วันอังคารที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

Review: Hermes - Equipage


Hermes - Equipage

ถ้ามองย้อนกลับไปในการสร้างสรรค์น้ำหอมชายหรือน้ำหอมที่ผู้ชายใช้ได้ของ Hermes ในโซนกลิ่นสไตล์ Classic หลายๆ ตัวต่างมีความยอดเยี่ยมและยังคงความดีงามที่เหนือกาลเวลามาเสมอไม่ว่าจะเป็นสาย Bel Ami, Eau d’Hermes, Eau d’Orange Vert และ Equipage ซึ่งในแต่ละรุ่นต่างก็ยืนยงคงกะพันในการจำหน่ายมาตลอดและยังมีผู้ใช้ที่หลงรักในกลิ่นแต่ละสายที่มีความแตกต่างกันอย่างมีระดับมาเสมอเสียด้วย

และเมื่อหลังจากผ่านหลายตัว Classic ที่กล่าวมาข้างต้นเกือบหมดแล้ว เหลือเพียง Equipage ที่ถือเป็นน้ำหอมชายตัวแรกของแบรนด์ที่ยังไม่เคยไม่สัมผัสแบบเต็มๆ คราวนี้ก็ได้เวลาในการมาเจอและซึมซับความหอมกันแล้ว ซึ่งกลิ่นจะมีความเหนือกาลเวลาหรือไม่ ว่ากันตามนี้เลย

บอกก่อน - การเล่ากลิ่นจะเล่าในรุ่น Vintage ที่ผลิตช่วงยุค 90 เป็นสำคัญ

สิ่งที่คาดหวังและเตรียมตัวกันในช่วงแรกของกลิ่นเลย คือ กลิ่นจะต้องพุ่งฟุ้งมาเต็มตามสไตล์ของน้ำหอมสาย Classic แน่ๆ แต่กลับกลายเป็นว่าต้องเอายางลบ ลบความคาดหวังนั้นออกไปอย่างเต็มๆ เพราะกลิ่นที่ได้ในช่วงเปิด คือความสมดุลย์ที่ลงตัวและพอเหมาะพอดีในการวางมิติกลิ่นสายสดชื่นที่เล่นโทนไม้หอมและสมุนไพรได้อย่างรื่นไหลและสมูธมากกว่าที่คิด โดยตัวเดินกลิ่นหลักจะเป็นกลิ่นโทนไม้หอมอย่าง Rosewood ที่จะให้อารมณ์กลิ่นไม้หอมติดปร่าซ่า Spicy เจือกลิ่นออกทางกุหลาบ เคล้ากับกลิ่นโทนสมุนไพรกึ่งลาเวนเดอร์ติดหวานนวลค่อนทาง Musky หน่อยๆ ของ Clary Sage โดยจะมีกลิ่นโทนสบู่อวลๆ หน่อยๆ กำลังดีเสริมอยู่อย่าง Aldehydes ที่จริงๆ กลิ่นควรจะต้องคมฟุ้งพุ่ง แต่เพราะมีตัวพลิกเกมอย่างเม็ดจันทน์เทศ ที่เป็นตัวเกลากลิ่นให้มีความกลมกลมและสร้างสมดุลย์ทางกลิ่นระหว่างความเป็นโทนไม้หอมกับกลิ่นปร่า Spicy ได้ดีมาเป็นตัวลดทอนความคมอวลพุ่งลงไป และมีความประปรายของกลิ่นอายสดชื่นติดขมปนเปรี้ยวหน่อยสร้างบรรยากาศของกลิ่นอายสาย Citrus ติดเขียวปร่าแนวๆ มะกรูดฝรั่ง (Bergamot) เข้ามาร่วมด้วย ทำให้ช่วงต้นภาพรวมจะเป็นกลิ่นอายสดชื่นของไม้หอมติดปร่านวลหวานสมุนไพรที่มีความสดชื่นอย่างสมดุลย์พอเหมาพอเจาะ สร้างออร่าทางกลิ่นออกทางสดชื่นติดสุขุมนิ่งๆ มาก Cool ได้อย่างลงตัว

เมื่อเริ่มสัมผัสได้ถึงกลิ่นปร่าติดเขียวนวลกึ่งพริกไทยอ่อนๆ ที่อารมณ์กลิ่นกลีบดอกไม้ปร่าเขียวจืดเนียนๆ ของคาร์เนชั่นที่ค่อยๆ แทรกตัวเข้ามาเรื่อยๆ พร้อมกับกลิ่นไม้หอมที่เริ่มมีความปร่า Spicy เจือสะอาดของสนไพน์เข้ามาแท็คทีมกับ Rosewood ในช่วงต้น การเปลี่ยนช่วงก็เกิดขึ้นและเข้าสู่ช่วงกลางของน้ำหอม โดยตัวเดินกลิ่นหลักจะกลายเป็นกลิ่นปร่า Spicy กึ่งดอกไม้ติดเขียวของคาร์เนชั่นที่ขึ้นแท่นมาเลย แล้วเสริมด้วยกลิ่นสนไพน์กับ Rosewood ที่ยังมีความกลมกล่อมทางกลิ่นจากการเกลาด้วยเม็ดจันทน์เทศ ทำให้กลิ่นชจะได้อารมณ์กึ่งสมุนไพรกึ่งไม้หอมที่แน่นอนยังมีความสดชื่นล้อมอยู่ แต่จะเสริมด้วยกลิ่นที่อวลขึ้นมาหน่อยมีความอุ่นขึ้นมานิดนึงของอบเชย และกลิ่นโทนดอกไม้อ่อนๆ แนวดอกไม้ขาวบางๆ ที่มาทำให้กลิ่นมีมิติที่ลุ่มลึกมากขึ้น ไม่ได้ทื่อๆ กับการเป็นปร่า Spicy Aromatic กับไม้หอมเพียงอย่างเดียว ซึ่งช่วงนี้ออร่ากลิ่นจะชัดเจนมากถึงการเป็นน้ำหอมสายสุภาพบุรุษสไตล์ Classic ที่มีความ Cool และความสุขุมในสายสว่างและสดชื่นที่ชัดเจนมาก แต่เมื่อพอผ่านไปซักพักกลิ่นโทนเขียวเข้มสไตล์ Dark Green จะเริ่มเนียนเข้ามาให้จับต้องได้มากขึ้นเรื่อยๆ จนรู้ได้ว่าเป็นโทนกลิ่นของ Oakmoss ที่สร้างความน่าค้นหาในสไตล์สุภาพบุรุษเข้ามาร่วมด้วย กลิ่นก็เริ่มขับเคลื่อนต่อในการเข้าช่วงท้ายตามลำดับ และ Oakmoss นี่แหละที่เป็นหลักสำคัญให้ช่วงท้ายได้อย่างดงามเลยทีเดียว

การสร้างออร่าทางกลิ่นของ Oakmoss ในช่วงท้ายจะไม่ได้มีความ Dark เขียวเข้มจัดๆ หรือสร้างความลุ่มลึกกรุยกรายนัก แต่จะได้อารมณ์แบบกลิ่นเขียวเข้มแบบกลิ่นออกทางกึ่งป่ากึ่ง Earthy ดินๆ ตามธรรมชาติที่โดนเกลากลิ่นจนสะอาด แต่ยังคงเสน่ห์คงเดิมไว้ได้อย่างดีเสียมากกว่า โดยจะมีตัวสนับสนุนอย่างโทนไม้หอมที่รับช่วงต่อมาจากช่วงกลางอย่างโทนสนไพน์และ Rosewood ที่มียังอยู่ แต่จะมีกลิ่นโทนไม้แห้งๆ เคล้า Smoky เบาๆ ของหญ้าแฝกที่เข้ามาเทคโอเวอร์ลดทอนกลิ่นติดชื้นๆ อ่อนๆ ลงไปลงเป็นกลิ่นปร่าไม้แห้งอะโรม่าเจือควันบางๆ และมีกลิ่นโทนคล้ายหญ้าแห้งเขียวติดหวานมีความนวลหน่อยๆ ของสารหอมที่ชื่อว่า Coumarin (ที่สกัดได้จากถั่วตองก้า) และมีกลิ่นพิมเสนสะอาดๆ หอมระเรื่อปร่าประปราย กลิ่นมีความ Classic แบบสุภาพบุรุษที่น่าค้นหาแบบไม่ได้ดาร์กจ๋าไป เพราะมีโทนสว่างล้อมกลิ่นอยู่เลยทำให้กลายเป็นกลิ่นสุขุมนิ่งและสุภาพแบบ Classic ที่รื่นจมูกติดเรียบหรูสบายๆ อยู่เช่นเดิม เรียกว่าคุมโทนได้ดีตั้งแต่ช่วงต้นจนถึงท้ายได้อย่างงดงามในการสร้างกลิ่นอายสไตล์ Classic ของผู้ชายที่สดชื่น มีระดับ เรียบหรู นิ่งน่าค้นหาแต่ Nice เป็นออร่าออกมาได้งดงามกันแบบยาวๆ ไปบนผิวเลย

เหมาะสำหรับ - ผู้ชายทุกเพศวัยเรียนมหาลัยเป็นต้นไปก็ใช้กลิ่นนี้ได้แล้ว กลิ่นอาจจะไม่ได้ดูโฉ่งฉ่างตามยุคสมัย แต่มันสุภาพและ Cool แบบมีระดับ สร้างออร่าผู้ชายสุขุม Cool และ Nice ที่มีความเป็นผู้ใหญ่สไตล์ลุคอบอุ่นเข้าถึงง่าย ยิ่งถ้าแต่งตัวแบบหวีผมเรียบแปล้แบบ Vintage ร่วมสมัยกับการแต่งตัวสุภาพออกทางกึ่งเนี้ยบกึ่งสบายกลิ่นจะเสริมลุคได้ดีจริงๆ เลยจะเหมาะมากกับยามทางการทุกกรณี รวมถึงการใส่แบบทั่วๆ ไป ที่ลามไปถึงการใส่กิจกรรมกลางแจ้งก็ได้ หรือออกกำลังกายก็ได้ ครอบจักรวาลชัดเจน แต่จะมีเพียงยามค่ำคืนที่เหมาะกับการใส่ออกงานกับสบายๆ เสียมากกว่า เพราะกลิ่นไม่ได้เข้าทางการใส่ไปเป็นสายเย้าเรียกแขกเสริมการท่องราตรีเลย

ความทน - ดีงาม 8 ชม. กลิ่นยังอยู่และยาวไปจนถึง 12 ชม. ทุกครั้งที่ใช้ กับจำนวนสเปรย์ 6 สเปรย์

การกระจาย - กลิ่นกระจายค่อนข้างเสถียรมากในความปานกลางที่ไม่พุ่งเกินไป ไม่หนักไป คุมโทนดีกันยาวๆ ตั้งแต่ช่วงต้นจนถึงช่วงท้าย ก่อนจะค่อยๆ ผ่อนตัวลงมาเป็นออร่ารอบๆ ตัวตั้งแต่ชั่วโมงที่ 6 แล้วเป็น Skin Scent เอาตอนชั่วโมงที่ 8 - 10 ตามแต่สภาพอากาศและสภาพผิว

สรุป - หนึ่งในน้ำหอมชายที่ยอดเยี่ยมมากในการสร้างกลิ่นอายสายสดชื่น Classic เหนือกาลเวลาในการใช้งานที่สร้างความเป็นสุภาพบุรุษสะอาดสะอ้านในโทนกลิ่นอายสายไม้หอมและสมุนไพรที่มีระดับแบบไม่ต้องโฉ่งฉ่าง แต่มีความ Cool และ Nice ในทุกอณูกลิ่น แบบที่ไม่ต้องพยายามและรอดและหอมแบบที่มีเสน่ห์เรียบหรูและสุขุมได้งดงามจริงๆ

หมายเหตุ:
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://www.parfumo.net/Perfumes/Hermes/Equipage_Eau_de_Toilette

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น