วันอาทิตย์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2563

Review: Jo Malone - Assam & Grapefruit

Jo Malone - Assam & Grapefruit

พูดถึง Jo Malone แน่นอนว่าเรื่อง Collection น้ำหอมที่เป็น Limited Edition นี้เขาเก่งจริงๆ เพราะออกมาทุกปี และในแต่ละปีก็จะมีตัวที่ได้รับคัดเลือกเข้าสู่ Line ปกติราวๆ 1 - 2 ตัว ส่วนที่เหลือก็ดรอปไป รออนาคตสร้างสรรค์มาเป็น Limited เฉพาะกาลไหนก็ว่ากันไป และเมื่อลองย้อนกลับไปในปี 2011 สิ่งที่แบรนด์เอามาสร้างสรรค์เป็นสาย Limited Edition ของแบรนด์นี้อย่างกลิ่น “ชา” ก็มีความน่าสนใจมากและทุกตัวต่างก็มีความดีงามของตัวเอง จนแบบว่ารักพี่เสียดายน้องกันได้เลย และตัวที่ได้ไปต่อของแบรนด์นั่นก็คือ Earl Grey & Cucumber ที่อยู่กันยาวๆ มาจนถึงทุกวันนี้

แต่ การเล่ากลิ่นจะไม่ได้มาที่ตัวได้ไปต่อ เพราะเราสนความดีงามของตัวอื่นที่ได้มีการนำกลับมาเป็นกรณีพิเศษ โดย Jo Malone ได้จับมือกับแบรนด์สูทชื่อดังของ UK อย่าง Huntsman Savile Row ในการสร้าง Collection ในการเป็นน้ำหอมผู้ชายสายผู้ดีอังกฤษในสไตล์ Jo Malone X Huntsman ในสไตล์ Scent of Agent แบบสายลับ Kingsman โดยเอากลิ่นต่างๆ ของแบรนด์ที่มีอยู่เดิมใน Limited Edition ต่างๆ กลับมาใหม่ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีรุ่น Assam & Grapefruit ใน Tea Collection เมื่อปี 2011 รวมอยู่ด้วย เช่นนั้น เมื่อได้กลับมาเลยต้องเล่ากันหน่อยว่ากลิ่นชาของ Jo Malone รุ่นนี้จะเป็นอย่างไร

เปิดต้นกลิ่นมาความเป็นเกรปฟรุตที่จะให้โทนเปรี้ยวติดแปร่งอะโรม่าสดชื่นจะฟุ้งออกมาตีคู่กับกลิ่นติดเปรี้ยวปนกลิ่นผักกึ่งเบอร์รี่อ่อนๆ ของผักรูบาร์ปที่สร้างความสดใสกันก่อนในวินาทีแรก แต่วินาทีถัดไปจะได้อารมณ์กลิ่นกึ่งสบู่กึ่งแป้งโปร่งๆ ติดเขียวของไวโอเล็ต เจือมีความปร่าหน่อยๆ จากเครื่องเทศติดอวลเล็กๆ ที่เข้ามาเสริมและผสมผสานกับโทนเกรปฟรุตและรูบาร์ปแบบตามติด ทำให้กลิ่นในช่วงแรกอารมณ์กลิ่นจะเป็นลักษณะสบู่เกรปฟรุตสดชื่นที่มีลูกเล่นของกลิ่นเปรี้ยวติดผักเคล้ากลิ่นเครื่องเทศหวานเผ็ดปร่าบางๆ และไม่กี่นาทีต่อมา ตัวเอกของกลิ่นอีกตัวอย่างกลิ่นชาที่ให้ความเขียวเจือเข้มหอมจะเสริมเข้ามาร่วมด้วยช่วยกันสร้างอัตลักษณะที่เป็นกลิ่นชาหอมเจือเกรปฟรุตติดอวลหน่อยได้อย่างลงตัวและสร้างความประทับใจแรกกลิ่นได้เลยทีเดียว

ความเป็นเกรปฟรุตจะยังคงอยู่ในการเข้าสู่ช่วงกลางของน้ำหอม โดยจะยังทำหน้าที่คลอเคลียไปกับกลิ่นชาที่เป็นลักษณะของชาดำแต่จะมีความเขียวติดปลายกลิ่นและมีกลิ่นคล้ายส้มเล็กๆ ในเนื้อกลิ่นชาที่สอดรับพอดีกับกลิ่นเกรปฟรุต ซึ่งตอนนี้จะได้อารมณ์ชาหอมโปร่งเจือความเปรี้ยวแปร่งหอมเฉพาะได้ดีมาก โดยที่เนื้อกลิ่นเวลาดมใกล้ผิวที่เป็นมิติซ้อนลงไปจะได้โทนติดแป้งเขียวโปร่งๆ เจือกุหลาบบางๆ และมีความหวานอวลนิดๆ ของเครื่องเทศที่จับต้องได้ชัดขึ้นว่าเป็นกระวานซ้อนอยู่ ซึ่งกลิ่นจะได้ความหอมอะโรม่าเจือสดชื่นตามด้วยความนวลแป้งหอมดอกกุหลาบหวานบางๆ ที่ลงตัว กลิ่นมีความเรียบหรูชัดเจนเพราะพื้นฐานมีกลิ่นชาเป็นที่ตั้งอยู่แล้ว แต่เพิ่มความมีเสน่ห์ติด Cool ปนเย้ายวนอ่อนๆ เข้าไปด้วยเพราะความเป็นชาดำที่เจือแป้งหอมระเรื่อนี่แหละ ซึ่งกลิ่นจะดำเนินไปเรื่อยๆ จนเมื่อรู้สึกว่ากลิ่นนุ่มขึ้นนวลขึ้น ก็เข้าสู่ช่วงท้ายโดยที่เลเยอร์ชั้นแรกของกลิ่นจะยังเป็นชาดำเคล้าเกรปฟรุตที่ยังคงให้อะโรม่ากึ่งสดชื่นอยู่ แต่เลเยอร์ที่ซ้อนลงไปจะเป็นกลิ่นกึ่งโทนถั่วเล็กๆ เบาๆ เคล้าโทน Musk ที่ให้ความนุ่มสะอาด โดยจะได้อารมณ์ติดกลิ่นโทนปร่าระเรื่อบางๆ ของพิมเสนนิดๆ เสียด้วย ซึ่งกลิ่นจะได้ความผ่อนคลายกำลังดี มีความเรียบหรูที่ยังคุมโทนทั้งความสดชื่นหน่อย ความ Cool มีระดับ และความนวลสะอาดมีเสน่ห์แบบที่กลิ่นไม่ได้หนักไป แต่ให้ความเรื่อยๆ มาเรียงๆ ที่ลงตัวนั่นเอง

เหมาะสำหรับ - Unisex เลย กลิ่นมีความกลางๆ กำลังดีแตะได้หมดทุกเพศ แต่ได้ในหลายๆ สถานการณ์ แต่จะยืนพื้นที่สถานการณ์ที่ให้ความสมาร์และสุขุมเนียนๆ ก่อนที่กลิ่นจะเข้าท่ามากจริงๆ แต่ถ้าเอามาใส่กับสถานการณ์สบายๆ ทั่วๆ ไปในความกลางวันก็ได้สบายมาก ซึ่งจะให้ความเรียบหรูปนสดชื่นที่มีระดับอยู่แล้ว ส่วนยามค่ำคืนเน้นใส่แบบออกงานหรือว่าผ่อนคลายดีกว่า เพราะกลิ่นไม่เข้าทางกับการใส่ไปท่องราตรีที่เจอความจัดหนักของผู้อื่นในเรื่องน้ำหอมสายอวลแน่ๆ

ความทน - อยู่ที่ราวๆ 4 ชม. เป็นพื้นฐาน ก็ Eau de Cologne นี่เนาะ แต่สามารถไปต่อได้อีกถึง 6 ชม. ไม่ยาก ถ้าจำนวนสเปรย์เหมาะสม สภาพอากาศไม่ร้อนจัดเกินไป และสภาพผิวกายยื้อน้ำหอมไว้ได้นานพอ ซึ่งส่วนตัวใช้ไป 7 สเปรย์ ไปที่ 6 ชม. ได้สบายๆ และยาวไปต่อถึง 8 ชม.ได้ด้วยเพราะว่าฉีดเสื้อที่สวมด้วยส่วนหนึ่ง

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้นให้ความสว่างสดชื่นปลอดโปร่งกันมาเลย ก่อนจะลดลงมาที่ปานกลางซักครู่ ที่เหลือจะเป็นออร่ารอบๆ ตัวกันยาวๆ ไปหลังผ่านไป 2 ชม. แล้วจะจางลงไปเป็น Skin Scent ที่ให้ลักษณะตามสไตล์ของ Jo Malone ในแบบ Whispering Scent

สรุป - หนึ่งในกลิ่นชาที่ลงตัวมากๆ ให้ความสดชื่นก็ได้ สุภาพก็ดี มีเสน่ห์ก็สามารถ และยังให้ความสมาร์ทติด Cool ได้อย่างลงตัวจริงๆ เสียดายที่กลิ่นนี้ไม่าได้ไปต่อยาวๆ ในการเป็น Jo Malone ไลน์หลัก แต่อีกมุมก็เป็นเรื่องดี เพราะโทนลักษณะนี้มีตัวเลือกที่มาแข่งขันเพียบพอสมควรไม่ว่าจะเป็น Bvlgari ที่เก่งเรื่องน้ำหอมกลิ่นชา หรือแบรนด์อื่นๆ ที่ทำกลิ่นแนวชาเกรปฟรุต เช่นนั้น Limited กันต่อไป

หมายเหตุ:

1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://www.jomalone.co.uk/product/25946/68620/colognes/assam-grapefruit-cologne

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น