วันอังคารที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2563

Review: Juliette Has a Gun - Citizen Queen


Juliette Has a Gun - Citizen Queen

Citizen Queen เป็นอีกหนึ่งในรุ่นน้ำหอมของ Juliette Has a Gun ที่สร้างสรรค์ขึ้นมาโดยอ้างอิงเรื่องราวของ Romeo & Juliette จากวรรณกรรมของเชคสเปียร์ที่ปรับใหม่ให้มีความ Modern ตามยุคสมัยใหม่อ้างอิงความเป็น Juliette เป็นสำคัญ (แต่นางถือปืนนะจ้ะ) ซึ่งรุ่นนี้จะ Tribute ความเป็น Juliette ในแง่มุมไหนที่จะใส่ความเก๋ไก๋เข้าไป ก็เล่าต่อได้แบบนี้เลย

เปิดมาก็มีลูกเล่นที่น่าสนใจมากระหว่างความเป็นโทนสบู่ฟุ้งคมๆ ของ Aldehydes ที่มีกลิ่นติดเปรี้ยวเจือขมปร่าของมะกรูดฝรั่ง (Bergamot) ผสมผสานอยู่พุ่งขึ้นมาให้รู้สึกก่อนเป็นสิ่งแรก แล้วจะตามด้วยเลเยอร์ที่ 2 อย่างโทนแป้งที่ได้ลักษณะแบบกลิ่นแป้งติดชื้นๆ อับจืดๆ ที่เป็นลักษณะของกลิ่นแนวหัวเหง้าออริส (ที่เป็นเหง้าใต้ดินของต้นไอริส) เคล้ากลิ่นกุหลาบอ่อนๆ กับเลเยอร์ที่ 3 ที่สร้างออร่าดึงดูดและเซ็กซี่เนียนๆ ในลักษณะของกลิ่นสาบปลุกเร้า Animalic ของโหนหนังที่มาแบบดิบแบบไม่หนักให้อารมณ์เบาๆ แต่เร้าเย้าไม่ใช่เล่น ทำให้ช่วงแรกเมื่อรวมกันแล้ว กลิ่นที่ได้รับค่อนข้างจะให้อารมณ์เรียกแขกในการสร้างการฟุ้งกระจาย และให้อารมณ์กึ่ง Classic กึ่ง Modern ที่มีทั้งความสดชื่นติดอับเซ็กซี่เร้าเนียนๆ ที่สมดุลย์ได้น่าสนใจมาก

เมื่อโทนฟุ้งคมของ Aldehydes ทื่มีความเป็น Bergamot เริ่มลดทอนลงมา แล้วกลิ่นโทนแป้งติดอับเซ็กซี่ชื้นๆ ในตอนต้นเริ่มมีความแห้งมากขึ้นในเนื้อกลิ่นแต่ติดอับชื้นบางๆ อยู่หน่อยๆ และเริ่มมีกลิ่นติดโทนดอกไม้เข้ามาเสริมมากขึ้นนอย่างมีมิติ ก็เป็นการเข้าสู่ช่วงกลางของน้ำหอม ซึ่งจะเริ่มกลายเป็นกลิ่นอายโทนแป้งเจือดอกไม้เด่นออกมาชัดเจนมาก โดยมีกุหลาบและกลิ่นโทนดอกไม้ขาวเข้ามาร่วมสร้างมิติทางกลิ่นสายดอกไม้ โดยจะมีกลิ่นโทนเปรี้ยวสะอาดของดอกส้ม กลิ่นครีมมี่เย้าๆ บางๆ ของซ่อนกลิ่น และกลิ่นหวานนวลกุหลาบที่สร้างอัตลักษณ์โทนดอกไม้ต่างมิติกลิ่นได้ดีมากบนพื้นฐานของการเป็นโทนแป้ง รวมถึงกลิ่นอายโทน Animalic เนียนๆ ของหนังที่ยังคงเป็นพื้นหลังให้กลิ่นมีความเซ็กซี่เนียนๆ ตลอดจนเริ่มจับต้องได้ถึงกลิ่นอายอวลๆ มีพลังของสารหอมที่ให้อารมณ์กึ่งผิวกายติดเค็มกึ่งไม้หอมแห้งๆ อวลๆ อย่าง Ambroxan ที่เปิดตัวออกมาเป็นสายสนับสนุนทำให้กลิ่นในช่วงนี้มีออร่าและพลังออกมากำลังดีในความเป็นโทนแป้งที่ให้ความอวลติดอับเซ็กซี่ปนนวลเย้าดอกไม้กึ่งหนังที่มีจริตได้ดีมากเลยทีเดียวและถือเป็นช่วงที่สร้างความเป็นตัวแม่นางพญาผ่านกลิ่นได้ลงตัวมาก จนเมื่อกลิ่นโทน Aldehydes จางไป และมีความอบอุ่นในเนื้อกลิ่นเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ ก็เข้าสู่การเปลี่ยนช่วงของน้ำหอมมาเป็นช่วงท้ายที่จะมีความอวลๆ ของโทนแป้งเป็นชั้นบนไล่เลเยอร์ลงมาเป็นโทนแป้งกึ่งอบอุ่นคั่นกลางจากวานิลลากับความครีมมี่นวลเนียนจากถั่วตองก้าเคล้ากับโทน Musky ที่ให้ความนุ่มในกลิ่นปนเรียบหรูกำลังดีเข้ามาร่วมด้วย เนื้อกลิ่นในช่วงกลางยังคงมีความหวานให้จับต้องได้แบบกึ่งโทนวานิลลากึ่งยางไม้ซึ่งมาจากโทนกำยาน Benzoin ที่ใส่เข้ามาแบบเบาๆ กำลังดี จนเมื่อดมเข้าไปติดผิวความเป็น Musk จะชัดขึ้น เคล้ากลิ่นติดผิวกายเค็มเจือไม้หอมของ Ambroxan จะชัดเป็นตัวเสริมแรงให้กลิ่นมีความอบอวลที่คุมโทนกลางๆ ไม่หนักเกินไป รวมถึงมีความอบอุ่นลึกๆ ในกลิ่นแนวๆ โทนแอมเบอร์เนียนๆ รวมอยู่ด้วย ทำให้ช่วงนี้กลิ่นจะได้อารมณ์แป้งหอมเจือความหวานนวลเคล้าความอวลเซ็กซี่ดึงดูดที่ไม่โฉ่งฉ่าง แต่ให้ออร่าความอวลที่สมดุลย์ ไม่หนักไป แต่จับต้องได้แบบที่มีเสน่ห์ปนหรูหราเฉพาะตัว ซึ่งเป็นภาพรวมของกลิ่นที่ให้ความเป็นตัวแม่แบบนิ่งๆ ทันสมัย ไม่ต้องพูดเยอะให้กลิ่นบอกแทนแล้วกันว่าความมั่นใจและเย้ายวนแบบมีชั้นเชิงมันเป็นแบบนี้แหละ

เหมาะสำหรับ - ผู้หญิงทุกเพศวัยทำงานขึ้นไป สามารถใช้กลิ่นนี้เสริมออร่าความหรูหราและมีพลังแบบผู้หญิงมั่นใจนิ่งๆ ลุคทางกลิ่นแบบนางพญาที่ค่อนไปทางโทนสว่างนวลได้ไม่ยาก ซึ่งเข้ากับหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันไม่ว่าจะเป็นทางการหรือทั่วๆ ไป ก็สามารถใช้งานได้ จะมีก็แต่การใส่เพื่อกิจกรรมกลางแจ้งลุยๆ หรือว่าออกกำลังกายที่ควรข้ามไปเลยจะดีที่สุด เพราะไม่เข้ากันกับสถานการณ์เท่าไหร่ ส่วนยามค่ำคืนบอกเลยว่าจัดไป ยิ่งใส่ออกงานยิ่งลงตัว ใส่ท่องราตรีก็ได้อยู่แต่อาจจะต้องเพิ่มสเปรย์นิดนึงเพื่อให้กลิ่นมีความชัดสู้คนอื่นที่มาแบบแน่นๆ ได้ง่ายขึ้น

ความทน - ลงตัวกับที่ราวๆ 8 - 10 ชม. เป็นสำคัญ โดยส่วนตัวเจอไปที่ 15 ชม. ก็เจอมาแล้วกับการใช้งานที่ 6 สเปรย์

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีมากในตอนต้น ซึ่งต้องยกให้ Aldehydes ที่สร้างความฟุ้งของกลิ่นได้ดี แล้วจะค่อยๆ ลดลงมาเป็นสเต็ปเป็นกระจายดีซักพัก กึงเป็นปานกลางไปเรื่อยๆ พอเข้าช่วงท้ายก็เป้นออร่ารอบๆ จนเมื่อผ่าน 8 ชม. ไปแล้ว จะลดลงไปเป็นติดผิวแล้วลากยาวไปจนกว่าน้ำหอมจะหมดหน้าที่ของตัวเอง

สรุป - “นางพญา” ให้คำจำกัดความแบบนี้ได้เลย เพราะว่าอารมณ์กลิ่นมีความเป็นโทนแป้งสไตล์นางพญาในมาดนิ่งแต่ออร่าเซ็กซี่ที่มีเสน่ห์มาชัดเจนเลยทีเดียว โดยที่ยังคุมโทนน้ำหอมที่สื่อสารถึงความเป็นกุหลาบได้ดีตามรุ่นต้นๆ ที่ออกมาในการ Tribute ความเป็น Juliette แต่ละรุ่นต่างมีความเป็นเอกเทศเป็นของตัวเอง อีกหนึ่งผลงานที่ไหม่ธรรมดาและมีดีในตัวสูงมากของแบรนด์ Juliette Has a Gun

หมายเหตุ:
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://www.juliettehasagun.com/fr/classic/38-citizen-queen-parfum.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น