กึ่ง Classic กึ่ง Modern ที่มีทั้งความสดชื่นติดอับเซ็กซี่เร้าเนียนๆ
ที่สมดุลย์ได้น่าสนใจมาก
เมื่อโทนฟุ้งคมของ
Aldehydes
ทื่มีความเป็น Bergamot เริ่มลดทอนลงมา
แล้วกลิ่นโทนแป้งติดอับเซ็กซี่ชื้นๆ
ในตอนต้นเริ่มมีความแห้งมากขึ้นในเนื้อกลิ่นแต่ติดอับชื้นบางๆ อยู่หน่อยๆ
และเริ่มมีกลิ่นติดโทนดอกไม้เข้ามาเสริมมากขึ้นนอย่างมีมิติ
ก็เป็นการเข้าสู่ช่วงกลางของน้ำหอม
ซึ่งจะเริ่มกลายเป็นกลิ่นอายโทนแป้งเจือดอกไม้เด่นออกมาชัดเจนมาก
โดยมีกุหลาบและกลิ่นโทนดอกไม้ขาวเข้ามาร่วมสร้างมิติทางกลิ่นสายดอกไม้ โดยจะมีกลิ่นโทนเปรี้ยวสะอาดของดอกส้ม
กลิ่นครีมมี่เย้าๆ บางๆ ของซ่อนกลิ่น
และกลิ่นหวานนวลกุหลาบที่สร้างอัตลักษณ์โทนดอกไม้ต่างมิติกลิ่นได้ดีมากบนพื้นฐานของการเป็นโทนแป้ง
รวมถึงกลิ่นอายโทน Animalic เนียนๆ
ของหนังที่ยังคงเป็นพื้นหลังให้กลิ่นมีความเซ็กซี่เนียนๆ ตลอดจนเริ่มจับต้องได้ถึงกลิ่นอายอวลๆ
มีพลังของสารหอมที่ให้อารมณ์กึ่งผิวกายติดเค็มกึ่งไม้หอมแห้งๆ อวลๆ อย่าง Ambroxan
ที่เปิดตัวออกมาเป็นสายสนับสนุนทำให้กลิ่นในช่วงนี้มีออร่าและพลังออกมากำลังดีในความเป็นโทนแป้งที่ให้ความอวลติดอับเซ็กซี่ปนนวลเย้าดอกไม้กึ่งหนังที่มีจริตได้ดีมากเลยทีเดียวและถือเป็นช่วงที่สร้างความเป็นตัวแม่นางพญาผ่านกลิ่นได้ลงตัวมาก
จนเมื่อกลิ่นโทน Aldehydes จางไป
และมีความอบอุ่นในเนื้อกลิ่นเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ
ก็เข้าสู่การเปลี่ยนช่วงของน้ำหอมมาเป็นช่วงท้ายที่จะมีความอวลๆ
ของโทนแป้งเป็นชั้นบนไล่เลเยอร์ลงมาเป็นโทนแป้งกึ่งอบอุ่นคั่นกลางจากวานิลลากับความครีมมี่นวลเนียนจากถั่วตองก้าเคล้ากับโทน
Musky ที่ให้ความนุ่มในกลิ่นปนเรียบหรูกำลังดีเข้ามาร่วมด้วย
เนื้อกลิ่นในช่วงกลางยังคงมีความหวานให้จับต้องได้แบบกึ่งโทนวานิลลากึ่งยางไม้ซึ่งมาจากโทนกำยาน
Benzoin ที่ใส่เข้ามาแบบเบาๆ กำลังดี
จนเมื่อดมเข้าไปติดผิวความเป็น Musk จะชัดขึ้น
เคล้ากลิ่นติดผิวกายเค็มเจือไม้หอมของ Ambroxan จะชัดเป็นตัวเสริมแรงให้กลิ่นมีความอบอวลที่คุมโทนกลางๆ
ไม่หนักเกินไป รวมถึงมีความอบอุ่นลึกๆ ในกลิ่นแนวๆ โทนแอมเบอร์เนียนๆ รวมอยู่ด้วย
ทำให้ช่วงนี้กลิ่นจะได้อารมณ์แป้งหอมเจือความหวานนวลเคล้าความอวลเซ็กซี่ดึงดูดที่ไม่โฉ่งฉ่าง
แต่ให้ออร่าความอวลที่สมดุลย์ ไม่หนักไป
แต่จับต้องได้แบบที่มีเสน่ห์ปนหรูหราเฉพาะตัว
ซึ่งเป็นภาพรวมของกลิ่นที่ให้ความเป็นตัวแม่แบบนิ่งๆ ทันสมัย
ไม่ต้องพูดเยอะให้กลิ่นบอกแทนแล้วกันว่าความมั่นใจและเย้ายวนแบบมีชั้นเชิงมันเป็นแบบนี้แหละ
เหมาะสำหรับ
- ผู้หญิงทุกเพศวัยทำงานขึ้นไป
สามารถใช้กลิ่นนี้เสริมออร่าความหรูหราและมีพลังแบบผู้หญิงมั่นใจนิ่งๆ
ลุคทางกลิ่นแบบนางพญาที่ค่อนไปทางโทนสว่างนวลได้ไม่ยาก ซึ่งเข้ากับหลายๆ
สถานการณ์ยามกลางวันไม่ว่าจะเป็นทางการหรือทั่วๆ ไป ก็สามารถใช้งานได้
จะมีก็แต่การใส่เพื่อกิจกรรมกลางแจ้งลุยๆ
หรือว่าออกกำลังกายที่ควรข้ามไปเลยจะดีที่สุด เพราะไม่เข้ากันกับสถานการณ์เท่าไหร่
ส่วนยามค่ำคืนบอกเลยว่าจัดไป ยิ่งใส่ออกงานยิ่งลงตัว
ใส่ท่องราตรีก็ได้อยู่แต่อาจจะต้องเพิ่มสเปรย์นิดนึงเพื่อให้กลิ่นมีความชัดสู้คนอื่นที่มาแบบแน่นๆ
ได้ง่ายขึ้น
ความทน
- ลงตัวกับที่ราวๆ 8 - 10 ชม. เป็นสำคัญ โดยส่วนตัวเจอไปที่ 15 ชม.
ก็เจอมาแล้วกับการใช้งานที่ 6 สเปรย์
การกระจาย
- กลิ่นกระจายดีมากในตอนต้น ซึ่งต้องยกให้ Aldehydes ที่สร้างความฟุ้งของกลิ่นได้ดี
แล้วจะค่อยๆ ลดลงมาเป็นสเต็ปเป็นกระจายดีซักพัก กึงเป็นปานกลางไปเรื่อยๆ
พอเข้าช่วงท้ายก็เป้นออร่ารอบๆ จนเมื่อผ่าน 8 ชม. ไปแล้ว
จะลดลงไปเป็นติดผิวแล้วลากยาวไปจนกว่าน้ำหอมจะหมดหน้าที่ของตัวเอง
สรุป
- “นางพญา” ให้คำจำกัดความแบบนี้ได้เลย เพราะว่าอารมณ์กลิ่นมีความเป็นโทนแป้งสไตล์นางพญาในมาดนิ่งแต่ออร่าเซ็กซี่ที่มีเสน่ห์มาชัดเจนเลยทีเดียว
โดยที่ยังคุมโทนน้ำหอมที่สื่อสารถึงความเป็นกุหลาบได้ดีตามรุ่นต้นๆ ที่ออกมาในการ Tribute ความเป็น
Juliette แต่ละรุ่นต่างมีความเป็นเอกเทศเป็นของตัวเอง
อีกหนึ่งผลงานที่ไหม่ธรรมดาและมีดีในตัวสูงมากของแบรนด์ Juliette Has a Gun
หมายเหตุ:
1.
Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล
ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้
ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2.
Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!!
ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร
และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้
ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย
รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า
”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ”
Photo
Credit - https://www.juliettehasagun.com/fr/classic/38-citizen-queen-parfum.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น