วันเสาร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

Review: Christian Dior - La Collection Privee: Ambre Nuit


Christian Dior - La Collection Privee: Ambre Nuit

จากที่ได้ผ่านกลิ่นอายต่างๆ สาย La Collection Privee มาก็พอสมควร (ที่ปัจจุบันนี้เปลี่ยนเป็น Maison Christian Dior ไปหมดแล้ว และหลายๆ รุ่นก็ปรับสูตรกันไปเรียบร้อย) แต่มีอยู่ 1 โทนที่ไม่เคยได้ลองกับเขาเลยนั่นคือ กลิ่นอายสาย Amber และ Ambergris ของโซนนี้ แต่เพราะได้ยินทั้งเสียงเล่าอ้างและความชื่นชมกับกลิ่นที่ให้ความพลิ้วไหวทางกลิ่นที่งดงามมากๆ ของรุ่นหนึ่งที่ชูโรงกลิ่นอายสายนี้ โดยมีที่มาจากงานเต็นรำบอลลูมสมัยศตวรรษที่ 18 แนวสไตล์บารอค เช่นนั้น ก็ต้องลองกันหน่อยว่าจะเด็ดดวงแค่ไหนอย่างไรบ้างกับรุ่นนี้เลย Ambre Nuit

บอกก่อน - การเล่ากลิ่นจะเน้นที่ความเป็น Ambre Nuit ในช่วงที่เป็น La Collection Privee เท่านั้น เพราะผู้เขียนยังไม่เคยได้ลองการเป็น Ambre Nuit ในโซน Maison Christian Dior แบบเต็มๆ เท่าไหร่ จึงไม่สามารถบอกได้ถึงกลิ่นที่เปลี่ยนแปลงหรือเปรียบเทียบกันได้

การเปิดตัวของกลิ่นเรียกว่าสร้างความประทับใจเลยก็ว่าได้กับการเป็นออกทางพิมเสนที่มีความ Smoky กำลังดีปนโทนสมุนไพรแห้งๆ ที่ให้ความหวานกำลังงามเด่นออกมาแบบสมดุลย์และพอเหมาพอเจาะมาก แต่กลิ่นจะมีตัวเสริมชั้นดีอย่างโทน Citrus ติดขมมีความปร่าซ่าอ่อนๆ อย่างมะกรูดฝรั่ง (Bergamot) เสริมให้กลิ่นพิมเสนมีความ Sparkling วิบวับกำลังดี และยังมีกลิ่นติดฝาดกึ่งกุหลาบปนปร่านวลอ่อนๆ ของพริกไทยสีชมพู และมีความปร่าซ่าเผ็ดแบบเบาๆ กำลังดี ของเครื่องเทศแนวๆ คล้ายกานพลูนิดๆ อยู่เป็นฉากหลัง ทำให้กลิ่นในช่วงต้นจะได้ความรู้สึกเป็นพิมเสนในโทนสีน้ำตาลอ่อนที่มีความปร่าหอมหวานกำลังดี มีความอะโรม่าในเนื้อกลิ่นสูงมากจนทำให้รู้สึกเพลินในการดมกลิ่นที่สร้างอารมณ์น่าค้นหาได้อย่างลงตัวมากตั้งแต่เริ่มต้นเลย

เมื่อความเป็นโทนกุหลาบเคล้ากลิ่นอายไม้หอมติดปร่าปน Smoky เย้าๆ เริ่มเปิดตัวออกมา ก็ปูทางเข้าสู่ช่วงกลางที่คราวนี้กุหลาบจะเป็นตัวเดินกลิ่นตีคู่กับพิมเสนที่จะเริ่มมีกลิ่นโทนคล้ายๆ Incense เนียนๆ เข้ามาร่วมด้วย ทำให้กลิ่นเริ่มจะมีลูกเล่นมิติที่ซ้อนกันอย่างมีชั้นเชิงและตอกย้ำความน่าค้นหาเข้าไปมากขึ้น และเพียงไม่นานก็จะเริ่มสัมผัสได้ถึงโทนกลิ่นที่มีความอบอุ่นเจือหวานที่มีลักษณะแบบ Amber ที่มาแบบลุ่มลึกละเมียดละไม ทำให้ช่วงกลางจะได้อารมณ์กลิ่นยืนพื้นที่ความน่าค้นหาปนอบอุ่นกำลังดีเป็นหลัก โดยจะมีความปร่าที่ตามมาจากกลิ่นโทนเครื่องเทศปน Citrus ช่วงต้นที่ทำให้กลิ่นมีความวิบวับกำลังดี มีความโรแมนติคปนเย้าของกุหลาบ มีความหรูหราของพิมเสน และมีความอบอุ่นของ Amber ปนสมดุลย์ติดกลิ่นไม้หอมกึ่ง Smoky กึ่งปร่าซึ่งเรียกว่าเป็นช่วงที่สร้างกลิ่นอายน่าค้นหาที่มีเสน่ห์มากและเป็นไฮไลท์ของกลิ่นอย่างแท้จริง จนกระทั่งกลิ่นโทนออกทางติดเค็มหน่อยๆ เคล้าความหวานปนนวลเริ่มจะเทคโอเวอร์กลิ่นมากขึ้นตามลำดับ จนเข้าสู่ช่วงท้ายที่ความเป็น Ambergris จะเป็นตัวเดินเกมหลัก ที่จะมีพื้นฐานความเป็น Amber อบอุ่นติดกลิ่นไม้หน่อยๆ มีความเป็นโทน Musky นวลละมุนเคล้ากลิ่นกุหลาบหวานอ่อนๆ กำลังดี โดยมีพิมเสนหวานระเรื่อประปรายอ้อยอิ่งรอบๆ เนียนๆ ซึ่งกลิ่นจะมีความเย้ายวนเฉพาะตัวแบบไม่ได้โจ่งแจ้งแต่มีเสน่ห์ที่น่าค้นหาแบบค่อยเป็นค่อยไปจนซึมลึก ซึ่งทำให้รู้สึก Sexy ก็ได้วาบหวามอย่างมีชั้นเชิงชวนคลุกวงในก็สามารถ ซึ่งเรียกว่าเป็นช่วงปิดที่คุมโทนกลิ่นได้น่าค้นหาและมีเสน่ห์แบบเก็บกินช่วงท้ายได้อย่างดีงามจริงๆ

เหมาะสำหรับ - Unisex เลย กลิ่นมีความกลางๆ แตะได้หมดทั้งหยิงและชาย โดยที่จะให้ความน่าค้นหาเป็นที่ตั้ง และไม่ว่าอยู่ในผิวชายเพศไหน ก็สามารถสร้างความดึงดูดได้ทั้งคู่ ซึ่งกลิ่นจะเข้ากับหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวัน ไม่ว่าจะทางการหรือทั่วๆ ไป เพราะกลิ่นก็มีมุมที่สร้างความภูมิฐานแกมอบอุ่นก็ได้ หรือจะน่าค้นหาเย้ายวนมีระดับก็ดี แต่กลิ่นจะไม่ค่อยเหมาะกับการใส่กิจกรรมกลางแจ้งหรือออกกำลังกายนัก ส่วนยามค่ำคืนบอกเลยเหมาะกับการใส่ออกงานหรือยามโรแมนติคมากที่สุด เพราะกลิ่นเสริมลักษณะน่าค้นหาอย่างมีระดับ มีรสนิยม และมีเสน่ห์ออกมาได้อย่างชัดเจนมาก แต่ถ้าจะใส่ท่องราตรีเอาจริงๆ ก็ทำได้ถ้าเพิ่มสเปรย์หน่อย แต่ถ้าเจือกลิ่นอวลมากๆ ก็โดนกลบได้อยู่

ความทน - ลงตัวที่ราวๆ 8 ชม. เป็นสำคัญ มีลบบ้างนิดหน่อย แต่บวกเพิ่มได้ถึง 4 ชม. อิงตามจำนวนสเปรย์และสภาพผิวกายผู้ใช้ด้วยส่วนหนึ่ง

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้น ก่อนจะลดลงมาปานกลางไปเรื่อยๆ และมีความเสถียรในการกระจายพอสมควร จนเมื่อผ่านไป 6 ชม. ถึงจะผ่อนลงมาเป็นออร่ารอบๆ ตัวแล้วเป็น Skin Scent เมื่อผ่าน 8 ชม. ในที่สุด

สรุป - อีกหนึ่งกลิ่นที่มีความยอดเยี่ยมมากในการสร้างสมดุลย์ทางกลิ่นของโทน Amber และ Ambergris ได้อย่างงดงามในความน่าค้นหาที่มีความหวานปนอบอุ่นนวลๆ และมีความสว่างปร่าวิบวับสวยๆ ได้ดีมาก อีกหนึ่งผลงานชั้นยอดของแบรนด์นี้ในสาย La Collection Privee ได้เลยล่ะ

หมายเหตุ:
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://www.designerperfumes4u.co.uk/perfume/christian-dior-ambre-nuit/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น